xs
xsm
sm
md
lg

บุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารเอเชียกลางเมืองพัทยา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

วัยรุ่นบุกเดี่ยวเย้ยตำรวจ ชิงทรัพย์ธนาคารเอเชีย กลางใจเมืองพัทยา เชิดเงินกว่า 1 ล้านบาทหลบหนีลอยนวล


เวลาประมาณ 15.55 น.วันนี้ (13 ก.ย.) พ.ต.อ.กมลชัย เทียนรุ่งโรจน์ ผกก.สภ.ต.พัทยา ได้รับแจ้งมีคนร้ายเป็นชายไทยใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดบุกเข้าไปก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ภายใน บมจ.ธนาคารเอเชีย สาขาย่อยพัทยา ถนนพัทยาสายสอง ตั้งอยู่เลขที่ 325/115-116 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนขนเงินสดเป็นธนบัตรไทยจำนวน 1 ล้านกว่าบาท ขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง

ในที่เกิดเหตุพบว่า ธนาคารดังกล่าวมีลักษณะเป็นอาคารพานิชย์ขนาด 2 คูหาสูง 3 ชั้น โดยที่บริเวณด้านหน้าพบนายไพฑูรย์ อรุณพันธ์ ผู้จัดการธนาคาร และกลุ่มพนักงานหญิงจำนวน 4 คนยืนรอให้การอยู่ ซึ่งจากการสอบสวนนายไพฑูรย์ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้ปิดทำการของวัน ซึ่งช่วงนั้นไม่มีลูกค้าและพนักงานกำลังตรวจเช็คเงินสดเพื่อเก็บใส่กล่องพัสดุก่อนนำเข้าเก็บในตู้เซฟ ได้มีคนร้ายเป็นชายไทยวัยรุ่น ผิวขาว หน้าตาดี สูงประมาณ 165-170 ซม.อายุประมาณ 20 ปี สวมหมวกแก็ปสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว กางเกงยีนส์ สะพายเป้สีดำ เดินเข้ามาติดต่อธุระ โดยบอกว่าจะนำเงินมาเข้าบัญชีส่วนตัว แต่จำหมายเลขบัญชีไม่ได้

ทางพนักงานจึงไม่สามารถดำเนินการได้ คนร้ายจึงแจ้งว่าจะ ขอโทรศัพท์ไปสอบถามเลขบัญชีที่บ้าน จากนั้นก็เดินคุยโทรศัพท์มือถือภายในธนาคารเป็นเวลานานกว่า 2 ชม.จนกระทั่งสังเกตุเห็นว่า ธนาคารไม่มีลูกค้าจึงได้เดินไปที่เคาน์เตอร์และชักอาวุธปืนสั้นไม่ทราบขนาดขึ้นมาจากเอว ก่อนที่จะขึ้นลำและจ่อที่ศีรษะของ นางนุจจรินทร์ ธรรมรักษ์ อายุ 40 ปี พนักงานของธนาคาร จากนั้นจึงตะโกนบอกให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และสั่งห้ามไม่ให้กดกริ่งสัญญาณ ก่อนที่จะสั่งให้นางนุจจรินทร์ หยิบกล่องพัสดุ ซึ่งบรรจุเงินสดเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท รวมมูลค่าจำนวน 1 ล้าน 5 หมื่นบาทส่งให้

จากนั้นคนร้ายจึงนำเงินใส่เป้ที่เตรียมมา ก่อนจะวิ่งหลบหนีไป ซึ่งช่วงดังกล่าวไม่มีใครกล้าติดตามออกไปเนื่องจากเกรงว่าจะถูกทำร้าย ทำได้แต่เพียงกดกริ่งสัญญาณภายในจนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.กมลชัย กล่าวว่าหลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไปทางถนนพัทยากลางและหายตัวไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเตรียมรถจักรยานยนต์มารอรับและขับหลบหนีไปก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการสกัดจับแต่ก็ไร้วี่แวว อย่างไรก็ตามคนร้ายรายนี้ น่าจะมาสังเกตดูพฤติกรรมการทำงานของธนาคารมาหลายครั้งแล้ว จึงทราบขั้นตอนในช่วงของการตรวจเช็คและเตรียมเงินสดเพื่อเก็บรักษา รวมทั้งการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะเดินทางกลับก่อนช่วงธนาคารจะปิดทำการไม่นาน

ทั้งนี้ คงจะได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเวรทำการตรวจสอบร่องรอยโดยละเอียด พร้อมทั้งภาพของคนร้ายในโทรทัศน์วงจรปิดของธนาคาร นอกจากนี้จะได้นำตัวพนักงานทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติม รวมทั้งสเก็ตซ์ภาพของคนร้ายเพื่อดำเนินการต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น