xs
xsm
sm
md
lg

อัยการ...ถอดใจ"คดีฆ่าดาบยิ้ม"

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

คดีสังหารโหด “ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุต” หรือ ดาบยิ้ม ตำรวจกองปราบปราม ที่มี นายดวงเฉลิม หรือ ดวง อยู่บำรุง ลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม.พร้อมพวกรวม 5 คน ตกเป็นจำเลย ในขณะนั้น....และสุดท้าย ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา

โดยพิพากษายกฟ้อง นายกฤษพัฒน์ หรือ บิน จาตุรานนท์ จำเลยที่ 1, นายสุพจน์ หรือ แม็ค แสงอนันต์ จำเลยที่ 2, พ.ต.ต.ศราวุธ สกุลมีฤทธิ์ จำเลยที่ 4 และ นายดวงเฉลิม จำเลยที่ 5 ในทุกข้อหา

ส่วน นายวันเฉลิม อยู่บำรุง บุตรชายคนกลางของ ร.ต.อ.เฉลิม จำเลยที่ 3 ในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ศาลจำคุก 1 เดือน ปรับ 1 พันบาท แต่โทษจำคุก ให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี พร้อมกับเห็นควรกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมประพฤติ โดยห้ามเข้าไปในสถานบริการทุกแห่งทั่วราชอาณาจักรเป็นเวลา 2 ปี

คดีฆ่าดาบยิ้ม....ถึงวันนี้ อัยการเจ้าของสำนวนคดีตัวจริง...มีบทสรุป ออกมาว่าไม่สมควรสั่งอุทธรณ์จำเลยทั้ง 5 คนหลังจากขอขยายเวลาพิจารณามาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง โดยให้เหตุผลว่า ที่ศาลชั้นต้นอ้างไว้ในคำพิพากษามีความสมเหตุ สมผล แล้ว โดยเฉพาะ ในประเด็นที่เกี่ยวกับผลการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ เรื่องวิถีกระสุน และ ระยะห่างระหว่าง ผู้ตายกับผู้ยิงที่จะต้องเป็นลักษณะการกดปากกระบอกปืนประชิด ซึ่งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงได้

ประกอบกับคำเบิกความของพยานบุคคลในที่เกิดเหตุทั้ง พนักงานเสิร์ฟ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ตาย ก็ไม่มีใครเห็นคนร้ายที่ยิง ดาบยิ้ม สำหรับตัว นายดวงเฉลิม อยู่ในที่เกิดเหตุจริง โดยอยู่ห่างจากผู้ตายออกไป ประมาณ 2 เมตร ทางด้านซ้ายมือ และระหว่างเกิดเหตุชุลมุนทำร้ายร่างกายผู้ตาย ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด หลังสิ้นเสียงปืนมีชาย 1 คน ออกไปจากที่เกิดเหตุ ทางด้านขวาของผู้ตาย

นอกจากนี้พยานโจทก์ที่เป็นตำรวจยังเบิกความว่า ยืนอยู่ห่างจาก นายดวงเฉลิม ประมาณ 1 ศอก ไม่เห็นอาวุธปืน และไม่เห็นว่าใครเป็นคนลงมือยิง เห็นแต่ นายดวงเฉลิม ยื่นมือไปข้างหน้า จึงเห็นได้ว่าพยานทั้งหมดไม่มีใครยืนยันว่า นายดวงเฉลิม เป็นคนยิงดาบยิ้ม

ซึ่งจากคำชี้ขาดไม่สมควรอุทธรณ์ของอัยการเจ้าของคดีตัวจริง ทำให้ประชาชน เกิดความสับสน เนื่องจาก ในวันที่ศาลมีคำพิพากษา หวังว่า ทุคนคงยังจดจำได้เป็นอย่างดี...โดยในวันนั้น อัยการพูดชัดว่า”คดีนี้ สู้กันถึงฎีกาแน่นอน”แต่เมื่อหลังการตรวจคำพิพากษาอย่างท่องแท้ ทำให้ ความคิดเห็นของ อัยการเปลี่ยนไป...สุดท้ายอัยการ ต้องถอดใจ ยอมยกธงขาว ประกาศความพ่ายแพ้ ทั้งๆที่ คดีนี้ โจทก์ร่วม คือ นางสุพัตรา รอดวิมุติ ในฐานะผู้เสียหาย ได้ยื่นอุทธรณ์ คัดค้านคำพิพากษาไปแล้วเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยคัดค้านคำพิพากษายกฟ้อง ในส่วนของ จำเลยที่ 1 ,2 และ 5

วันนี้ คำสั่งไม่อุทธรณ์...ส่งถึงมือ สตช.โดย พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ รักษาการ ผบ.ตร.หลังรับหนังสือสั่งคดี จากอัยการ ก็ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.นันทวุธ นพคุณ ผู้บังคับการกองคดี ไปพิจารณาว่ามีเหตุผลเป็นอย่างไร สมควรจะเห็นด้วยกับอัยการหรือไม่ ซึ่งหากเห็นด้วยก็ทำหนังสือแจ้งกลับไป เรื่องก็เป็นอันยุติ แต่หากเห็นแย้ง ว่าควรจะอุทธรณ์ ก็ต้องทำหนังสือเสนอความเห็นไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อให้พิจารณาชี้ขาดภายใน 30 วัน

ขณะที่ มุมมองของ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความเห็นว่า คดีดาบยิ้ม ได้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลแล้ว อำนาจการตัดสินใจว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ เป็นของฝ่ายอัยการซึ่งรับผิดชอบการอุทธรณ์ แม้ว่าตามกฎหมายจะเปิดช่องให้ ผบ.ตร.เสนอความเห็นแย้งได้ โดยต้องทำหนังสือกลับไปยังอัยการฝ่ายอุทธรณ์ภายใน 30 วัน แต่ไม่ต้องส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด ซึ่งต่างกับคดีที่ อัยการเป็นผู้สั่งไม่ฟ้องคดีเอง เรื่องจึงยังไม่ถึงศาล เช่นคดีแพทย์หญิงผัสพร บุญเกษมสันติ ที่ตำรวจไม่เห็นด้วยกับอัยการ แล้วเสนอความเห็นแย้งไปให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด ซึ่งอัยการสูงสุดชี้อย่างไร ให้ถือเป็นที่สิ้นสุด

ดังนั้น จึงฟันธงได้เลยว่า เมื่อคดี “ดาบยิ้ม” เข้าสู่การพิจารณาของศาล และศาลชั้นต้นยกฟ้อง อัยการไม่อุทธรณ์ ก็เป็นเรื่องยากที่ สตช.จะมีความเห็นแย้ง คำสั่งไม่อุทธรณ์ .....

ด้านความรู้สึกของ ผู้เสียหาย หลังอัยการถอดใจ ยอมแพ้ “นางสุพัตรา รอดวิมุติ” ภรรยา ดาบยิ้ม ... ถึงกับ...งง และ ยังสับสน...ในคำวินิจฉัยของอัยการ โดยตัดพ้อในลักษณะ อัยการทนายแผ่นดินมีความรอบรู้ในตัวบทกฎหมาย...ยังปฏิเสธที่จะยื่นอุทธรณ์ ส่วนตนเองในฐานะผู้เสียหาย แม้จะเป็นโจทก์ร่วมและมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ได้ แต่จะมีความหวังอย่างไรกับระยะเวลาที่เหลือ...

สุดท้ายการเรียกหาความเป็นธรรมให้กับดาบยิ้ม คงพึ่งเวรพึ่งกรรม

คดีฆ่าดาบยิ้ม เมื่ออัยการไม่อุทธรณ์ แต่ภรรยา ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อคมกระสุนปริศนา... อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยมี นายวัชระ สุคนธ์ เป็นทนายความร่วมต่อสู้คดีในศาลสูง อย่างเดียวดาย...

คดีนี้ จะจบลงอย่างไร นางสุพัตรา จะเอาหลักฐานอะไร ไปใช้ในการหักล้าง พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ที่แม้แต่อัยการโจทก์ร่วมตัวจริง ก็ยอมรับผลแห่งคำพิพากษา...

เมื่อหนทางการต่อสู้คดีของ นางสุพัตรา อยู่ในภาวะที่น่าเห็นใจ โดยมี ผบ.ตร.เพียงผู้เดียว ที่จะมีความเห็นแย้ง คำสั่งไม่อุทธรณ์ของอัยการ หรือว่า สุดท้าย “ดาบยิ้ม” ต้องตายฟรี...โดยที่มือปืนผู้ลั่นไกสังหาร ยังคงลอยนวล หรือ...มือปืนที่ว่านั้น คือ ไอ้ปื๊ด...ตามที่ สารวัตรเฉลิม...เคยพูดไว้....
กำลังโหลดความคิดเห็น