xs
xsm
sm
md
lg

เร่งสอบเอาผิดตร.สายตรวจขอนแก่นหื่น

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

โฆษก ตร.ภ.4 ระบุ ตำรวจสายตรวจหื่นผิดทางวินัยเต็มๆหากผลสอบเป็นจริงอย่างที่ถูกกล่าวหาพร้อมเร่งสอบพยานเอาผิดถึงที่สุด กำชับทุกกองบังคับการปรับแผนการทำงานสร้างมวลชน

วันนี้ (16ก.ย.) ความคืบหน้าคดี น.ส.ฐิติมา นาทันริ อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ม.10 ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น น้องสาวของนายจักรพันธ์ นาทันริ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นเข้าร้องเรียน ต่อ พล.ต.ต.ทวีพร นามเสถียร ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.อ.เมืองขอนแก่น จับกุมขณะกลับจากชมแสดงคอนเสริ์ต โดยกล่าวหาว่าอยู่ในกลุ่มรถซิ่งพร้อมทั้งควบคุมตัวไปทำการสอบปากคำที่ สภ.อ.เมืองขอนแก่น

โดยไม่ยอมให้ติดต่อกับผู้ปกครองและร่างกายได้รับบาดเจ็บตามร่างกายเป็นแผลหลายแห่ง อีกทั้งยังพูดให้ช่วยหาเด็กมาร่วมประเวณี โดยระบุว่า ถ้าหาไม่ได้จะจัดการกับน้องเองหุ่นอย่างน้องพี่ชอบ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ก.ย.47 ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร รอง ผบก.อก.ภ.4 ในฐานะ โฆษกตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการเอื้ออาทร ตำรวจภูธรภาค 4 ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูง โดยเฉพาะในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้กำชับในเรื่องดังกล่าวให้มีการดำเนินการอย่างเต็มที่ เนื่องจากสร้างความเสื่อมเสียแก่ภาพพจน์ตำรวจเป็นอย่างมาก

ซึ่งตามข้อเท็จจริงที่ได้รับรายงานต้องมีการแยกออกเป็น 2 ประเด็นในเรื่องของการทำงานของตำรวจที่เป็นกระบวนการขั้นตอนที่คงต้องใช้เวลา แต่ประเด็นที่ทางผู้บังคับบัญชาติดใจเป็นอย่างมากคือเรื่องของคำพูดที่คนเป็นตำรวจที่สวมใส่เครื่องแบบ ทำงานเพื่อประชาชนไปพูดจากับเด็กอย่างนี้ได้ยังไง คนทำหน้าที่ตำรวจระเบียบระบุชัดเจน กฎหมายก็มีบังคับแต่มาประพฤติตัวอย่างนี้ก็ต้องว่าตามหลักฐานข้อเท็จจริง ถ้าผิดก็ต้องมีการลงโทษทางวินัยอย่างถึงที่สุด

“เรื่องที่เกิดขึ้นต้องมีการแยกประเด็นออกเป็น 2 ส่วนคือเรื่องการทำงานของตำรวจ และพฤติกรรมของตำรวจเฉพาะบุคคล ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องคนนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่เกินไปของคนที่เป็นตำรวจ ไม่สมควรอย่างยิ่งจะพูดในเรื่องดังกล่าว ที่ส่อในทางเชิญร่วมค้าประเวณีและเป็นธุระจัดการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่สมควรอย่างยิ่ง"พ.ต.อ.ศักดากล่าวและว่าคนเดียวมาทำให้ตำรวจทั้งโรงพักและทั้งหน่วยต้องพลอยเสื่อมเสียชื่อเสียง ผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะสรุปเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จให้เร็วที่สุด เบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 5 วันในการพิจารณาไต่สวนในข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นและให้มีการสรุปเรื่องส่งให้ทางภาค 4 พิจารณาอีกครั้ง ในส่วนของโทษนั้นถ้าคณะกรรมการสอบสวนสอบแล้วมีมูลความจริงก็จะต้องมีการลงโทษตามกฎของตำรวจ.ที่กำหนดไว้ตั้งแต่ปรับย้ายหรือสั่งขัง ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันว่าจะต้องดำเนินการอย่างเต็มที่และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ผิดก็ต้องว่าไปตามความผิด

อย่างไรก็ตามต่อไปจะมีการกำชับไปยังทุกกองบังคับการในพื้นที่ 11จังหวัดภาคอีสานตอนบนในความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 4 ในเรื่องของการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้มีการยึดกฎระเบียบและคำสั่งของ ตร.อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในเรื่องของการปฎิบัติตัวต่อประชาชน

ขณะที่ พล.ต.ต.ทวีพร นามเสถียร ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยมอบหมายให้ ทาง สภ.อ.เมืองขอนแก่น ดำเนินการสอบสวนในส่วนของต้นสังกัดก่อนเพราะปัจจุบันตำรวจมีการทำงานอย่างบูรณาการ โดยกำหนดการรายงานผลภายใน 5 วัน เบื้องต้นทาง ผกก.สภ.อ.เมือง รายงานว่า ได้ปรับย้ายตำรวจคนดังกล่าวให้พ้นจากการบริการประชาชน คือจากสายตรวจให้ไปเป็นยามศาล เพื่อรอการพิจารณาไต่สวนทางวินัย ซึ่งก็ต้องมีการเรียกสอบพยานให้ครบทุกปาก

แต่ในช่วงที่เกิดเหตุทางผู้เสียหายบอกว่ามีเพียง ตำรวจคนดังกล่าวกับผู้เสียหายเท่านั้นซึ่งเป็นเรื่องระหว่าง 2 คน และทางผู้เสียหายยังยืนยันว่าตำรวจคนดังกล่าวพูดจริง ซึ่งก็ต้องมีตรวจสอบอีกครั้ง เพราะถือเป็นการสร้างภาพลบให้กับวงการตำรวจเป็นอย่างมาก เพราะการเข้าหามวลชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่ผู้บังคับบัญชาในระดับสูงได้กำชับให้ทุกกองบังคับการถือปฎิบัจติอย่างเคร่งครัด ซึ่งยังคงต้องรอรายงานสรุปจึงจะมีการพิจารณาตัดสินกันอีกครั้งว่าจะพิจารณาลงโทษตำรวจคนดังกล่าวอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น