xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อธนาคารเกษตรกร-ชาวนา “ธ.ก.ส.” เขาทำแอปฯ บนมือถือ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: กิตตินันท์ นาคทอง


เห็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำเค้าเปิดตัวแอปพลิเคชั่นบนมือถือใหม่ ทั้งสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อโอนเงิน ทั้งถอนเงินโดยไม่ใช้บัตร ทั้งเข้าๆ ออกๆ ได้ตามใจ และอื่น ๆ อีกเพียบ ถือเป็นบรรยากาศคึกคักอีกครั้งหนึ่งของเทคโนโลยีทางการเงิน

แต่เมื่อมาดูธนาคารของรัฐอย่าง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ได้ชื่อว่าเป็นแบงก์ของชาวนา เต็มไปด้วยลูกค้าที่เป็นเกษตรกร ดูเหมือนว่าเขาก็ไม่ได้หยุดนิ่งในเรื่องเทคโนโลยีทางการเงิน

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ธ.ก.ส. เปิดตัวแอปพลิเคชั่นใหม่ในชื่อ BAAC A-Mobile โดยมีเป้าหมายให้เกษตรกรและลูกค้าใช้ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบดิจิทัล ให้เป็นเรื่องง่าย สะดวก และปลอดภัย

ในระยะแรก ทำได้เพียงแค่เช็กยอดเงินในบัญชี แต่คาดว่าหลังจากเดือนพฤศจิกายน 2560 จะเปิดให้บริการโอนเงินภายในและต่างประเทศ โอนเงินพร้อมเพย์ ชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน QR CODE กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ

ถือเป็นเรื่องเกินความคาดหมาย สำหรับธนาคารของรัฐ ซึ่งเน้นไปที่การให้สินเชื่อเกษตรกร จะลงมาทำเทคโนโลยีทางการเงินเหมือนธนาคารอื่น ๆ แม้จะทำได้เพียงแค่เช็กยอดเงิน แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ควรสนับสนุน

ด้วยความสงสัยว่าใช้งานยังไง เลยทดลองสมัครและใช้บริการดู …

สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส. อยู่แล้ว ให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile หรือ BAAC A-Mobile ได้จาก Google Play บนมือถือแอนดรอยด์ และ App Store ในมือถือไอโฟน รอไว้ก่อน

(ถ้าใครไม่มีบัญชี แล้วอยากจะเปิดบัญชีออมทรัพย์ธรรมดา ธนาคารนี้เปิดบัญชีขั้นต่ำ 50 บาท)

หลังจากนั้น ให้นำสมุดบัญชีเล่มใดเล่มหนึ่ง พร้อมด้วยบัตรประชาชนตัวจริง และมือถือที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ไปที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อลงทะเบียนขอใช้บริการแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile

ปัจจุบัน ธ.ก.ส. มีสาขาในกรุงเทพฯ กว่า 60 แห่ง ที่เปิดเสาร์-อาทิตย์มี 7 แห่ง ได้แก่ บิ๊กซี ดาวคะนอง, เดอะมอลล์ 3 รามคำแหง, สยามสแควร์ วัน, ตลาดยิ่งเจริญ, สถานีขนส่งสายใต้, เดอะ สตรีท และ เดอะ ฟิลล์ สุขุมวิท 54

เจ้าหน้าที่จะกรอกแบบฟอร์ม ถามเบอร์มือถือที่จะสมัครใช้บริการ แล้วให้เราเซ็นชื่อ หลังจากนั้นพนักงานจะให้เรากดรหัสเพื่อเช็กการลงทะเบียนซิมการ์ด พนักงานจะตรวจสอบรหัส 4 ตัวท้ายเทียบกับบัตรประชาชนก่อนอนุมัติ

จากนั้น จะมี SMS แจ้งเตือนว่า “ยินดีต้อนรับเข้าสู่บริการ ธ.ก.ส. A-Mobile Welcome to BAAC Mobile” จริง ๆ แล้วเป็นอันสำเร็จ ออกจากธนาคารได้เลย

แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ให้รอ SMS รหัส OTP 6 หลักก่อน รอจนแล้วจนเล่าก็ไม่มา

เมื่อออกจากธนาคารได้สักสอง-สามชั่วโมง พอลองเข้าสู่แอปพลิเคชั่น A-Mobile อีกครั้ง เข้าไปที่เมนู “เข้าระบบ” ใส่หมายเลขโทรศัพท์ที่เราลงทะเบียน รอรับ SMS OTP 6 หลัก

พนักงานแจ้งว่าให้กรอกทั้ง 3 ครั้ง แล้วจะเข้าสู่ระบบทันที

จริง ๆ แล้วเหมือนกับว่าให้กรอกรหัสไปครั้งหนึ่งก่อน แล้วถึงกรอกรหัสผ่าน 6 หลักที่เราตั้งเอง แต่ตอนนั้นเข้าใจว่าพนักงานต้องการให้ทำรายการสำเร็จโดยเร็ว แล้วค่อยแนะนำวิธีเปลี่ยนรหัสผ่านที่หลัง

เมื่อกดรหัส 6 หลักสำเร็จ ระบบจะแสดงผลหน้าสรุปยอดบัญชี ประกอบด้วย บัญชีเงินฝาก บัญชีเงินกู้ และบัญชีสลากออมทรัพย์ โดยมีเมนูอื่น ๆ เช่น โอนเงิน เติมเงิน จ่ายบิล สลากออมทรัพย์

ซึ่งเมนูเหล่านี้ยังใช้ไม่ได้ อยู่ในระหว่างการพัฒนา

- หากต้องการเปลี่ยนรหัสผ่าน 6 หลัก ให้เข้าไปที่เมนู “ตั้งค่า” เลือก “ประวัติของฉัน” ให้เลื่อนไปที่ด้านล่างสุด ให้เลือกไปที่ “เปลี่ยนรหัสผ่าน” ระบบจะให้ใส่รหัสผ่านเดิม 6 หลัก แล้วใส่รหัสผ่านใหม่ที่เราต้องการอีก 2 ครั้ง

- หากต้องการเพิ่มบัญชีเงินฝาก ให้เข้าไปที่เมนู “จัดการบัญชี” เลือก “บัญชีเงินฝาก” แล้วกด “เพิ่ม” จะแสดงบัญชีเงินฝากที่มีอยู่ในระบบธนาคาร โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

- หากต้องการใช้กับมือถือเครื่องอื่น ให้ดาวน์โหลดแอป BAAC A-Mobile เข้าไปที่เมนู “เข้าระบบ” ใส่หมายเลขโทรศัพท์ที่เราลงทะเบียน ใส่รหัสผ่านของเรา 6 หลัก แล้วรอรับ SMS OTP 6 หลัก ก่อนกรอกลงไป

อยากรู้ว่าเบอร์มือถือเราใช้กับอุปกรณ์อะไรไป ตรวจสอบได้ที่เมนู “ตั้งค่า” เลือก “ประวัติของฉัน” เลื่อนไปที่ด้านล่างสุด เลือก “จัดการอุปกรณ์” จะแสดงรายการอุปกรณ์ สามารถเลือกลบอุปกรณ์ตัวใดตัวหนึ่งที่เราไม่ใช้งานแล้วก็ได้

แม้จะยังไม่สามารถโอนเงินจากแอปฯ ไปยังบัญชีต่าง ๆ ได้ในขณะนี้ แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้แอปฯ เช่นกัน

เพราะกลุ่มลูกค้า ธ.ก.ส. ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มลูกค้าเกษตรกร ซึ่งความรู้ทางเทคโนโลยีแตกต่างจากคนหนุ่มสาว เสี่ยงต่อการถูกหลอกทำธุรกรรมโอนเงิน การลักลอบการทำรายการ ที่นำไปสู่การสูญเสียเงินทองและทรัพย์สิน

ธนาคารจำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกันในการใช้งาน และสร้างความมั่นใจในการใช้บริการ โดย ธ.ก.ส. ให้คำแนะนำคร่าว ๆ คือ

1. เก็บรักษาโทรศัพท์มือถืออย่างใกล้ชิด และไม่เก็บข้อมูลรหัสบัตรเอทีเอ็ม หรือรหัสต่างๆ ไว้ในโทรศัพท์มือถือ เพราะหากโทรศัพท์มือถือหายไป ข้อมูลสำคัญอาจตกอยู่ในมือผู้ไม่หวังดี

2. ควรตั้งค่าล็อกโทรศัพท์มือถือด้วยรหัสผ่าน ใช้ในการป้องกันผู้ไม่หวังดี มาใช้โทรศัพท์มือถือของเรา เพราะมีเพียงเราผู้เป็นเจ้าของเครื่องเท่านั้น ที่รู้รหัสผ่าน และสามารถปลดล็อกเพื่อใช้งานเครื่องได้

3. สมัครบริการแจ้งเตือนและยืนยันเมื่อธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ควรมีการสมัครแจ้งเตือนการทำธุรกรรม เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น เช่น เมื่อมีการถอนเงิน หรือฝากเงินเข้าบัญชี จะมีข้อความแจ้งมา ในรูปแบบข้อความ SMS หรืออีเมล

4. ไม่บอกรหัสผ่านให้ผู้อื่นทราบ ทั้งรหัสผ่านในการเข้าใช้งานโทรศัพท์มือถือ และรหัสผ่านในการทำธุรกรรมออนไลน์

5. ไม่ควรตั้งรหัสผ่านที่ง่ายต่อการคาดเดา เช่น ตั้งรหัสผ่านเป็นหมายเลขโทรศัพท์ วันเกิด หรือชื่อเล่น เพราะง่ายต่อการคาดเดา เพื่อความปลอดภัยควรตั้งรหัสผ่านเกิน 7 ตัว และควรเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอทุก 3 เดือน

6. อัปเดตระบบโทรศัพท์อยู่เสมอ โดยอัปเดตระบบปฏิบัติการ หรือ แอปพลิเคชั่น บนโทรศัพท์มือถือที่ใช้อยู่ ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอย่างสม่ำเสมอ เพราะผู้พัฒนามีการปรับปรุงข้อผิดพลาดของระบบจากเวอร์ชั่นเดิม การอัปเดตให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดจึงช่วยป้องกันมิจฉาชีพออนไลน์ได้ส่วนหนึ่ง

7. ติดตามข่าวสารกลโกลและภัยทางออนไลน์ รวมทั้งภัยทางการเงิน โดยสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย เว็บไซต์ของสถาบันการเงิน หรือสื่อทุกแขนง เพื่อรู้เท่าทันภัยทางการเงินใหม่ๆ อยู่เสมอ

8. อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวบนสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะข้อมูลทางการเงิน และไม่ควรโพสต์ข้อความที่ทำให้มิจฉาชีพรู้ความเคลื่อนไหวของเราตลอด เช่น โพสต์บอกว่าไม่อยู่บ้าน อาจทำให้ผู้ไม่หวังดีวางแผนทรัพย์สินเราได้

9. ไม่ใช้ไว-ไฟสาธารณะในการทำธุรกรรมทางการเงิน เพราะไว-ไฟสาธารณะมักเข้าถึงได้ง่าย ส่งผลให้มิจฉาชีพสามารถขโมยรหัสผ่าน หรือข้อมูลสำคัญต่างๆ ผ่านเครือข่ายไร้สาย โดยที่เราไม่รู้ตัว

10. ธนาคารไม่มีนโยบายโทรสอบถามข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า



ที่ผมเป็นห่วงที่สุด ได้แก่ "ลูกค้าเกษตรกร" หรือชาวบ้านที่ไม่รู้เท่ากันภัยทางเทคโนโลยี หากปล่อยให้มีการสมัครและยืนยันตัวตนง่ายดายโดยไม่ต้องไปสาขา ก็อาจจะถูกตกเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพในการฉกเงินได้

หลายคนอาจมองว่า การสมัครผ่านอินเตอร์เน็ตหรือเอทีเอ็ม สะดวกกว่าไปสาขา แต่อย่างน้อยควรที่จะมีพนักงานช่วยยืนยันตัวตนเพื่อป้องกันคนแอบอ้าง เอาข้อมูลบัตรประชาชนไปสวมสิทธิ์สมัครใช้บริการเพื่อขโมยเงินในบัญชี

อย่างไรก็ตาม ผมเห็นผู้บริหาร ธ.ก.ส. ออกมาบอกว่า ในระยะแรกจะเริ่มให้พนักงาน ธ.ก.ส.ใช้งานก่อน ส่วนเกษตรกรลูกค้า เราจะเน้นให้ความรู้ ให้ข้อมูลก่อนเปิดให้บริการ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

แต่ถ้าจะให้ดีก็คือ เสนอว่าต้องให้ลูกค้าเกษตรกรใช้ตามความสมัครใจจริง ๆ หรือไม่เช่นนั้น อาจจะมีการจำกัดบริการบางอย่างที่ต้องขออนุญาตกับสาขาของธนาคารก่อน

เช่น การเพิ่มบัญชีเพื่อทำรายการในแอปฯ หลายคนคงคิดว่า จะไปจำกัดเพิ่มบัญชีทำไม เพิ่มเองในแอปฯ ทั้งหมดสะดวกดี สาขา ธ.ก.ส. ก็หายาก

จริง ๆ บอกตามตรงว่า วิธีการนี้เหมาะสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่กลุ่มลูกค้ามีความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีดีอยู่แล้ว ผมเกรงว่า อาจมีบุคคลอื่นที่ล่วงรู้ช่องโหว่ของเทคโนโลยี

โดยเฉพาะรหัสผ่าน 6 หลักของลูกค้าที่อาจจะเผลอบอกไปโดยไม่รู้ตัว ไปทำรายการเพิ่มบัญชีที่มีในระบบ แล้วดึงเงินในบัญชีไปโอนจนหมดเกลี้ยง

มือถือสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องในยุคนี้ นอกจากจะมีข้อมูลแล้ว ถือว่ามี “ทรัพย์สินทั้งชีวิต” อยู่ในนั้น

เราคงไม่อยากที่จะให้ใครวางใจเทคโนโลยีมากไป จนลืมความปลอดภัยในขีวิตและทรัพย์สินของตนเอง.


กำลังโหลดความคิดเห็น