xs
xsm
sm
md
lg

น่าจะเร่งขยายถนน 4 เลน มากกว่าเอาแต่สร้างมอเตอร์เวย์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: กิตตินันท์ นาคทอง

ขอขอบคุณ ภาพจาก @inapattmc
ไปเยือนภาคอีสานล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ตอนนี้ผู้รับเหมากำลังก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 6 (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน – สระบุรี – นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร

ที่เห็นเด่นชัดจะมีอยู่สองช่วง คือ บริเวณทางเลี่ยงเมืองสระบุรี ก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนานไปกับถนน และที่ชัดเจนที่สุด คือ ช่วงเลียบอ่างเก็บน้ำลำตะคอง จะก่อสร้างเป็นทางยกระดับ ขนานไปกับถนนมิตรภาพ

เห็นผู้รับเหมาขุดหินบริเวณเกาะกลางถนน ที่จะแยกส่วนกันระหว่างขาไป และขากลับที่เป็นทางขึ้นเขาแล้ว จากเดิมที่เป็นป่ารกๆ กลายเป็นเนินโล่ง ปิดตำนานธรรมชาติริมลำตะคอง ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยตอม่อของมอเตอร์เวย์สายนี้

ก่อนหน้านั้น ชาวบ้านปากช่อง พากันคัดค้านมอเตอร์เวย์สายนี้ เพราะใกล้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลกสำคัญ และทางขึ้นลงใกล้กับชุมชนเกินไป อีกทั้งเห็นว่าควรที่จะขยายถนนมิตรภาพ หรือสร้างทางรถไฟความเร็วสูงมากกว่า

อันที่จริงไม่ได้ค้านว่าจะไม่ให้มีมอเตอร์เวย์เลย เพราะเอาเข้าจริงถนนมิตรภาพ เส้นเลือดใหญ่ของภาคอีสาน มีปัญหารถหนาแน่น โดยเฉพาะช่วงเทศกาล รถจะติดในช่วงทางขึ้นเขาแถวมวกเหล็ก และแถวลำตะคอง

แต่ในช่วงที่ผ่านเขตอำเภอปากช่อง ชาวบ้านที่นั่นเห็นว่าควรที่จะปรับเป็นทางยกระดับบนถนนมิตรภาพ คล้ายกับดอนเมืองโทลล์เวย์ จะได้ไม่ต้องเวนคืนที่ดินให้เดือดร้อน แต่กรมทางหลวงก็อ้างว่าค่าก่อสร้างจะสูง ใช้งบประมาณไม่คุ้มค่า

ไหนๆ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เดินหน้าให้ผู้รับเหมาก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องคอยดูว่า หลังเปิดให้บริการในปี 2563 คนปากช่องจะเดือดร้อนชิบหายขนาดไหน แล้วกรมทางหลวงจะตามไปแก้ไขอย่างไร

เมื่อพูดถึงถนนหนทางในภาคอีสาน ไม่ได้หมายความว่ากรมทางหลวงจะละเลย ไม่ขยายถนนสายรองเป็น 4 ช่องจราจรเลย

ยังมีโครงการเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแบบ “ค่อยเป็นค่อยไป”

น่าสนใจก็คือ ทางหลวงหมายเลข 201 สีคิ้ว - ชัยภูมิ ช่วงตั้งแต่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ถึงหนองบัวโคก ที่เมื่อก่อนยังเป็นถนน 2 ช่องจราจรสวนทาง ถ้าไม่มีอะไรติดขัด ช่วงสงกรานต์นี้คงจะได้ใช้เป็นทางเลี่ยงรถติดแถวโคราช

สามารถใช้แทนถนนมิตรภาพไปยังจังหวัดทางอีสานเหนือ ผ่านชัยภูมิ (เลี้ยวขวาเข้าถนนบายพาส) แล้ว ถึงสามแยกช่องสามหมอ เลี้ยวขวาอีก 86 กิโลเมตร ผ่านมัญจาคีรี แล้วไปออกถนนเลี่ยงเมืองขอนแก่น หรือตัวเมืองขอนแก่นตรงสี่แยกเหล่านาดีก็ได้
ทางหลวงหมายเลข 12 ช่วงที่ผ่านอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว (ภาพจาก มูลนิธิสืบนาคะเสถียร)
ในพื้นที่รอยต่อระหว่างภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน มีเส้นทางคมนาคม 2-3 เส้นทางที่เชื่อมต่อกัน ส่วนใหญ่ยังเป็นถนนสองเลนสวนทาง ยังไม่พัฒนาเป็น 4 ช่องจราจร ที่ช่วยทำความเร็วในการคมนาคมและขนส่งสินค้าได้

ยกตัวอย่างเช่น ทางหลวงหมายเลข 12 แม่สอด - มุกดาหาร ระยะทาง 793 กิโลเมตร ที่ตอนกลางเชื่อมระหว่างจังหวัดหัวเมืองภาคเหนือตอนล่างอย่างพิษณุโลก กับหัวเมืองใจกลางภาคอีสานอย่างขอนแก่น

ถูกจัดให้เป็น เส้นทางยุทธศาสตร์สายเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก (East – West Economic Corridor) เชื่อมระหว่างชายแดนเมียนมา กับลาว ต่อเนื่องไปยังเมืองดานัง ทางภาคกลางของเวียดนาม

ที่ผ่านมาถูกพัฒนาเป็นถนน 4 ช่องจราจรอย่างต่อเนื่อง เช่น อ.แม่สอด ถึง จ.ตาก ที่กำลังก่อสร้าง หรือจะเป็นฝั่ง จ.กาฬสินธุ์ ที่ทำถนนแนวใหม่ไปถึง อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ทดแทนถนนเส้นเดิมที่บ้านเรือนประชาชนชิดกับขอบทาง

แต่สำหรับช่วง อ.หล่มสัก ถึง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ระยะทาง 80 กิโลเมตร เกิดปัญหาถูกคัดค้านจากกลุ่มนักอนุรักษ์ เนื่องจากบางช่วงตัดผ่านอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เกรงว่าจะได้รับผลกระทบกับสัตว์ป่า เช่น ช้างป่า

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งให้ไปศึกษาเส้นทางอื่นที่เหมาะสมแทน และกรมทางหลวงได้ชะลอโครงการ โดยให้ผู้รับเหมา 4 เจ้าที่ชนะการประมูลระงับการก่อสร้างไว้ก่อนแล้ว

ที่ผ่านมา ทางหลวงหมายเลข 12 ช่วงหล่มสักถึงชุมแพ ผ่านอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว มีรถทัวร์ที่เสี่ยงตายขึ้นลงทางลาดชันจำนวนมาก จุดอันตรายที่สุดคือสะพานห้วยตอง ที่ทำเอารถทัวร์ตายหมู่มาแล้ว

ถึงกระนั้น สำหรับบรรดารถบรรทุกขนาดใหญ่ ต่างหันมาใช้ทางหลวงหมายเลข 2216 เลี้ยวขวาที่สามแยกห้วยสนามทราย ไปออกถนนสายหล่มสัก-เลย ที่สามแยกกกกะทอน แม้จะอ้อมไป 70 กิโลเมตร แต่ไม่ผ่านพื้นที่ป่า และลาดชันน้อยกว่า

อุปสรรคที่สำคัญที่ทำให้การขยายถนนเป็น 4 เลนเป็นไปได้ยากก็คือ ช่วงรอยต่อระหว่างภาคเหนือและภาคอีสานเป็นที่ราบสูง ข้ามผ่านเทือกเขาเพชรบูรณ์ ทอดยาวมาจากประเทศลาว ถึง จ.ลพบุรี

เมื่อวันก่อนนั่งรถทัวร์จากชัยภูมิไปพิษณุโลก ของนครชัยแอร์ ใช้ ทางหลวงหมายเลข 225 (ชัยภูมิ - นครสวรรค์) ผ่านบ้านเขว้า หนองบัวระเหว ต้องขึ้นเขาสองช่วง คือ ช่วงอุทยานแห่งชาติไทรทอง เป็นทางคดเคี้ยวยาว 5 กิโลเมตร

พอลงมายังตัวอำเภอภักดีชุมพล สักพักก็ต้องขึ้นเขาอีกช่วงหนึ่ง เป็นรอยต่อระหว่าง จ.ชัยภูมิ กับ จ.เพชรบูรณ์ ลักษณะเป็นทางเขา ระยะทาง 8 กิโลเมตร กว่าจะเข้าเขต อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์มาได้ ก็กินเวลากว่า 2 ชั่วโมง

ไม่ใช่ว่าถนนสายนี้จะไม่ได้พัฒนาเลย ช่วงที่ผ่าน อ.บึงสามพัน พยายามขยายให้เป็นถนนสี่เลน เกาะกลางถนนแบบตีเส้นทะแยง บางช่วงขยายเสร็จแล้ว บางช่วงยังเป็นถนนสองเลน เข้าใจว่ากำลังทยอยทำตามงบประมาณที่ได้รับ
สี่แยกหนองบัว จ.นครสวรรค์
แต่ที่น่าอเนจอนาถยิ่งกว่าก็คือ เมื่อมาถึงสี่แยกหนองบัว ไปตามถนนตากฟ้า - วังทอง (ทางหลวงหมายเลข 11) มุ่งหน้า จ.พิษณุโลก นอกจากถนนยังเป็นสองเลนสวนทางแล้ว ถนนยังขรุขระเป็นโลกพระจันทร์จนสัมผัสได้

ตอนเด็กๆ เมื่อสัก 15 ปีก่อน เคยนั่งรถจากพิษณุโลกบ้านญาติ ไปตามถนนเส้นนี้ ออก อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เพื่อกลับกรุงเทพฯ ปรากฏว่านอกจากถนนสองเลนตลอดสายแล้ว บางช่วงพื้นปูนยังแตกร้าว เป็นหลุมเป็นบ่ออีกต่างหาก

ผ่านไปหลายสิบปี ถนนเส้นนี้ตั้งแต่ทางแยกต่างระดับอินทร์บุรีก็ยังไม่พัฒนาแต่อย่างใด ทำเป็นถนนสี่เลนเฉพาะช่วงตั้งแต่หลักกิโลเมตรที่ 172 อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร ขึ้นไปถึง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เท่านั้นที่เป็นถนนสี่เลนตลอดสาย

ทั้ง ๆ ที่ถนนเส้นนี้หากวัดกันให้ดี มีรถใช้เส้นทางนี้วันหนึ่งเฉลี่ย 6,300 คันต่อวัน และรถบรรทุกหนักกว่า 1,600 คันต่อวัน (วัดจากช่วงตากฟ้า - ไดตาล) มีรถทัวร์สายเหนือจากกรุงเทพฯ และรถหมวด 3 จากภาคอีสาน นับสิบเส้นทางใช้เส้นทางนี้

อีกทั้งในช่วงเทศกาล หากสภาพถนนดีก็จะช่วยแบ่งเบารถที่หนาแน่นบนถนนสายเอเชีย โดยเฉพาะสะพานเดชาติวงศ์ จ.นครสวรรค์ ซึ่งรถติดทุกปี แม้ปีหลังๆ จะเปิดทางเลี่ยงเมืองอ้อมไปถึงถนนนครสวรรค์ – พิษณุโลกแล้วก็ตาม

ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งที่เชื่อมระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ก็คือ ถนนสุรนารายน์ (ทางหลวงหมายเลข 205) จาก อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี สิ้นสุดที่ จ.นครราชสีมา ระยะทาง 231 กิโลเมตร

ช่วงสำคัญที่อยากให้ขยายก็คือ สี่แยกม่วงค่อม ตัดกับถนนสระบุรี - หล่มสัก (ทางหลวงหมายเลข 21) อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี แล้วไปออกทางหลวงหมายเลข 201 ที่แยกบ้านหนองบัวโคก ตรงไปโคราชหรือเลี้ยวซ้ายไปขอนแก่นก็ได้
สี่แยกตากฟ้า จ.นครสวรรค์ (ภาพจากแขวงทางหลวงนครสวรรค์ที่ 2 ตากฟ้า)
จริงๆ มีถนนสายรองอีกเยอะ ที่เห็นสมควรขยายเป็น 4 ช่องจราจร พูดง่ายๆ ถ้าสภาพถนนดี การคมนาคมไปมาสะดวก รถหันมาใช้เส้นทางเยอะ ความเจริญก็จะเข้ามา กระจายรายได้ทางเศรษฐกิจสู่อำเภอและชุมชน

กรมทางหลวงมีข้อมูลปริมาณการจราจรถนนแต่ละเส้นอยู่แล้ว ก็น่าที่จะผลักดันโครงการเฉพาะที่ยังเป็นถนนสองเลนให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

มากกว่าขยันผุดโครงการถนนมอเตอร์เวย์ ที่จะมีขึ้นในอนาคตอีกหลายสาย จะไม่ใช้ก็ไม่ได้ เพราะถนนที่มีอยู่แออัดและชำรุดทุกวัน

เหมือนถนนบางนา - บางปะกง ที่ต้องขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีเพราะถนนด้านล่างชำรุดจนเกิดอุบัติเหตุมานักต่อนัก



กำลังโหลดความคิดเห็น