"การค้าประเวณี" อยู่คู่สังคมไทยมายาวนานและนับวันจะมี "เด็กสาว" เข้าสู่วงจรอันเลวร้ายนี้มากขึ้น โดยเฉพาะในเมืองกรุงมีแหล่งค้าประเวณีที่ขึ้นชื่ออยู่หลายแห่ง อาทิ ย่านถนนเพชรบุรี ,ย่านสนามหลวง เป็นต้น "เอแบคโพลล์" ระบุ เยาวชนมีความโน้มเอียงขายบริการทางเพศมากขึ้น จาก 380,000 คน เป็นเกือบ 500,000 คน และคาดกันว่า สิ้นปีนี้จะมีวัยรุ่นชายหญิงติดเชื้อเอดส์กว่า 70,000 คน
โรงแรมสยาม ริมถนนเพชรบุรี เป็นสถานที่แรกที่เรามีโอกาสแวะเข้ามาเยือน เพราะได้ยินกิตติศัพท์มานานว่า น้องๆที่นี่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น หน้าตาสะสวย หลายรายก็ยังศึกษาอยู่ ซึ่งกระจายกันยืนรอลูกค้าบริเวณด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง และนั่งรอภายในตัวโรงแรม ราคาก็ลดหลั่นไปตามความสวยและอายุการใช้งาน ระหว่าง 1,300-2,000 บาท แต่ในช่วงฟ้าสางสามารถต่อรองราคาให้ลดมาอยู่ที่ 700 บาทได้
จุดที่สองเรามาหยุดที่สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่รู้จักกันดีในนามหัวลำโพง ซึ่งมีการขายบริการทางเพศหลายรูปแบบ ทั้งการยืนรอเรียกลูกค้าเหมือนที่อื่นๆ การขายบริการของเด็กวัยรุ่นดมกาว และการแอบแฝงขายบริการโดยใช้อาชีพขายส้มตำบังหน้า ซึ่งราคาวัยรุ่นจะอยู่ราวๆ 500 บาท ถ้าค่อนข้างมีอายุแล้ว ราคาจะลดลงมาถึง 350 บาท ไม่รวมค่าโรงแรมราคาถูกในย่านนี้
มาที่สนามหลวง ซึ่งเป็นศูนย์รวมของสารพัดปัญหากันบ้าง แน่นอนว่า การค้าประเวณีเป็นปัญหาที่อยู่คู่ท้องสนามหลวงมายาวนาน ส่วนใหญ่จะนั่งและยืนเรียงแถวรอลูกค้าที่ขับรถมาจอดเทียบบริเวณฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เหลือกระจายไปตามสวนหย่อมอนุสาวรีย์ทหารอาสา ส่วนหย่อมตรงข้ามวัดพระแก้ว สวนหย่อมพระแม่ธรณีบีบมวยผม และบริเวณโดยรอบท้องสนามหลวง ซึ่งราคาจะอยู่ระหว่าง 300-800 บาท เมื่อตกลงราคากันได้แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะไปกันที่โรงแรม 35 ที่มีราคาแสนถูกเพียง 100 กว่าบาทเท่านั้น
อีกแห่งที่มีราคาใกล้เคียงกันทั้งค่าตัวและค่าโรงแรม คือ รอบสวนลุมพินี ที่จะมียืนรอลูกค้าจำนวนมาก ยังฝั่งตรงข้ามสะพานไทยเบลเยี่ยม ถนนพระรามที่ 4 โดยจะมีให้เลือกตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัย 50 ปีก็มี ตกลงราคากันเสร็จสรรพแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายที่โรงแรมราคาถูกภายในซอยสาทร 1 แม้ที่นี่จะอยู่ใกล้สถานีตำรวจมากที่สุด แต่ก็ไม่ทำให้หญิงค้าบริการเกรงกลัวแต่อย่างใด
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ สำรวจพบข้อมูลที่น่าตกใจว่า จำนวนเยาวชนที่มีความโน้มเอียงในการขายบริการทางเพศเพิ่มมากขึ้น จากกว่า 380,000 คน เป็นเกือบ 500,000 คน และคาดกันว่า สิ้นปีนี้จะมีวัยรุ่นชายหญิงติดเชื้อเอดส์กว่า 70,000 คนด้วยกัน
วกกลับมาที่เขตพระนครอีกครั้ง ไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกล แต่เป็นแหล่งค้าประเวณีคู่สนามหลวงมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล คือริมคลองคูเมืองเดิม หรือคลองหลอด ซึ่งหญิงค้าบริการที่นี่ส่วนใหญ่จะค่อนข้างมีอายุ และหลบอยู่ตามมุมมืดใต้ต้นขนุน จนเรียกติดปากว่า ผีขนุนมาจนทุกวันนี้ พูดถึงเรื่องราคาก็ค่อนข้างถูกเพียง 100-300 บาท
ปิดท้ายกันที่วงเวียนใหญ่ แหล่งค้าประเวณีชื่อดังย่าน ฝั่งธนบุรี ภาพที่เราเห็นก็ไม่ต่างจากสถานที่อื่นๆ เมื่อมีบรรดาหญิงสาวยืนรอลูกค้าตั้งแต่บริเวณหน้าโรงแรมจิ้งหรีด และกระจายไปตามแนวโค้งของถนนรอบวงเวียนใหญ่ สนนราคาก็อยู่ที่ชั่วคราว 300 บาท ค้างคืน 500 บาท และที่เหมือนกับทุกแห่งที่กล่าวมาก็คือจะมีบรรดาสาวประเภทสอง มาเป็นทางเลือกให้ชายที่มีรสนิยมชื่นชอบไม้ป่าเดียวกันด้วย
นี่คือ ภาพที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ซึ่งถูกละเลยมานานจนกลายเป็นภาพชินตาของคนที่ผ่านไปผ่านมาในย่านดังกล่าวไปแล้ว ข้อมูลที่นำมาเสนอนี้ ไม่มีเจตนาเผยแพร่เพื่อการประชาสัมพันธ์ หรือส่งเสริมอาชีพค้าประเวณีแต่อย่างใด แต่มุ่งหวังทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตื่นตัวหันมาแก้ปัญหาอย่างจริงจังเสียที ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาฝังรากลึกจนยากจะแก้ไข
โรงแรมสยาม ริมถนนเพชรบุรี เป็นสถานที่แรกที่เรามีโอกาสแวะเข้ามาเยือน เพราะได้ยินกิตติศัพท์มานานว่า น้องๆที่นี่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น หน้าตาสะสวย หลายรายก็ยังศึกษาอยู่ ซึ่งกระจายกันยืนรอลูกค้าบริเวณด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง และนั่งรอภายในตัวโรงแรม ราคาก็ลดหลั่นไปตามความสวยและอายุการใช้งาน ระหว่าง 1,300-2,000 บาท แต่ในช่วงฟ้าสางสามารถต่อรองราคาให้ลดมาอยู่ที่ 700 บาทได้
จุดที่สองเรามาหยุดที่สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่รู้จักกันดีในนามหัวลำโพง ซึ่งมีการขายบริการทางเพศหลายรูปแบบ ทั้งการยืนรอเรียกลูกค้าเหมือนที่อื่นๆ การขายบริการของเด็กวัยรุ่นดมกาว และการแอบแฝงขายบริการโดยใช้อาชีพขายส้มตำบังหน้า ซึ่งราคาวัยรุ่นจะอยู่ราวๆ 500 บาท ถ้าค่อนข้างมีอายุแล้ว ราคาจะลดลงมาถึง 350 บาท ไม่รวมค่าโรงแรมราคาถูกในย่านนี้
มาที่สนามหลวง ซึ่งเป็นศูนย์รวมของสารพัดปัญหากันบ้าง แน่นอนว่า การค้าประเวณีเป็นปัญหาที่อยู่คู่ท้องสนามหลวงมายาวนาน ส่วนใหญ่จะนั่งและยืนเรียงแถวรอลูกค้าที่ขับรถมาจอดเทียบบริเวณฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เหลือกระจายไปตามสวนหย่อมอนุสาวรีย์ทหารอาสา ส่วนหย่อมตรงข้ามวัดพระแก้ว สวนหย่อมพระแม่ธรณีบีบมวยผม และบริเวณโดยรอบท้องสนามหลวง ซึ่งราคาจะอยู่ระหว่าง 300-800 บาท เมื่อตกลงราคากันได้แล้ว ส่วนใหญ่ก็จะไปกันที่โรงแรม 35 ที่มีราคาแสนถูกเพียง 100 กว่าบาทเท่านั้น
อีกแห่งที่มีราคาใกล้เคียงกันทั้งค่าตัวและค่าโรงแรม คือ รอบสวนลุมพินี ที่จะมียืนรอลูกค้าจำนวนมาก ยังฝั่งตรงข้ามสะพานไทยเบลเยี่ยม ถนนพระรามที่ 4 โดยจะมีให้เลือกตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัย 50 ปีก็มี ตกลงราคากันเสร็จสรรพแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายที่โรงแรมราคาถูกภายในซอยสาทร 1 แม้ที่นี่จะอยู่ใกล้สถานีตำรวจมากที่สุด แต่ก็ไม่ทำให้หญิงค้าบริการเกรงกลัวแต่อย่างใด
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ สำรวจพบข้อมูลที่น่าตกใจว่า จำนวนเยาวชนที่มีความโน้มเอียงในการขายบริการทางเพศเพิ่มมากขึ้น จากกว่า 380,000 คน เป็นเกือบ 500,000 คน และคาดกันว่า สิ้นปีนี้จะมีวัยรุ่นชายหญิงติดเชื้อเอดส์กว่า 70,000 คนด้วยกัน
วกกลับมาที่เขตพระนครอีกครั้ง ไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกล แต่เป็นแหล่งค้าประเวณีคู่สนามหลวงมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล คือริมคลองคูเมืองเดิม หรือคลองหลอด ซึ่งหญิงค้าบริการที่นี่ส่วนใหญ่จะค่อนข้างมีอายุ และหลบอยู่ตามมุมมืดใต้ต้นขนุน จนเรียกติดปากว่า ผีขนุนมาจนทุกวันนี้ พูดถึงเรื่องราคาก็ค่อนข้างถูกเพียง 100-300 บาท
ปิดท้ายกันที่วงเวียนใหญ่ แหล่งค้าประเวณีชื่อดังย่าน ฝั่งธนบุรี ภาพที่เราเห็นก็ไม่ต่างจากสถานที่อื่นๆ เมื่อมีบรรดาหญิงสาวยืนรอลูกค้าตั้งแต่บริเวณหน้าโรงแรมจิ้งหรีด และกระจายไปตามแนวโค้งของถนนรอบวงเวียนใหญ่ สนนราคาก็อยู่ที่ชั่วคราว 300 บาท ค้างคืน 500 บาท และที่เหมือนกับทุกแห่งที่กล่าวมาก็คือจะมีบรรดาสาวประเภทสอง มาเป็นทางเลือกให้ชายที่มีรสนิยมชื่นชอบไม้ป่าเดียวกันด้วย
นี่คือ ภาพที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย ซึ่งถูกละเลยมานานจนกลายเป็นภาพชินตาของคนที่ผ่านไปผ่านมาในย่านดังกล่าวไปแล้ว ข้อมูลที่นำมาเสนอนี้ ไม่มีเจตนาเผยแพร่เพื่อการประชาสัมพันธ์ หรือส่งเสริมอาชีพค้าประเวณีแต่อย่างใด แต่มุ่งหวังทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตื่นตัวหันมาแก้ปัญหาอย่างจริงจังเสียที ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาฝังรากลึกจนยากจะแก้ไข