จนไม่รู้แล้วว่า เรามี “นายกรัฐมนตรี” ที่มีงานอดิเรกเป็นการ “แต่งเพลง” หรือมี “นักแต่งเพลง” ที่มีงานอดิเรกเป็น “นายกรัฐมนตรี” กันแน่
เมื่อนายกฯ “ลุงตู่” เปิดตัวซิงเกิ้ลใหม่รับสงกรานต์ นับเป็นเพลงที่ 6 แล้ว จากผลงานประพันธ์ของไอดอล “LTU” (Lung TU) ที่มีมาตรา “44” เป็นอาวุธ
ความสามารถในการ “แต่งเพลง” ของนายกฯ จิตอาสาท่านนี้ เป็นที่เลื่องลือฮือฮา มาตั้งแต่การเข้ามาทำรัฐประหารใหม่ๆ ก็มีการปล่อยซิงเกิ้ลแรก อย่าง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” ที่มีท่อนฮุกติดหูว่า “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา...”
ซึ่งต่อมา กลายเป็นมุกแสลงใจที่ผู้คนจดจำและล้อเลียนกันมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะว่า “ขอเวลาอีกไม่นาน” นั้น ว่ากันไปเกิน 4 ปี และยังไม่เห็นทางว่า “แล้วแผ่นดินที่งดงาม” จะ “คืนกลับมา” ได้เมื่อไร
ต่อจากนั้น ผลงานของ LTU44 ก็ปล่อยออกมาถี่ยิบ ตามมาด้วย “เพราะเธอคือ...ประเทศไทย” “ความหวังความศรัทธา” และ “สะพาน”
แต่เมื่อเปิดตัวเพลงที่แล้วอย่าง “ใจเพชร” ก็ปรากฏว่าแป้กสนิท มีคนรักแค่เท่าผืนหนังกำพร้าบนฝ่ามือ จากยอดไลค์บน YouTube 6.5 K หรือ 6,500 ไลค์
แต่ยอด “ดิสไลค์” หรือ “ไม่ชอบ” ล่อเข้าไป 45 K หรือ 45,000 ไลค์ร่วมๆ 7 เท่า
แสดงให้เห็นว่า “มุกเก่า” คิดอะไรไม่ออก แต่งเพลงอ้อนประชาชนนั้น อาจจะไม่เวิร์กแล้วก็ได้
ส่วนซิงเกิ้ลใหม่ของ LTU44 นั้น ชื่อเพลง “สู้เพื่อแผ่นดิน” ซึ่งฟังแล้วก็รู้ว่าอาศัยขอเกาะกระแส “ออเจ้า” ด้วยลูกเล่นทำนองคล้ายเพลงละคร “บุพเพสันนิวาส” และมีการใช้เครื่องดนตรีไทยร่วมกับเสียงเอื้อนมาประกอบ
เปิดตัวครั้งแรกให้สื่อมวลชนที่ไปร่วมในงานพิธีสรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวในทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมานี้ได้ฟังกันก่อน
ตอนนี้มีผู้อัพโหลดขึ้นไปให้ฟังกันบน YouTube บ้างแล้ว ใครสนใจอยากฟัง ก็ลอง Search ชื่อเพลง “สู้เพื่อแผ่นดิน” ดูได้
หากเอาเนื้อเพลงมาแกะดูทีละวรรค ก็จะเห็นได้ว่า เจ้าตัวคนแต่งนั้นรู้ดีว่า ตอนนี้ “กระแส” ความนิยมของตัวเองกำลังตกต่ำลงเรื่อยๆ จากปัญหาสารพัด ที่แม้จะไม่ได้ก่อเอง แต่ก็ไม่สามารถเคลียร์หรือให้ความกระจ่างได้ จนพันตัวไปหมด
“เสียง” ติฉินติติงจากคนกลุ่มที่เคยเป็นแนวร่วม หรือเคยเป็นกลางๆ กับรัฐบาลและ คสช.นั้นก็แรงขึ้นเรื่อยๆ
เริ่มจากขึ้นต้นว่า “ฉันตั้งใจสู้เพื่อแผ่นดิน แม้ใครติฉินเท่าไหร่”
เปิดกันมาตรงๆ ว่า รู้นะว่าตอนนี้คนกำลัง “ติฉิน” อยู่ แต่ฉันก็ “สู้เพื่อแผ่นดิน” อยู่นะ
ส่วนท่อนต่อมาก็ว่า “ทุกวันเหนื่อยกาย อดทนต้องเก็บเอาไว้เพราะเสียงหัวใจบอกให้ทำเพื่อแผ่นดิน” ก็เป็นสารเดิมๆ ที่ศิลปินเจ้าเก่าพยายามจะบอกประชาชนว่า ที่ผ่านมาทำงานหนัก ทำงานเหนื่อย ไม่ได้พักผ่อน
ต่อด้วย “เธอจะมองอย่างไร แต่หัวใจฉันยังซื่อตรงยังมั่นคงไม่มีวันทอดทิ้งเธอ” ซึ่งเป็นการอ้อนมิตรรักแฟนเพลง
เช่นเดียวกับการ “ขายฝัน” ต่อไปว่า “ฉันยังมีความหวัง เชื่อว่าวันพรุ่งนี้อะไรต้องดีกว่าเดิมสิ่งที่เรามุ่งหมายในวันที่เราริเริ่ม จับมือกันเดินข้ามมามองด้วยหัวใจ ด้วยความจริง จะเห็นว่ามันดีกว่าไม่ไกลหรอกหนา มองไปข้างหน้า ทุกวันต้องดีขึ้นไป...”
ก่อนจะวอนขอต่อฟ้าดินว่า
“ขอฟ้าดินคุ้มแผ่นดินไทย ขอให้คนร้ายพ่ายสักวันให้คนหลงทางตื่นตนสว่างใจพลันหันมาร่วมกัน ร่วมทำเพื่อแผ่นดินเรา”
แสดงให้เห็นว่า สำหรับศิลปินแล้ว เขากำลังเชื่อว่า ตัวเองและพวกพ้องกำลังต่อสู้กับ “คนร้าย” สักคนอยู่ ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากคนที่ไม่เห็นด้วยนั้น คือ “คนหลงทาง” ที่ยังไม่ “ตื่นตน” ก็เลยหวังให้คนหลงทางพวกนั้น “ตาสว่าง” มาร่วมเป็นพวกเดียวกัน ว่าอย่างนั้น มาช่วยกันต่อสู้ “เพื่อแผ่นดิน” กันเถอะ
จากนี้ไปก็คงได้เห็นกันว่า ในที่สุด เพลงนี้จะ “เปรี้ยง” หรือจะ “แป้ก” แต่จากกระแสตอบรับเท่าที่สัมผัสได้ เพลงใหม่ของ LTU44 ไม่ได้สร้างความประทับใจหรือฮือฮาไปมากกว่าความเอือมระอาของประชาชนชาวบ้านที่รู้สึกว่า “อีกแล้วเหรอ”
แทบไม่เหลือเหล่า “โอตะ” (สาวก) คณะไอดอลชุดฟอร์มเขียวที่จะปวารณาตัวมา “โอชิ” (บูชา) กันอีกแล้ว
เพราะเป็นอีกครั้งที่วงนี้อาศัยการออกเพลงมากลบเกลื่อนการแก้ปัญหาชาติบ้านเมืองที่ไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม ซ้ำร้ายโรคเก่าของเหล่าผู้ใช้อำนาจรัฐ เช่นการคอร์รัปชันหรือใช้อำนาจในการหาประโยชน์โดยมิชอบ ยังปริแตกออกมาเหมือนกับหนองฝี ที่แสดงให้เห็นว่า “สุขภาพทางการเมือง” ของประเทศนั้นไม่ได้ดีขึ้นเลย จากผลงานการ “สู้เพื่อแผ่นดิน” ที่ผ่านมาของคณะไอดอล
อีกทั้งความไม่โปร่งใสและเรื่องกังขาของประชาชน ยังปรากฏขึ้นกับคนใกล้ตัวคือ “พี่ใหญ่” ร่วมวง เช่นเรื่อง “นาฬิกาหรู” ที่สังคมกัดไม่ปล่อย เป็นฉันทามติกันทุกฝั่งฝ่าย มุก “นาฬิกายืมเพื่อน” ถูกเอามาล้อเลียนกันทุกหย่อมหญ้าวงการ
โดยที่ตัว “ผู้อยู่ในตำแหน่ง” ที่เหมือนจะมีอำนาจในการจัดการ กลับออกมาปกป้องสุดตัวจนเสียรังวัด
ล่าสุดเรื่อง “เครื่องกรองน้ำเทวดา” ของ ศอ.บต.ที่มีสนนราคาตัวละครึ่งล้าน จัดซื้อกันร่วมร้อยตัว ก็ผุดขึ้นมาหลอกหลอนให้ “กัปตันตู่” แห่ง LTU44 ต้องปาดเหงื่อกันอีกครั้ง ว่ารอบนี้จะออกมาปกป้องกันต่ออีกหรือไม่
ส่วนการทุจริตคอร์รัปชันในแวดวงราชการอื่นที่ฉาวโฉ่ก่อนหน้านี้ เช่นเรื่องการโกงเงินคนจนและคนด้อยโอกาส ก็เป็นแผลแตกลามไปจนแตะไปตรงไหนก็เจอตรงนั้น
กระทั่งในแวดวงของผู้พิพากษาตุลาการ ที่เคยเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมาช้านาน ก็ปรากฏว่ามีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการขึ้นไปสร้าง “บ้านบนดอย” เป็น “หมู่บ้านป่าแหว่ง” จนถูกกระแสต่อต้านของคนในและนอกพื้นที่
แม้ว่าโฆษกของทางวงจะพยายามออกมาชี้ให้ชาวบ้านเห็นว่า เรื่องการทุจริตอื้อฉาวหรือไม่เหมาะสมต่างๆ ที่เห็นนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่รัฐบาลเก่า ก่อนที่วง LTU44 นี้จะ “เดบิว” (เปิดตัว)
แต่ก็นั่นแหละ ตัวเองอยู่ในอำนาจมาร่วม 4 ปี จะเกินหน้ารัฐบาลเลือกตั้งชุดไหนๆ อยู่แล้ว ข้ออ้างว่า “ปัญหามาจากรัฐบาลเก่า” แล้วจะไม่รับผิดชอบแก้ไขอะไร จะใช้อ้างกันอยู่อีกแค่ไหน
และตัวเองจริงจังจริงใจแค่ไหนกับความพยายามในการแก้ปัญหา มีการลูบหน้าปะจมูกกันหรือไม่
ถ้าซิงเกิ้ลใหม่นี้ไม่ฮิต ยอดกดชังมากกว่ากดชอบ
งานนี้ระวังว่าถ้ามี “เลือกตั้ง” เมื่อไร LTU44 อาจจะได้ “แกรด” (อำลาวงการ) กันทั้งคณะ.