กิตตินันท์ นาคทอง Facebook.com/kittinanlive
หลังจากที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา ไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์ให้บริการมานานกว่า 4 ปี คราวนี้สายการบินนกแอร์ จะเปิดเส้นทาง เชียงใหม่-นครราชสีมา-เชียงใหม่ โดยกำหนดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ 2 สิงหาคมที่จะถึงนี้
เดิมสล็อตที่ได้จะบินทุกวันอังคารกับวันเสาร์ ออกจากเชียงใหม่เย็น ถึงโคราชค่ำ รับคนจากโคราช ถึงเชียงใหม่ 3 ทุ่ม แต่ทางภาครัฐและเอกชนทั้งสองจังหวัดขอให้เปลี่ยนตารางการบินใหม่ เพื่อตอบโจทย์การให้บริการที่ครอบคลุมกว่า
ผลที่สุดจึงออกมาเป็น วันจันทร์กับวันศุกร์ DD9330 ออกจากเชียงใหม่ 20.45 น. ถึงโคราช 22.15 น. จอดค้างที่โคราช 1 คืน เที่ยวกลับ วันอังคารกับวันเสาร์ DD9331 ออกจากโคราช 05.30 น. ถึงเชียงใหม่ 07.00 น.
ทีแรกก็คิดในใจว่า “อิหยังวะ” จะให้คนโคราชตื่นตีสอง นั่งรถออกจากบ้านไปถึงสนามบินนครราชสีมาตอนตีสาม หรือไปให้ทันเคาน์เตอร์เช็กอินปิด 04.45 น. ซึ่งปกติเที่ยวบินในประเทศเคาน์เตอร์ปิด 45 นาทีก่อนเวลาเครื่องออก
เข้าใจว่า เที่ยวบินนครราชสีมา-เชียงใหม่ คงจะเน้นไปที่กลุ่มนักธุรกิจ ข้าราชการ ผู้ประกอบการ หรือคนที่มีกิจธุระต้องไปเชียงใหม่และจังหวัดภาคเหนือเป็นหลัก จะทำให้มีเวลาทำภารกิจที่เชียงใหม่มากขึ้น
แต่เที่ยวบินที่คาดว่าจะรองรับนักท่องเที่ยวจริงๆ น่าจะเป็น เที่ยวบินเชียงใหม่-นครราชสีมา ค่ำวันจันทร์และวันศุกร์ ถึงโคราช 22.15 น. พักค้างคืนที่ตัวเมืองโคราช 1 คืน แล้วต่อไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยม เช่น เขาใหญ่
ส่วนขากลับ ก็อาจจะกลับทางกรุงเทพฯ ก็ได้ เพราะมีเวลาเดินทางที่ยืดหยุ่นมากกว่า มีให้เลือกทั้งสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งมีเที่ยวบินไปยังปลายทางเชียงใหม่ เช้าจรดค่ำรวมกันมากกว่า 40 เที่ยวบินต่อวัน
โดยปกติแล้วการเดินทางจากโคราชมาเชียงใหม่มีหลายตัวเลือก ถามคนที่ขับรถส่วนตัว ระยะทางประมาณ 760 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 9-10 ชั่วโมง กรณีน้ำมันดีเซลลิตรละ 35 บาท ค่าน้ำมันไป-กลับอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท
ส่วนรถโดยสารประจำทาง ใช้เวลาประมาณ 12-13 ชั่วโมง สมัยก่อนมีวันละกว่า 10 เที่ยว ปัจจุบันเหลือวันละ 3 เที่ยว เพราะต้นทุนการเดินรถที่สูงขึ้น และสถานการณ์โควิด-19 คนเดินทางข้ามจังหวัดน้อยลง
แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่ง เลือกที่จะเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่กรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันมีเที่ยวบินจากดอนเมืองมากกว่า 20 เที่ยวบิน จากสุวรรณภูมิมากกว่า 20 เที่ยวบิน เป็นเส้นทางที่มีการแข่งขันกันสูง และโปรโมชันตั๋วเครื่องบินราคาไม่แพง
อีกทั้งเวลาเดินทางมีความยืดหยุ่น รถประจำทางจากโคราช ไปยังสนามบินดอนเมือง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 40 นาที ถึง 4 ชั่วโมงครึ่ง แล้วต่อเครื่องบินไปเชียงใหม่ บวกเวลาเช็กอิน 2 ชั่วโมง และเครื่องออกจากดอนเมือง 1 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ฟังจากปากของ วุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ ก็ระบุว่า เที่ยวบินนี้เป็นเพียง “ไพลอตโปรเจกต์” (Pilot Project) ทดลองบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยว 1 เดือนว่าจะเป็นอย่างไร
เบื้องต้นจะใช้เครื่องบิน Q 400 NextGen รุ่นแบบใบพัดความเร็วสูง ห้องเงียบเป็นพิเศษ อัตราจุผู้โดยสารอยู่ที่ 86 ที่นั่ง มีความปลอดภัยสูง อัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 2,100 บาท
หากได้รับการตอบรับที่ดีหรือมีดีมานด์ ก็จะเปิดบินในเดือนถัดไป และปรับเปลี่ยนเครื่องบินจากเครื่องบินเล็กเป็นเครื่องบินลำใหญ่ โบอิ้ง 737-800 จุได้ 189 ที่นั่ง เพื่อให้อัตราค่าโดยสารถูกลง และบรรทุกผู้โดยสารได้มากขึ้น
ที่ผ่านมา นกแอร์ถอดบทเรียนที่ 8 สายการบิน ไม่ประสบความสำเร็จในการทำการบิน ส่วนใหญ่ใช้บริการเฉลี่ยต่อเที่ยว 70-80 ที่นั่ง จึงต้องใช้เครื่องบินขนาดดังกล่าว แต่ถ้าพฤติกรรมผู้โดยสารเปลี่ยน ก็ปรับเพิ่มได้ตามความต้องการ
ต่อคำถามที่ว่าเที่ยวบินนี้จะซ้ำรอยเที่ยวบินดอนเมือง-เบตง ที่ยกเลิกหรือไม่ วุฒิภูมิ กล่าวว่า ไม่อยากพาดพิงเส้นทางเบตงมาก แต่ที่โคราชเตรียมตัวมาแล้ว ซึ่งคาดว่าเที่ยวบินแรกจะมีผู้โดยสารมากกว่า 80% แน่นอน
ขณะที่ วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ก็หว่านยาหอมว่า หากในเดือนสิงหาคมนี้ มียอดจองดี ไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของสายการบิน ในอนาคตจะมีการวางแผนเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน
สิ่งที่ต้องร่วมกันสนับสนุนคือการประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมให้ในพื้นที่เดินทางโดยสายการบินเชื่อมโยงภูมิภาคเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคัก คาดว่าเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยว อาจจะมีการเดินทางจำนวนมาก
ดังนั้น ช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคมนี้ ต้องช่วยกันเส้นทางบินนี้ ให้ผ่านไปถึงเดือนพฤศจิกายน จะทำให้เกิดความมั่นคงทางการบินได้ สายการบินนกแอร์จะได้อยู่ให้บริการคู่เมืองโคราชไปอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
อีกด้านหนึ่ง จังหวัดนครราชสีมาได้ขอความร่วมมือไปยังบรรดาผู้ประกอบการต่างๆ ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ททท.นครราชสีมา ชมรมผู้บริหารสนามกอล์ฟเขาใหญ่-โคราช สนับสนุนการเปิดเที่ยวบินในครั้งนี้
ซึ่งมีบางโรงแรมตอบรับทั้งห้องพักราคาพิเศษ บางโรงแรมมีรถรับ-ส่งสนามบินฟรี ซึ่งคิดว่าน่าจะตอบโจทย์นักท่องเที่ยว เพราะสนามบินนครราชสีมาอยู่ไกลจากตัวเมือง บางคนอาจไม่สะดวกเช่ารถขับเอง ยกตัวอย่างเช่น
โรงแรมดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โคราช เบื้องต้นแจ้งกับทางจังหวัดว่า จะจัดโปรโมชันราคาห้องพัก 1,600 บาท รวมอาหารเช้า 2 ท่าน และรถรับ-ส่งสนามบินฟรี
โรงแรมเซ็นเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 โคราช ตลอดเดือนสิงหาคม 2565 เสนอแพ็คเกจห้องพักร่วมกับสายการบินนกแอร์ เริ่มต้นที่ 2,000 บาทต่อคืน รวมอาหารเช้า 2 ท่าน และรถลิมูซีนแบบซีดานรับจากสนามบิน (ขาเดียว)
ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ช่วงทดลองบิน ผู้โดยสารนกแอร์ เชียงใหม่-นครราชสีมา นำบัตรโดยสารมาแลกรับบัตรกำนัลร้านเครื่องดื่มและอาหารว่าง มูลค่า 50 บาท
โรงแรมเซนทารา โคราช ที่จะเปิดบริการวันที่ 9 สิงหาคม 2565 หลังจัดโปรโมชันช่วงเปิดตัวไปแล้ว วันที่ 13 กันยายน 2565 แสดงบัตรโดยสาร (Boarding Pass) ราคาห้องพัก 2,000 บาทต่อคืนสุทธิ พร้อมอาหารเช้า
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช เตรียมจัดโปรโมชันช้อป 1,500 บาท ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินโคราช-เชียงใหม่-โคราช 10 รางวัล และฉลองครบรอบ 5 ปีศูนย์การค้า ผู้โดยสารนกแอร์ รับสิทธิ์ลุ้น 3 เท่า สำหรับรางวัลใหญ่ รถยนต์ไฟฟ้า ORA GOOD CAT
สมาชิกที่ถือบัตร NOK Smile Plus สามารถใช้บริการ VIP Lounge ชั้น 1 พร้อมผู้ติดตามท่านละ 1 คน รวม 50 สิทธิ์ต่อเดือน นำเสนอจุดขายบัตรโดยสาร และสนับสนุนสื่อทั้งออฟไลน์และออนไลน์
ททท.สำนักงานนครราชสีมา ร่วมกับบริษัทนำเที่ยวทั้งสองจังหวัด สนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ 500 บาทต่อที่นั่ง และค่าอาหารในโคราช 1 มื้อ คนละ 200 บาท รวม 80 สิทธิ์ โดยต้องเดินทางเป็นหมู่คณะ กลุ่มองค์กร คอร์เปอเรต และเข้าพักโรงแรม SHA/SHA PLUS
ชมรมผู้บริหารสนามกอล์ฟเขาใหญ่-โคราช โดยนายสุนทร ฉลาดกิจศิริกุล มอบส่วนลดและโปรโมชันออกรอบตีกอล์ฟราคาพิเศษ เมื่อแสดงบัตรโดยสารที่เคาน์เตอร์กรีนฟี สนามกอล์ฟ 6 แห่งที่ร่วมโครงการ ถึง 31 ตุลาคม 2565
นอกจากนี้ ทางจังหวัดยังขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้า โรงแรม และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมา จัดรถรับผู้โดยสารจากสนามบินนครราชสีมา เข้าไปยังตัวเมืองโคราช ระหว่างวันที่ 5 ถึง 29 สิงหาคม 2565 อีกด้วย
แม้ว่าสายการบินนกแอร์จะได้ใบอนุญาตเส้นทางบินจากโคราช ปลายทางเชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ แต่ก็มีหลายฝ่ายเป็นห่วงว่า เส้นทางนำร่องจะไปรอดหรือไม่ เพราะขนาดเส้นทางเบตงยังต้องพึ่งพาบริษัททัวร์ ขายเองไม่ได้กำไร
ทราบว่าคนโคราชเองก็คาดหวังกับเส้นทางนี้ แต่พอราคาต่อเที่ยวราว 2 พันกว่าบาท ด้านหนึ่งก็ถูกมองว่าแพงเกินไป เมื่อเทียบกับโปรโมชันเส้นทางยอดนิยม อีกด้านหนึ่งมองว่า ตารางบินไม่ตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร
ไม่นับรวมที่ตั้งของสนามบินนครราชสีมา ห่างจากตัวเมืองโคราชกว่า 30 กิโลเมตร ถ้าไม่มีรถส่วนตัว ใช้บริการแท็กซี่มิเตอร์ต่างจังหวัด ซึ่งคิดราคาคนละอย่างกับกรุงเทพฯ ค่าโดยสารน่าจะสูงกว่า 300-400 บาท
เห็นตรงนี้แล้ว ถ้าเที่ยวบินผลตอบรับดี เสนอว่าน่าจะมีบริการรถรับ-ส่งจากตัวเมืองโคราช ไปยังสนามบินนครราชสีมา คิดค่าโดยสารในราคาไม่แพง เพราะขนาดสนามบินเบตง จ.ยะลา ยังมีรถประจำทางไปยังตัวอำเภอเบตง
อาจจะใช้สถานที่ซึ่งรองรับการเปิด 24 ชั่วโมง มีคนดูแล และไม่เปลี่ยวในช่วงกลางคืนให้เป็นจุดรอรถ อย่างห้างเทอร์มินอล 21 โคราช, อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ลานย่าโม) หรือร้านกาแฟบางแห่งที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
คงต้องลุ้นไปพร้อมกันว่า สุดท้ายเที่ยวบินนครราชสีมา-เชียงใหม่ จะไปรอดหรือไม่ ถ้าไปรอดก็ถือว่าได้ใช้สนามบินที่ก่อสร้างมานานกว่า 25 ปี ให้คุ้มค่ากับภาษีประชาชนเสียที