หนุ่มพนักงานทำความสะอาดโรงปูน ดับสยองคาเครื่องผสมปูน เจ้าหน้าที่โรงปูนเผย ไม่รู้เข้าไปอยู่ในนั้นได้ยังไง เพราะปกติเครื่องผสมปูนจะล้างอัตโนมัติอยู่แล้ว ด้านเมียจวก ไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพียงพอ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (2 ก.ย.) พ.ต.ท.ประยูร ฤทธิกุล รอง ผกก.สส.สน.นพวงษ์ รับแจ้งผู้เสียชีวิตภายในเครื่องผสมปูน โรงงานคอนกรีตผสมเสร็จ ซีแพ๊ค พหลโยธิน 2 ถนนกำแพงเพชร แขวงและเขตจตุจักร กทม.จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ รอง ผกก.หน.สน.นพวงษ์ พบศพนายประยูร สินผิว อายุ 24 ปี เลขที่ 2 หมู่ 3 ต.โนนป่าซาง อ.ผาขาว จ.เลย พนักงานทำงานสะอาดของบริษัท สินธนโรจน์ จำกัด เสียชีวิตอยู่ในเครื่องผสมปูนมีบาดแผลบริเวณแผ่นหลัง กระดูกซี่โครงหักหลายซีก เสียชีวิตมาประมาณ 2 ชั่วโมง
จากการสอบถาม นายไมตรี จันทร์ทอง ผู้จัดการผลิตกลางของบริษัท กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นน่ามาจากอุบัติเหตุ เพราะปกติผู้ตายเป็นพนักงานจ้างเหมาทำความสะอาด โดยทุกวันผู้ตายจะทำหน้าที่ความสะอาดทั่วไป สำหรับบริเวณจุดที่ผู้ตายเสียชีวิตนั้น ทางโรงงานจะให้ทำความสะอาดช่วงเลิกงานวันต่อวัน โดยจะไม่ปล่อยให้ค้างคืน เพราะจะทำให้คอนกรีตแห้ง นอกจากนี้ทางเครื่องผสมปูนจะมีเครื่องล้างอัตโนมัติอยู่แล้ว
นายไมตรี ยังกล่าวอีกว่า ปกติทุกวันเครื่องโม่ปูนจะมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมอยู่ โดยก่อนที่จะเป่าปูนเข้าเครื่องเพื่อผสมนั้น จะมีการประกาศเตือนทุกครั้ง ซึ่งเครื่องจะเริ่มทำงานเวลา 07.30 น. แต่ไม่ทราบว่าผู้ตายขึ้นไปทำอะไรในช่วงดังกล่าว สำหรับการช่วยเหลือครอบครัวผู้ตายเป็นเรื่องของกฎหมายกำหนดไว้
นางบุศยา ชัยเฉลิม อายุ 20 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การว่า ตนเองเป็นภรรยาของผู้ตาย ทำงานเย็บผ้าอยู่บริษัทนาราย่า จำกัด ซอยลาดพร้าว 15 โดยอยู่กินกับผู้ตายมาหลายปีแล้ว มีบุตรด้วยกัน 2 คนเป็นชายอายุ 5 ขวบ 1 คน อายุ 10 เดือน 1 คน พักอาศัยอยู่บ้านพักคนงานใกล้ที่เกิดเหตุ
นางบุศยา กล่าวต่อว่า ปกติแล้วสามีของตน เป็นคนมีอุปนิสัยคนร่าเริง ไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่ และจะมาทำงานในช่วงเช้า กลับเข้าบ้านตอนเย็น นอกจากนี้ยังเป็นที่รักของเพื่อนๆ อีกด้วย ตนรู้สึกเสียใจที่ทางโรงงานไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยดีเท่าที่ควร จนทำให้สามีต้องมาจบชีวิตอย่างน่าอนาถเช่นนี้
ด้าน พ.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหาใครคงต้องรอสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเสียก่อน ถ้าพบว่ามีการกระทำผิดจริงต้องแจ้งข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป