"เฒ่าวัย 72" ยึดป้ายรถเมล์ผูกคอตายประชดชีวิตโดดเดี่ยวหลังจากแยกอยู่กับภรรยาและครอบครัว จนท.สันนิษฐาน คาดว่าผู้ตายอาจเกิดความเครียดจัดจนตัดสินใจลาโลกด้วยน้ำมือตัวเอง
วันนี้(20 ก.ย.)เวลา 06.40 น.พ.ต.ท.จรัล สามพ่วงบุญ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ต.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตายบริเวณศาลาพักผู้โดยสาร ตรงข้ามโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ ม.6 ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุเป็นศาลาพักผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ได้่พบชายสูงอายุได้เสียชีวิตแล้วโดยสภาพศพที่ลำคอมีเชือกผูกโยงไว้กับขื่อบนศาลา ตัวแข็ง ลิ้นจุกปาก เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพลงมาเพื่อทำการชันสูตร พบว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 -8 ชั่วโมง
ใกล้กันนั้นบริเวณที่นั่งพักในศาลา เจ้าหน้าที่พบกระเป๋าสะพายขนาดเล็ก 1 ใบวางอยู่คาดว่าเป็นของผู้ตายจึงได้เปิดออกตรวจสอบพบว่าในกระเป๋าใบดังกล่าวมีอาวุธปืนขนาด .22 มม.จำนวน 1 กระบอกภายในโม่บรรจุกระสุนปืนไว้จำนวน 5 นัด นอกจากนี้ยังมีเสื้อยืด กางเกงในและกางเกงขาสั้นพับใส่ไว้ในกระเป๋าอีกอย่างละ 1 ตัว ส่วนในกระเป๋าสตางค์พบว่ามีเงินสดบรรจุอยู่จำนวน 720 บาท แต่ไม่พบว่ามีเอกสารใดๆทั้งสิ้นที่บ่งบอกว่าผู้ตายเป็นใคร นอกจากตั๋วรถเมล์สาย 83 ใบเสร็จค่าน้ำชาเชียวที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ที่เกิดเหตุระบุเวลาที่ซื้อ 20.00 น.เศษ และเศษกระดาษที่เขียนข้อความไว้ว่า “ไม่มีใครทำผม ผมทำตัวผมเอง และเขียนหมายเลขโทรศัพท์ไว้จำนวน 2 เบอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนส่งศพไปชันสูตรที่ รพ.ศิริราช ต่อไป
จากการสอบสวนนางณีรนุช สภาจันทรสุข อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/49 หมู่ 1 แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ บุตรบุญธรรมของผู้ตายที่เข้ามาดูเหตุการณ์ทราบว่าชายคนดังกล่าวคือนายพยนต์ เขียวงามดี อายุ 72 ปี หลังจากแยกอยู่กับภรรยาและครอบครัว ได้อาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งต่อมาได้ขายคอนโดฯดังกล่าว แล้วเก็บตัวอยู่ลำพัง ซึ่งคาดว่าผู้ตายจะเกิดความเครียดจนต้องแขวนคอฆ่าตัวตายโดยล่าสุดผู้ตายเคยโทรศัพท์มาหาบ่นว่าลูกๆไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครคอยดูแลเป็นห่วง อยากจะไปบวชเป็นพระก็เลยวัยแล้วไม่รู้ทำอย่างไร ซึ่งเธอไม่คิดว่าพ่อบุญธรรมจะมาตายอย่างนี้
พ.ต.ท.จรัล สามพ่วงบุญ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่น่าจะเป็นการฆาตกรรม เพราะนางณีรนุช ได้ดูลายมือที่เขียนไว้ในเศษกระดาษซึ่งยืนยันแล้วว่าเป็นลายมือของผู้ตาย ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจว่าในเมื่อผู้ตายมีอาวุธปืน ถ้าจะฆ่าตัวตายทำไมถึงไม่ยิง แต่กลับมาใช้การผูกคอตายแทน ส่วนที่บริเวณเท้าและขา พบคราบเลือด ทางแพทย์ ได้บอกว่าน่าจะเกิดจากการแตกของเส้นโลหิตฝอยที่บีบตัวจนทำให้เลือกซึมออกมาตามผิวหนัง ซึ่งเบื้องตนเขาได้สรุปการตายครั้งนี้ว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย แต่จะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
วันนี้(20 ก.ย.)เวลา 06.40 น.พ.ต.ท.จรัล สามพ่วงบุญ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ต.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอตายบริเวณศาลาพักผู้โดยสาร ตรงข้ามโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ ม.6 ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดเหตุเป็นศาลาพักผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ได้่พบชายสูงอายุได้เสียชีวิตแล้วโดยสภาพศพที่ลำคอมีเชือกผูกโยงไว้กับขื่อบนศาลา ตัวแข็ง ลิ้นจุกปาก เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพลงมาเพื่อทำการชันสูตร พบว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 -8 ชั่วโมง
ใกล้กันนั้นบริเวณที่นั่งพักในศาลา เจ้าหน้าที่พบกระเป๋าสะพายขนาดเล็ก 1 ใบวางอยู่คาดว่าเป็นของผู้ตายจึงได้เปิดออกตรวจสอบพบว่าในกระเป๋าใบดังกล่าวมีอาวุธปืนขนาด .22 มม.จำนวน 1 กระบอกภายในโม่บรรจุกระสุนปืนไว้จำนวน 5 นัด นอกจากนี้ยังมีเสื้อยืด กางเกงในและกางเกงขาสั้นพับใส่ไว้ในกระเป๋าอีกอย่างละ 1 ตัว ส่วนในกระเป๋าสตางค์พบว่ามีเงินสดบรรจุอยู่จำนวน 720 บาท แต่ไม่พบว่ามีเอกสารใดๆทั้งสิ้นที่บ่งบอกว่าผู้ตายเป็นใคร นอกจากตั๋วรถเมล์สาย 83 ใบเสร็จค่าน้ำชาเชียวที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ที่เกิดเหตุระบุเวลาที่ซื้อ 20.00 น.เศษ และเศษกระดาษที่เขียนข้อความไว้ว่า “ไม่มีใครทำผม ผมทำตัวผมเอง และเขียนหมายเลขโทรศัพท์ไว้จำนวน 2 เบอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานก่อนส่งศพไปชันสูตรที่ รพ.ศิริราช ต่อไป
จากการสอบสวนนางณีรนุช สภาจันทรสุข อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/49 หมู่ 1 แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ บุตรบุญธรรมของผู้ตายที่เข้ามาดูเหตุการณ์ทราบว่าชายคนดังกล่าวคือนายพยนต์ เขียวงามดี อายุ 72 ปี หลังจากแยกอยู่กับภรรยาและครอบครัว ได้อาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งต่อมาได้ขายคอนโดฯดังกล่าว แล้วเก็บตัวอยู่ลำพัง ซึ่งคาดว่าผู้ตายจะเกิดความเครียดจนต้องแขวนคอฆ่าตัวตายโดยล่าสุดผู้ตายเคยโทรศัพท์มาหาบ่นว่าลูกๆไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครคอยดูแลเป็นห่วง อยากจะไปบวชเป็นพระก็เลยวัยแล้วไม่รู้ทำอย่างไร ซึ่งเธอไม่คิดว่าพ่อบุญธรรมจะมาตายอย่างนี้
พ.ต.ท.จรัล สามพ่วงบุญ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่น่าจะเป็นการฆาตกรรม เพราะนางณีรนุช ได้ดูลายมือที่เขียนไว้ในเศษกระดาษซึ่งยืนยันแล้วว่าเป็นลายมือของผู้ตาย ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจว่าในเมื่อผู้ตายมีอาวุธปืน ถ้าจะฆ่าตัวตายทำไมถึงไม่ยิง แต่กลับมาใช้การผูกคอตายแทน ส่วนที่บริเวณเท้าและขา พบคราบเลือด ทางแพทย์ ได้บอกว่าน่าจะเกิดจากการแตกของเส้นโลหิตฝอยที่บีบตัวจนทำให้เลือกซึมออกมาตามผิวหนัง ซึ่งเบื้องตนเขาได้สรุปการตายครั้งนี้ว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย แต่จะมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง