กิตตินันท์ นาคทอง Facebook.com/kittinanlive
ความจริงได้ยินเรื่องร้านกาแฟในเรือนจำมาสักระยะหนึ่งแล้ว นับตั้งแต่การเปิดร้านกาแฟวังจันทร์ ในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (หลังเก่า) เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2562
กระทั่งผ่านไปเกือบ 4 ปี เริ่มพบเห็นร้านกาแฟที่ชื่อว่า คุกแอนด์คอฟ (Cook & Coff) เปิดอยู่หลายพื้นที่ ถ้าเป็นสถานที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุดก็คือ “เรือนจำกลางบางขวาง” จังหวัดนนทบุรี เปิดให้บริการเมื่อกลางปี 2565 ที่ผ่านมา
คุกแอนด์คอฟ (Cook & Coff) คือร้านกาแฟและอาหาร ที่เปิดขึ้นมาเพื่อให้เป็นสถานที่ฝึกงานสำหรับนักโทษชั้นดีและใกล้พ้นโทษ เพื่อฝึกการทำงานและหารายได้ เพื่อเป็นเงินทุนหลังพ้นโทษ
อีกทั้งยังเป็นสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของผู้ต้องขังโทษหนักหรือโทษตลอดชีวิต เป็นงานฝีมือต่างๆ ที่นำออกมาจากเรือนจำเพื่อจำหน่าย หายรายได้ให้กับผู้ต้องขัง เพื่อเป็นเงินทุนหลังพ้นโทษเช่นกัน
ที่นี่ไม่ได้เปิดขึ้นมาเพื่อแสวงหาผลกำไรเป็นที่ตั้ง แต่เปิดขึ้นมาเพื่อแสวงหาโอกาส เปิดโลกทรรศน์ให้กับผู้ต้องขังได้ฟื้นฟูจิตใจ ได้เห็นคุณค่า สร้างคุณค่า พัฒนาต่อยอด ให้ดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต่อไป
ที่ผ่านมา คุกแอนด์คอฟ เปิดมาแล้วหลายแห่ง ได้แก่ วังจันทร์ จ.พระนครศรีอยุธยา, เรือนจำกลางราชบุรี, เรือนจำกลางสมุทรปราการ (คลองด่าน), ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก จ.นครราชสีมา, ทัณฑสถานหญิงชลบุรี
รวมทั้งมีอดีตผู้ต้องขัง บริหารร้านอาหารที่ชื่อว่า “ล้านเล่าหลังกำแพง” ใกล้ไฟแดงเยื้องทางเข้าอุทยานหินเขางู จ.ราชบุรี จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ฝีมือของอดีตผู้ต้องขังที่เคยผ่านการฝึกอาชีพจากเชฟโรงแรมระดับ 5 ดาวมาแล้ว
ทราบว่ากว่าที่ผู้ต้องขังจะได้เป็นบาริสต้าหรือพ่อครัวไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะล้วนแล้วแต่เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ชั้นดีมาก และชั้นดี ที่จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ซึ่งจะต้องตั้งใจฝึกอาชีพและปฏิบัติตามระเบียบเรือนจำอย่างเคร่งครัด
เมื่อวันก่อน ผู้เขียนไปเที่ยวงานกาชาด 2565 ที่สวนลุมพินี พบกับบูทของกรมราชทัณฑ์โดยบังเอิญ ที่นั่นจะมีผลงานผู้ต้องขังที่หลากหลาย ทั้งการแสดงดนตรี การจำหน่ายอาหาร เบเกอรี งานฝีมือ และการนวดฝ่าเท้า
หนึ่งในนั้นคือร้านกาแฟ Cook & Coff เรือนจำกลางบางขวาง ได้ยกเครื่องชงกาแฟมาชงเครื่องดื่มกันแบบสดๆ รวมทั้งมีอาหารกล่องจำหน่ายอีกด้วย ด้านหน้าจะมีนักโทษขับกล่อมบทเพลงแบบอคูสติกให้ฟัง
ผู้เขียนสั่งเมนูที่ชื่อว่า “หอมจันทร์” หนึ่งในซิกเนเจอร์ของร้านนี้ เป็นเครื่องดื่มน้ำผึ้งมะนาวโซดา รสชาติหวานกำลังดี ขณะเดียวกันยังได้สั่งอาหารกล่องเป็นไก่ผัดพริกทานด้วยกัน รสชาติถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
ด้วยความสนใจอยากเห็นร้านกาแฟในเรือนจำที่ว่านี้ วันหยุดสุดสัปดาห์เลยหาโอกาสมาเยือนสักครั้ง
จากท่าน้ำนนทบุรี จุดหมายปลายทางของเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือไฟฟ้า MINE Smart Ferry เราเดินเท้าจากหอนาฬิกา เลี้ยวซ้ายไปทางถนนนนทบุรี 1 ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็เดินมาถึงร้าน Cook & Coff เรือนจำกลางบางขวาง
เดิมพื้นที่ตรงนั้นเป็นร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฝีมือผู้ต้องขัง ส่วนให้บริการสำหรับญาติผู้ต้องขังฝากเงิน และมีร้านกาแฟเล็กๆ ตรงนั้นอยู่แล้ว แต่ได้ปรับปรุงต่อเติมพื้นที่รองรับลูกค้าได้มากขึ้น มีที่จอดรถฟรี รองรับได้ประมาณ 50 คัน
อาคารสีขาวหลังนี้เน้นตกแต่งเชิงศิลปะ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจากภาพจำของเรือนจำแบบเดิมๆ เสียงดนตรีที่ขับกล่อมเพลงโดยผู้ต้องขัง โดยมีผู้คนต่างแวะเวียนมาใช้บริการ ทำให้พื้นที่ตรงนี้มีชีวิตชีวามากขึ้น
คาเฟ่ที่นี่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีสายลมพัดเอื่อยพาให้รู้สึกสดชื่นเหมือนร้านอาหารริมน้ำ บ่อยครั้งจะได้พบเห็นเรือแล่นผ่านไปผ่านมา มองไกลๆ จะเห็นสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ หนึ่งในแลนด์มาร์คของจังหวัดนนทบุรี
ที่นี่จำหน่ายเมนูอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรี ที่พิเศษกว่าที่อื่นคือ มีเมนูพิซซ่าที่ตั้งชื่อว่า “เดอ คุก พิซซ่า” (De Cook Pizza) เป็นพิซซ่าเตาถ่าน มีให้เลือกทั้งหน้าเบคอน ซีฟู้ด เบคอนไส้กรอก ฮาวายเอี้ยน และลาบหมู
เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านจะเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งตั้งชื่อได้แบบแหวกแนวมาก นอกจากเมนูหอมจันทร์แล้ว ยังมี “เปรี้ยวแดนห้า” (น้ำพันซ์) “ดาร์คแดนสิบ” (กาแฟช็อกโกแลต) และ “อรุณสวัสดิ์” (กาแฟน้ำส้ม)
ลองสั่ง “ดาร์คแดนสิบ” (50 บาท) ซึ่งเป็นกาแฟช็อกโกแลตดู พบว่ามีรสชาติของกาแฟ เคล้าความหอมหวานด้วยช็อกโกแลต แต่ไม่หวานแหลม เปรียบเหมือนภายนอกจะโหดแต่ภายในแอบหวานนิดๆ
ส่วนเมนูอาหารจานหลัก ราคาเริ่มต้นที่ 69 บาท มีให้เลือกทั้งอาหารจานเดียว เมนูปิ้งย่าง เมนูแซ่บ เช่น ส้มตำแบบจานเดียวและส้มตำถาด คอหมูย่าง เสือร้องไห้ ฯลฯ เมนูยุโรป เมนูผสมผสาน ขนมจีน สเต็ก และของหวาน เค้กต่างๆ
ที่ผู้คนนิยมสั่งมากที่สุด คือ “ซี่โครงหมูบาร์บีคิว” สูตรเฉพาะของทางร้าน จากเชฟฝีมือจากโรงแรมชั้นนำระดับห้าดาว และ “ซูชิข้าวคลุกกะปิ” ห่อไข่เป็นชิ้นกินทีละคำ สะดวกรับประทาน แต่ยังคงคุณค่าอาหารไทยโบราณ
ส่วนตัวเนื่องจากอิ่มมาจากที่อื่น จึงขอเลือกเมนูง่ายๆ อย่าง "ข้าวหน้าเป็ด" (69 บาท) รสชาติเหมือนข้าวหน้าเป็ดทั่วไป แต่แฝงไปด้วยความตั้งใจของผู้ต้องขัง ระหว่างที่ทานข้าวก็ได้เห็นบรรดาผู้ต้องขังทำงานบริการอย่างขะมักเขม้น
ที่นี่เปิดบริการตั้งแต่เวลา 7 โมงครึ่ง ถึง 6 โมงเย็น แต่สามารถนั่งรับประทานต่อได้อีกเล็กน้อย ไม่เกิน 1 ทุ่ม เพื่อให้พนักงานกลับไปพักผ่อน ถ้าเป็นช่วงเทศกาลกลางคืน เช่น วันลอยกระทง จะเปิดยาวไปถึง 3 ทุ่ม รับชำระทั้งเงินสดและคิวอาร์โค้ด
และเนื่องจากพนักงานทุกคนเป็นผู้ต้องขัง ซึ่งตามกฎหมายห้ามถ่ายภาพผู้ต้องขังทั้งภายในและภายนอกเรือนจำ ขอความร่วมมือเวลาถ่ายภาพภายในร้าน โปรดหลีกเลี่ยงการถ่ายภาพติดใบหน้าของพนักงาน และโปรดเบลอก่อนแชร์ลงโซเชียลฯ
ในสายตาของคนภายนอก เรือนจำอาจเป็นสถานที่ที่ไม่น่าอภิรมย์นัก เพราะเป็นสถานที่ชดใช้ความผิดของของผู้กระทำความผิดที่ผ่านการพิพากษามาแล้ว ด้วยความหวังว่าผู้ต้องขังจะสำนึกผิด กลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคม
แต่ที่ผ่านมาผู้ต้องขังที่พ้นโทษมาแล้ว กลับไม่ได้รับโอกาส ไม่มีงาน ไม่มีเงิน กลายเป็นว่าจำต้องหาทางออกเพื่อให้มีชีวิต หนึ่งในนั้นคือการกระทำผิดซ้ำ กลายเป็นวงจรที่เรียกว่า “วงจรคุก” ที่มองแล้วสลดหดหู่อย่างยิ่ง
การให้โอกาสจากสังคม เป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะนำพาพวกเขาออกจากวงจรคุก สร้างโอกาสใหม่ให้ชีวิตด้วยการเปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้ประกอบสัมมาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ เพื่อให้เขาดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข
ส่วนตัวดีใจที่ได้มาเยือนที่นี่ ได้เห็นพวกเขาทำงานอย่างขะมักเขม้น ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ และคาดหวังว่าจากคนที่เคยผิดพลาดในอดีต เมื่อได้รับอิสรภาพแล้ว จะมีหนทางต่อยอดไปสู่อาชีพใหม่ และชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น
หมายเหตุ : ร้าน Cook & Coff ณ บางขวาง ตั้งอยู่ที่ตรงข้ามเรือนจำกลางบางขวาง ถนนนนทบุรี 1 ตำบลสวนใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ห่างจากท่าน้ำนนทบุรีประมาณ 500 เมตร เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.30-18.00 น.
สำหรับรถยนต์ส่วนตัว มีที่จอดรถยนต์ 50 คัน พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/qGCT5BoXUnV8YKpY6
การเดินทางโดยรถประจำทาง ลงที่ป้ายท่าน้ำนนทบุรี แล้วเดินเท้าไม่ไกลนัก สายที่ผ่าน 30, 32, 63, 64, 65, 97, 114, 117, 203, 543, 545 ส่วนเรือด่วนเจ้าพระยา และ MINE Smart Ferry ลงที่ท่าน้ำนนทบุรี
เฟซบุ๊ก "Cook & Coff ณ บางขวาง เรือนจำกลางบางขวาง" https://www.facebook.com/cookcoff5