กิตตินันท์ นาคทอง Facebook.com/kittinanlive
โรงแรมโก โฮเทล (GO HOTEL) เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2565 ที่หน้าศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ถือเป็นการลงสนามโรงแรมกลุ่มบัดเจ็ทครั้งแรกของกลุ่มเซ็นทรัล
ย่านบ่อวินถือเป็นย่านอุตสาหกรรม ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประกอบไปด้วยนิคมอุตสาหกรรมขนาดเล็ก-ใหญ่ รวม 8 แห่ง มีทางหลวงหมายเลข 331 (พนมสารคาม-สัตหีบ) เป็นถนนสายหลัก
ก่อนหน้านี้ โรบินสัน บริษัทในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดให้บริการศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ บ่อวิน เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 บนพื้นที่กว่า 35,000 ตารางเมตร ด้วยงบลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท
เจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งประชากรในพื้นที่รัศมี 30 กิโลเมตร 180,000 คน และประชากรแฝงที่เป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานกว่า 1,400 โรงงาน รวมถึงมีโรงเรียนระดับประถมฯ-มัธยมฯ ขนาดใหญ่อีก 36 แห่ง
เดิมเครือเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) มีโรงแรม 2 แห่งที่อยู่ในพอร์ต ได้แก่ โรงแรมฮิลตัน พัทยา และ โรงแรมเซ็นทาราและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ อุดรธานี กระทั่งได้เปิดโรงแรมเซ็นทารา โคราช แห่งล่าสุด แต่ก็เป็นแบรนด์ระดับฟูลเซอร์วิส
(ส่วนโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ เปิดเมื่อปี 2526 และโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดเมื่อปี 2551 เป็นของ บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา)
กระทั่งประกาศพัฒนาโรงแรมภายใน 5 ปี รวม 37 แห่ง มูลค่าการลงทุน 10,000 ล้านบาท ได้แก่ โรงแรมเซ็นทารา จะเปิดเพิ่มเติมที่เซ็นทรัล อยุธยา และเซ็นทรัล อุบลราชธานี, โรงแรมเซ็นทารา วัน แนวไลฟ์สไตล์แห่งแรกที่ระยอง
และโก โฮเทล วางรูปแบบเป็นแบรนด์โรงแรมระดับพรีเมียมแมส จำนวน 79 ห้อง ราคาประมาณ 1,000 บาท จะเปิดทั้งหมด 25 แห่ง มีแผนเปิดแล้ว 7 ทำเล คือ โคราช, อุบลราชธานี, อยุธยา, ระยอง, ศรีราชา, ชลบุรี และเชียงราย กระทั่งได้เปิดตัวแห่งแรกที่บ่อวิน และกำลังก่อสร้างอีก 3 แห่ง ได้แก่ ชลบุรี ศรีราชา และบ้านฉาง จ.ระยอง
ถือเป็นบิสิเนสยูนิตใหม่ของเครือเซ็นทรัลพัฒนาที่น่าจับตามอง ท่ามกลางการสู้ศึกโรงแรมกลุ่มบัดเจ็ท ที่แข่งขัน 2 เจ้าใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ “ฮ็อปอินน์” และ “บีทู”
สำหรับรูปแบบโรงแรมโก โฮเทล วางจุดขายเป็นดีไซน์โฮเต็ลระดับพรีเมียม เน้นที่ตั้งใจกลางเมือง ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล และศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์
โดยโรงแรมโก โฮเทล บ่อวิน เป็นอาคารสูง 7 ชั้น มีจุดเด่นที่ผนังพรีแคสต์ลายเปลือกหอย ภายในมีห้องพักจำนวน 79 ห้อง แต่ละห้องมีขนาด 20 ตารางเมตร มีให้เลือก 2 ประเภท ได้แก่ เตียงคิงไซส์ และ 2 เตียงเดี่ยว
ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ที่ฟอกอากาศ PM 2.5 สมาร์ททีวีขนาด 42 นิ้ว ผ้าม่านทึบแสง ผ้าขนหนูที่เป็นผ้าฝ้าย 100% อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โต๊ะทำงานวงกลมที่สามารถเลื่อนไปมาได้
นอกจากนี้ สำหรับผู้เข้าพักที่มีสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว สามารถนำสัตว์เลี้ยงขนาดไม่เกิน 10 กิโลกรัมเข้าพักได้ โดยได้จัดโซนที่พักบริเวณชั้น 2 ซึ่งจะไม่ปะปนกับผู้เข้าพักคนอื่น
ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ได้แก่ พื้นที่ Co-Working Space ที่ชื่อว่า GO! WORKS พื้นที่นั่งทำงาน ห้องประชุม พร้อมอุปกรณ์สำนักงาน มุมของว่างและกาแฟระดับพรีเมียม โดยเฉพาะกาแฟไนโตรเจ้าแรกของบ่อวิน
ขณะที่การชำระเงิน พบว่าให้บริการแบบ Cashless 100% รองรับการชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ หรือชำระที่หน้าเคาน์เตอร์ด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต และ QR Payment สามารถเช็กอินและเช็กเอาต์ได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับช่องทางการจองโดยตรงจะมี 2 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://letzzzgo.co และไลน์ @gohotel หรืออีเมล contact@letzzzgo.co รวมทั้งยังมีช่องทางผ่านผู้ให้บริการ OTA ได้แก่ อะโกด้า บุ๊คกิ้ง
และเนื่องจากเป็นโรงแรมในกลุ่มเซ็นทรัล ที่มีโปรแกรมสมาชิกเดอะวัน สามารถสะสมและแลกคะแนนได้เฉพาะเมื่อจองผ่านเว็บไซต์ โดยค่าห้องพัก 25 บาทเท่ากับ 1 คะแนน และ 1,000 คะแนนแลกส่วนลดค่าห้องพัก 100 บาท
แม้จะเป็นโรงแรมน้องใหม่ในกลุ่มบัดเจ็ทโฮเทล แต่ดูเหมือนว่าได้วางตัวเองเป็น พรีเมียมบัดเจ็ท (Premium Budget) ในรูปแบบดีไซน์โฮเทลระดับพรีเมียม และการบริการมาตรฐานที่แตกต่างกว่า
สำหรับการแข่งขันของบัดเจ็ทโฮเทลช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะสองเจ้าใหญ่ ได้แก่ “กลุ่มโรงแรมฮ็อป อินน์” ของ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป กับ “เครือโรงแรมบีทู” ของกลุ่มจาวลา เชียงใหม่ กรุ๊ป มีความเป็นไปที่น่าสนใจ
เริ่มจาก กลุ่มโรงแรมฮ็อป อินน์ ล่าสุดได้ทยอยเปิดตัวโรงแรมรวดเดียว 3 แห่งในกรุงเทพฯ ได้แก่ บางนา, อ่อนนุช และกรุงธนบุรี หลังจากเริ่มต้นสาขาแรกที่ต่างจังหวัด โรงแรมฮ็อป อินน์ หนองคาย เมื่อปี 2557 หรือเมื่อ 8 ปีก่อน
ทั้ง 3 สาขาในกรุงเทพฯ มีจำนวนห้องพักมากกว่าสาขาต่างจังหวัด ได้แก่ บางนา 132 ห้อง, อ่อนนุช 133 ห้อง และกรุงธนบุรี 120 ห้อง ซึ่งกว่าจะได้ก่อสร้าง ต้องผ่านการทำรายงานอีไอเอ และได้รับการเห็นชอบเมื่อปี 2563
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาโรงแรมฮ็อป อินน์ ก็เคยมีบางสาขา เช่น โรงแรมฮ็อปอินน์ แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี มีจำนวนมากถึง 108 ห้อง นอกนั้นส่วนใหญ่มีจำนวนห้องชุดไม่เกิน 80 ห้อง ที่สามารถขออนุญาตก่อสร้างอาคารได้เลย ยกเว้นบางพื้นที่
นอกจากการเปิดโรงแรม 3 แห่งในกรุงเทพฯ แล้ว ยังมีการเปิดตัวห้องพักรูปแบบ ฮ็อป พลัส (Hop Plus) ขนาดห้องพักกว้างขึ้น มี 1 เตียงใหญ่ และ 1 เดย์เบด รองรับผู้เข้าพักได้สูงสุด 3 คน ซึ่งราคาจะสูงกว่าห้องพักปกติเล็กน้อย
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ กาต้มน้ำไฟฟ้า ชุดน้ำชาและกาแฟ รวมทั้งไดร์เป่าผม ชุดแปรงสีฟันและยาสีฟัน ซึ่งห้องพักปกติจะไม่มี เปิดตัวครั้งแรกที่โรงแรมฮ็อป อินน์ นครราชสีมา ซิตี้ เซ็นเตอร์ (สาขา 2) จ.นครราชสีมา
ในปี 2565 กลุ่มโรงแรมฮ็อปอินน์เปิดให้บริการแล้วรวม 51 สาขา จากเป้าหมาย 100 แห่ง ได้แก่ น่าน ชัยภูมิ มหาสารคาม นครราชสีมา (สาขา 2) บางนา อ่อนนุช และกรุงธนบุรี ส่วนประเทศฟิลิปปินส์เปิดในปีนี้ 2 สาขา
ส่วนการเปิดสาขาใหม่คาดว่าจะเปิดเผยได้ต้นปีหน้า หนึ่งในนั้นคือสาขาแฟรนไชส์ ซึ่งอยู่ระหว่างการคัดเลือก เน้นไปที่เติมเครือข่ายโรงแรมฮ็อปอินน์มากกว่าผลตอบแทนทางการเงิน จึงต้องคัดเลือกแฟรนไชส์ไปในทางที่เหมาะสม
ปัจจุบัน ฮ็ฮปอินน์มีโปรแกรมสมาชิก ฮ็อป อินน์ รีวอร์ด (Hop Inn Reward) ตั้งเป้าหมายจำนวนสมาชิก 3 แสนรายในปี 2565 ส่วนไลน์ออฟฟิเชียล @hopinnhotel ที่มีระบบ Chat Bot จองตรงกับโรงแรม มีสมาชิก 8 หมื่นราย
ส่วนเครือโรงแรมบีทู ที่ผ่านมามีการขยายสาขาทั้งโรงแรมบีทู และโรงแรมบีทู พรีเมียร์ ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 56 สาขา ใน 23 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ มีมากถึง 18 สาขา
ในรอบปี 2565 ที่ผ่านมา ได้เปิดสาขาใหม่ ได้แก่ ราษฎร์อุทิศ หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นสาขาที่ 3 ของหาดใหญ่, กระบี่ พรีเมียร์, ขอนแก่น พรีเมียร์ สาขาที่ 2 ของขอนแก่น, พหลโยธิน เชียงราย, แม่สอด จ.ตาก
รวมทั้งเซ็นสัญญาเฟรนไชส์กับโรงแรมเพชรเกษม จ.สุรินทร์ รีโนเวตพร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น โรงแรมบีทู สุรินทร์ พรีเมียร์ และโรงแรมบีทู สุเทพ ไนท์มาร์เก็ต พรีเมียร์ รีสอร์ท จ.เชียงใหม่ รีโนเวทใหม่ทั้งหมด พร้อมต่อสัญญาระยะยาว
ขณะที่โปรแกรมสมาชิก พบว่าไลน์ออฟฟิเชียล @b2hotel มีจำนวนผู้ติดตามกว่า 1 แสนราย รวมทั้งพัฒนาอี-วอลเล็ตที่ชื่อว่า B2 Wallet Application พร้อมโปรโมชันเมื่อชำระค่าห้องพักผ่านเว็บไซต์และไลน์ ลดทันที 50 บาท
แม้โรงแรมโก โฮเทล จะมาทีหลังธุรกิจโรงแรมกลุ่มบัดเจ็ท แต่ด้วยทำเลที่เน้นติดศูนย์การค้าเซ็นทรัล หรือโรบินสันไลฟ์สไตล์ ถือเป็นจุดศูนย์กลางของการใช้ชีวิตแต่ละพื้นที่ รวมทั้งฐานลูกค้าสมาชิกกลุ่มเซ็นทรัลที่มีถึง 17 ล้านราย
จึงน่าจับตามองว่า ศึกโรงแรมกลุ่มบัดเจ็ทที่มีอยู่ 3 เจ้า ย่อมเกิดการแข่งขันทั้งสงครามราคา รวมทั้งโปรแกรมสมาชิก ที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้คึกคักหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย