กิตตินันท์ นาคทอง Facebook.com/kittinanlive
เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา มีงานแสดงสินค้าเกี่ยวกับบ้านและการออกแบบสวน ก่อนวันงานมีการลงทะเบียนออนไลน์ เหมือนกับอีเวนต์ยุคนี้ที่เน้นลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้าเพื่อดูความสนใจ
โฆษณาระบุว่า “รับฟรี! แก้วมัค สินค้าคุณภาพ ดีที่ยั่งยืน จากอิเกีย” จึงได้กรอกข้อมูลลงไป
มาถึงวันงาน พอไปถึงสถานที่จัดงาน ก็ทำตามขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่แนะนำ เมื่อทำรายการสำเร็จ เจ้าหน้าที่จะกล่าวว่า “เชิญหยิบแก้วด้านโน้นได้เลยค่ะ” พร้อมกับชี้ไปที่กองแก้วมัคที่วางซ้อนกันอยู่บนโต๊ะ
สังเกตได้ว่า แก้วที่นำมาวางไว้มีตำหนิเล็กๆ น้อยๆ หลายใบ คนที่ยืนข้างๆ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า “ขอเปลี่ยนได้ไหมคะ” เจ้าหน้าที่ก็ให้เปลี่ยนโดยให้หยิบใบใหม่ ระหว่างนั้นเราก็เลือกแก้วมัคที่มีตำหนิน้อยที่สุดไป
ก่อนหน้านี้ไม่เคยไปงานแฟร์สินค้าเกี่ยวกับบ้านแบบนี้มาก่อน ไปแต่พวกงานหนังสือ งานคอม งานมือถือ สินค้าอุปโภคบริโภค ตอนนั้นคิดว่า ตัวเองไม่ได้เป็นคนทำบ้าน ไม่ได้ทำอสังหาริมทรัพย์ คงไม่จำเป็นต้องมางานแบบนี้
แต่พอเคยไปงานอีเวนต์ลดราคาสินค้าเกี่ยวกับบ้านรายหนึ่ง ทำให้เปิดโลกว่า สินค้าเกี่ยวกับบ้านไม่ได้จำกัดเพียงแค่สินค้าชิ้นใหญ่ พวกโต๊ะ ตู้ เตียง ราคาสูงๆ แต่ยังมีสินค้าชิ้นเล็กๆ ลดราคาพิเศษ ที่พอใส่ถุงชอปปิ้งกลับบ้านได้ก็มี
มาถึงเรื่องแก้วมัคจากอิเกีย นึกในใจว่า งานแฟร์ใหญ่ขนาดนี้ ทำไมเขาถึงแจกของมีตำหนิ
กระทั่งค้นหาคำตอบด้วยตัวเองถึงบางอ้อ …
เมื่อเรากดค้นหาคำว่า “สินค้าคุณภาพ ดีที่ยั่งยืน” พบว่าอิเกียเขาทำแคมเปญ Perfectly Imperfect จำหน่ายสินค้าภาชนะอาหาร แก้วมัค จาน ชาม ทุกชิ้นราคาเพียง 20 บาท ที่โซนสินค้า Circular shop อิเกีย บางนา, บางใหญ่ และอิเกีย ภูเก็ต
อิเกียอธิบายว่า สินค้าเซรามิคเหล่านี้มีตำหนิเล็กๆ จากการผลิต แต่ไม่ทำให้คุณภาพลดทอนลงไป อีกทั้งขยะประเภทเซรามิคไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เลยใช้คำว่า “กล้าที่จะโชว์ความสวยงามแบบยั่งยืนและลดปริมาณขยะ”
นึกถึงเมื่อก่อนเวลาไปเดินซื้อของที่อิเกีย จะมีแผนกที่เรียกว่า “สินค้าตามสภาพ” หรือ As-Is อยู่ระหว่างคลังสินค้าบริการตัวเองกับแคชเชียร์ จำหน่ายสินค้าตกรุ่น สินค้ามีตำหนิ สินค้าตัวโชว์ ลดราคาจากปกติ 30-70%
ตอนนั้นอิเกียขึ้นป้ายว่า “ขอโอกาสอีกครั้ง” ระบุว่า “ถ้าโต๊ะแค่เป็นรอยถลอกเล็กๆ คุณจะทิ้งไปเลยไหม ... ถ้าเป็นเรา เราไม่ทำอย่างนั้นแน่ แต่เราจะนำสินค้าเหล่านี้กลับมาขายในแผนก As-Is ช่วยให้คุณได้สินค้าราคาประหยัด และเราได้ร่วมกันลดปริมาณขยะเหลือทิ้ง”
อ่านแล้วก็รู้สึกดี ฟีลกู๊ดในแบบทุนนิยม
การเลือกซื้อสินค้าในแผนกสินค้าตามสภาพ แม้จะเข้าตำราตาดีได้ ตาร้ายเสีย แต่สินค้าหลายตัวก็ไม่ได้เลวร้ายไปหมด บางอย่างแค่ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค หรือเอาสติกเกอร์มาตกแต่ง ก็ดูเหมือนใหม่แล้ว
แต่การซื้อสินค้าตามสภาพ มีเงื่อนไขอย่างหนึ่งก็คือ “ซื้อแล้วไม่รับเปลี่ยนหรือคืน” เพราะฉะนั้น ถ้าจะซื้อสินค้าเหล่านี้ต้องคิดให้ดี ยอมรับให้ได้ ว่าเราจะซื้อสินค้าในสภาพแบบนี้ หลังจ่ายเงินไปแล้วอย่านึกเสียดาย
จากประสบการณ์ส่วนตัว เคยเดินห้างฯ หรูแห่งหนึ่ง นำสินค้ามาจำหน่ายลดล้างสต็อกปีละครั้ง ปรากฎว่าได้เสื้อเชิ้ตผู้ชาย จากปกติราคาหลายพัน ลดราคาลงมาเหลือหลักร้อย เห็นว่าสีสวยเลยซื้อมา แล้วก็ใส่มาถึงปัจจุบัน
กลับมาที่อิเกีย หลังจากเดินดูของแบบงงๆ ซึ่งห้างนี้ออกแบบมายังกับเขาวงกตอยู่แล้ว มาถึงตอนที่เข้าไปดูสินค้าตามสภาพก็รู้สึกเพลินดี มีหลายตัวที่นำมาลดราคา บางอย่างก็น่าซื้อ แต่กลัวซื้อไปแล้วจะรกบ้าน
ภายหลัง อิเกีย ประเทศไทย ปรับโฉมแผนกสินค้าตามสภาพ เรียกชื่อใหม่เสียดิบดีว่า “เซอร์คิวลาร์ ช็อป” (Circular Shop) รับซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้แล้ว ก่อนนำไปซ่อมแซมหรือปรับปรุง แล้วกลับมาขายใหม่ในราคาประหยัด
วันที่ไปอิเกีย บางนาครั้งล่าสุด ต่างจากเมื่อปี-สองปีที่แล้วพอสมควร เพราะแผนกเขาทำไว้ดีมาก ด้านในจะเห็นช่างของอิเกียกำลังปรับปรุงเฟอร์นิเจอร์มือสองอยู่ด้านใน โดยมีผู้คนทยอยเข้าไปชมสินค้ามือสองอยู่บ้าง
ด้านหน้าแผนกเซอร์คิวลาร์ ช็อป เราได้พบกับแก้วมัค ที่เคยได้รับแจกจากงานสินค้าบ้าน วางอยู่เป็นชั้นจำนวนมาก ขายในราคา 20 บาท จากปกติแก้วรุ่นนี้จะขายแก้วละ 79 บาท
แก้วมัคและสินค้าเซรามิคเหล่านี้ ล้างด้วยเครื่องล้างจานได้ นำเข้าไมโครเวฟได้ มีความหนาพอสมควร เท่าที่เคยใช้งานในบ้านก็ใช้ได้ดีไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องตำหนินั้นไม่ได้ซีเรียส เพราะแก้วเซรามิคเมื่อใช้ไปสักพักก็จะเริ่มมีตำหนิอยู่แล้ว
ที่น่าสนใจก็คือ กลยุทธ์ของอิเกียที่นำมาใช้ คือการใช้คำเรียกสินค้าที่ฟังแล้วดูดีขึ้น จากเดิมใช้คำว่า “สินค้าตามสภาพ” อาจจะมีคนสนใจบ้าง ไม่สนใจบ้าง เปลี่ยนมาเป็น “สินค้าคุณภาพ ดีที่ยั่งยืน” แล้วใส่เรื่องราวลงไปให้ดูดีขึ้น
เรื่องนี้ต้องขอชื่นชมอิเกีย และผู้จัดงานสินค้าเกี่ยวกับบ้านและการออกแบบสวนดังกล่าว ที่นอกจากจะช่วยระบายสินค้ามีตำหนิแล้ว ยังช่วยลดปริมาณขยะเซรามิคที่รีไซเคิลไม่ได้ ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
เพียงแต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเป็นสินค้ามีตำหนิ การระบุเงื่อนไขว่า เป็นสินค้ามีตำหนิเนื่องจากการผลิต อาจจะทำให้รู้สึกถูกมองในแง่ลบและไม่น่าสนใจ แต่เนื่องจากเป็นสินค้าแจกฟรี เลือกหยิบตามความพอใจ ก็อาจจะไม่ต้องคิดอะไร
การจัดงานที่มีการแจกของที่ระลึก ส่วนใหญ่จะแจกสินค้าพรีเมียม สกรีนชื่องาน ซึ่งมีต้นทุนการผลิต หากใครที่จัดงานเล็กๆ แจกของที่ระลึกเป็นสินค้ามีตำหนิ อาจจะต้องเหนื่อยกับการสื่อสาร กับคนที่ยังมองสินค้ามีตำหนิในภาพลบ
เรื่องนี้ทำให้นึกถึงพวงหรีดงานศพ ที่ผ่านมาคนเรามักจะใช้พวงหรีดดอกไม้สด เมื่อเสร็จสิ้นงานศพก็กลายเป็นขยะ ภายหลังจึงมีทั้งพวงหรีดพัดลม พวงหรีดผ้าห่ม แรกๆ คนก็มักจะมองด้วยความรู้สึกแปลกแยกไปบ้าง
แต่พอนานวันเข้าก็เริ่มมีคนที่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ หันมาใช้ทดแทนพวงหรีดดอกไม้สดเรื่อยๆ แม้กระทั่งมีคนคิดไอเดียพวงหรีดในรูปแบบอื่นๆ เช่น พวงหรีดกระดาษจากป่าปลูก นำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งบริจาคเข้ามูลนิธิต่างๆ ก็มี
การแจกสินค้ามีตำหนิเป็นที่ระลึก แม้อาจทำให้คนส่วนหนึ่งเห็นว่าอาจเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะดีนัก แต่ถ้าใครจะนำไอเดียนี้มาใช้ อาจจะนำมาประยุกต์ใช้กับอีเวนต์ แคมเปญที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม หรือคุณภาพชีวิตก็ได้
กลับมาที่แก้วมัคของอิเกีย เงื่อนไขอย่างหนึ่งของสินค้าเซรามิคจากอิเกียก็คือ 1. สินค้าทั้งหมด เป็นสินค้าคุณภาพเกรดโรงงาน ที่ใช้มาตรฐานเดียวกับสินค้าอิเกีย ซึ่งอาจมีตำหนิและความไม่สมบูรณ์แบบเนื่องจากการผลิต
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของลูกค้าต่อสินค้านั้นๆ ณ จุดขายสินค้าทั้งหมดนี้ไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันตามข้อกำหนดของสินค้าปกติ ของทางอิเกีย ไม่สามารถเปลี่ยน หรือคืนเงินได้
2. สินค้าทั้งหมดนี้ไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันตามข้อกำหนดของสินค้าปกติของทางอิเกีย ไม่สามารถเปลี่ยน หรือคืนเงินได้ และไม่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขของ IKEA Family และ/หรือเงื่อนไขความเป็นส่วนตัวของอิเกีย
ความจริงแก้วมัคที่ได้เป็นแก้วเปล่า ถ้ากลัวว่ามีตำหนิแล้วไม่สวย ก็สามารถหาสติกเกอร์ที่กันน้ำ อย่างสติกเกอร์ติดรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์มาแปะทับบนแก้วก็ได้ ก็จะได้แก้วแบบ D.I.Y. ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
ใครที่ไปเดินอิเกีย เจอแก้วเซรามิคราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ก็สอยได้ แม้จะไม่ใช่ของมันต้องมี แต่ถ้าใช้กับเครื่องดื่มแก้วโปรดเป็นประจำ จะรู้สึกว่าไม่ต่างอะไรกับของใหม่
เพราะสุดท้ายถ้าไม่ได้เก็บสะสม ของใหม่เมื่อใช้ไปนานๆ สักวันก็เป็นของเก่า หรือเกิดรอยตำหนิอยู่ดี