เคยคิดเล่นๆ ว่า อยากให้รถโดยสารประจำทางบ้านเรา มีจอทีวีบอกป้ายรถเมล์ข้างหน้าให้ผู้โดยสารได้ทราบ แบบในหลายๆ ประเทศที่เคยเดินทางแล้วพบเจอ แต่ก็ไม่คิดว่าความฝันของผม องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.เขากำลังทำอยู่ครับ!!
ผมรู้ได้อย่างไรนะเหรอ?
จริงๆ มันเกิดจากความบังเอิญระหว่างกำลังกลับจากการไปเยี่ยมน้องนักข่าวคนหนึ่ง ซึ่งเธอประสบอุบัติเหตุที่ จ.กำแพงเพชร และมารักษาตัวต่อในโรงพยาบาลแถวๆ โชคชัย ๔ ผมโบกรถเมล์ยูโรทูสีส้มสาย ๑๔๕ เพื่อจะไปยังสวนจตุจักร ซี่งคันนี้มันก็ดูเหมือนรถเมล์ปกติทุกอย่าง ผมขึ้นทางประตูข้างคนขับ แล้วเดินเข้าสู่กลางรถเพื่อหาที่นั่ง จังหวะนั้น เหลือบไปเห็นทีวีจอแบบแขวนไว้อยู่ด้านหลังของคนขับ ก็สงสัย เอ๊ะ... เดี๋ยวนี้รถเมล์เขาเอาทีวีมาฉายโฆษณาเหมือนรถเอกชนแล้วรึ
ตรงนี้อธิบายสักนิดสำหรับคนที่ไม่ได้ขึ้นรถเมล์มานานมากครับ สักราวๆ ๒ – ๓ ปีที่แล้ว ผมเคยเห็นรถเมล์เอกชนบางราย อาทิ ปอ.๔๐ สีเหลือง เขามีการติดตั้งจอทีวีไว้บนรถด้วย บริเวณด้านหลังคนขับและประตูทางออกกลางตัวรถ ซึ่งสิ่งที่ฉายส่วนใหญ่มักเป็นรายการตลก สารคดีชีวิต มิวสิควิดีโอ ข่าวแห้ง สลับกับโฆษณาไปมา เป็นเสมือนเพียงแค่เครื่องเพิ่มความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสารบนรถเท่านั้น ตอนนี้ไม่แน่ใจว่ายังมีอยู่หรือเปล่า เพราะไม่ได้ขึ้นมานานพอสมควร
แต่สำหรับรถเมล์ ขสมก.คันนี้กลับไม่ใช่แฮะ สิ่งที่เปิดโชว์เป็นรายการประชาสัมพันธ์ของ ขสมก.เกี่ยวกับระบบใหม่ภายในรถโดยสาร!! และที่สำคัญแถบบาร์ด้านบนสุดของจอ มีระบุป้ายรถเมล์หน้าที่รถกำลังเคลื่อนไปถึงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นพอใกล้จะถึงป้ายก็มีข้อความย้ำว่า ถึงแล้ว ให้แน่ใจด้วยว่าจะไม่ลงป้ายผิด นอกจากนั้นทั้ง ๒ ข้างของแถบยังมีการระบุชื่อ ของคนขับและพนักงานเก็บสตางค์ รวมทั้งหมายเลขตัวรถด้วย ... เฮ้ยดีว่ะ!!

ผมก็เลยลองถามป้ากระเป๋ารถเมล์ แกบอกว่า จอทีวีเนี่ยติดตั้งมานานแล้ว แต่เพิ่งเปิดฉายเมื่อหลังปีใหม่มานี้เอง ... ระหว่างนั่งเพลินๆ สายตาผมก็สอดส่องดูความเปลี่ยนแปลง พบว่า บนรถมีกล้องวงจรปิดติดด้วยแฮะ และที่บริเวณคนขับด้านข้างซ้ายมือก็มีจอเล็กๆ ไว้บอกระยะความเร็วของรถ และเมื่อถึงป้ายยังตัดสลับภาพไปที่กล้องวงจรปิดท้ายรถอีกด้วย แต่น่าเสียดาย ... ที่จอภาพมันกลับถูกบดบังด้วยกระเป๋าส่วนตัวของป้าไปซะแล้ว
เรื่องนี้ถือเป็นความก้าวหน้าทางการขนส่งมวลชนที่ไม่ค่อยมีคนรู้เท่าไหร่ คือถ้าผมไม่บังเอิญเจอก็ไม่รู้ไง ผมก็เลยลองค้นข้อมูลดู ไปพบว่า มันมีความเป็นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดําเนินการเกี่ยวกับ การศึกษาแนวทางและกำหนดมาตรการในการนําเทคโนโลยีระบบกำหนดตําแหน่งบนโลก (Global Positioning System: GPS) มาใช้ติดตั้งกับรถสาธารณะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม รวมทั้งเป็นการตรวจสอบ และยกระดับความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุในการเดินทางลงได้
แต่กว่า ขสมก.จะได้ฤกษ์จัดการประกวดราคาก็เพิ่งจะเมื่อวันที่ ๑๕ มิ.ย.ปีที่แล้วนี่เอง และที่สำคัญเป็นการเช่าระบบตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติการเดินรถ (GPS) พร้อมติดตั้ง ในสัญญาเช่า ๕ ปี!! โดยมีผู้เข้าเสนอราคาจำนวน ๕ ราย และ บริษัท ซูเล็ค อินเตอร์เนชันแนล จํากัด เป็นผู้ชนะ ในราคารวมทั้งสิ้น ๓๓๘,๓๘๐,๐๐๐ บาท จากราคากลางที่ตั้งไว้ ๖๐๖,๙๙๖,๐๐๐ บาท ซึ่งคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ เพิ่งจะมีมติอนุมัติให้เช่า เมื่อวันที่ ๑๓ ก.ย.ปีเดียวกัน
โดยจะต้องทำการติดตั้ง GPS บนรถเมล์ ๒,๖๐๐ คัน พร้อมจอภาพอัจฉริยะ อุปกรณ์สนับสนุนอื่นๆ รวมทั้งการปรับปรุงห้องควบคุม ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ที่สํานักงานใหญ่ เขตการเดินรถ และ กลุ่มงานปฏิบัติการเดินรถ ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์แม่ข่ายบนระบบ Cloud ทั้งแผนที่ การประมวลผลส่วนกลาง การประมวลระยะเวลาในการเดินทาง การควบคุมและตรวจสอบสถานะของรถโดยสารประจําทาง การจัดตารางให้บริการเดินรถโดยสาร และระบบติดตามรถผ่านดาวเทียม และอุปกรณ์เคลื่อนที่ ระบบนับจํานวนผู้โดยสาร ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม ระบบจอควบคุมสําหรับพนักงานขับรถ ระบบประกาศภายในรถ การรายงานสรุปข้อมูลการให้บริการ และระบบจอภาพอัจฉริยะ ที่ป้ายรถโดยสาร ๒๐ ป้าย ภายใน ๒๑๐ วัน นอกจากนี้ยังรวมไปถึง การฝึกอบรมการใช้งาน และการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับ ขสมก.
ทีนี้เรามาดูว่า บนรถ ๑ คันจะมีอะไรใหม่บ้าง ในส่วนของ GPS นั้น ที่น่าสนใจก็คือ มีระบบเสียงเตือนผ่านลําโพงในตัวรถ เมื่อรถโดยสารขับความเร็วเกินกว่าที่กำหนดและสามารถสั่งการได้จากศูนย์ควบคุม พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อเสาสัญญาณ หรือกล่องอุปกรณ์ถูกถอด ส่วนกล้องวงจรปิดก็มีติดตั้ง ๔ เครื่อง ไว้บันทึกภาพถนนด้านหน้ารถ หลังรถ และภายใน กับบริเวณประตูทางขึ้น – ลง พร้อมอุปกรณ์บันทึกสัญญาณภาพ
ขณะที่ ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบ e-Ticket ได้ด้วย ส่วนจอควบคุมสําหรับคนขับนั้น เอาไว้แสดงเส้นทางการเดินรถ และตําแหน่งปัจจุบันของรถ แสดงสถานะการจราจรในบริเวณใกล้เคียง มีปุ่มหรือฟังก์ชันแจ้งอุบัติเหตุ หรือ รถเสีย และแจ้งเตือนเมื่อออกนอกพื้นที่ได้
นอกจากนี้ก็ยังมี ระบบนับจํานวนผู้โดยสาร ระบบบันทึกเวลาปฏิบัติงาน และ ระบบประกาศภายในรถมีเสียงประกาศและแสดงสถานที่สําคัญของป้ายหยุดรถโดยสารถัดไปได้อัตโนมัติเมื่อใกล้บริเวณป้าย ส่วนจอภาพให้แสดงเนื้อหาข้อมูลพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารประจํารถ ข้อมูลป้ายหยุดรถโดยสารถัดไป สื่อให้ความบันเทิงและสื่อโฆษณา รวมถึงโปรโมชั่นจากร้านค้าที่ร่วมรายการในบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ต้องสามารถปิดเสียงสื่ออื่นๆ และประกาศข้อมูลป้ายหยุดรถโดยสารได้อัตโนมัติด้วย
ก็อารมณ์คล้ายๆ กับจอแสดงภาพบนรถไฟฟ้าบีทีเอสนั่นแหละ
รายละเอียดอื่นๆ สามารถไปอ่านร่าง ทีโออาร์ ต่อได้ที่ http://www.bmta.co.th/sites/default/files/files/draft-tor/raang_tor_gps_khbekhtkhngngaankhrangthii_4.pdf
ทั้งหมดนี้ถือเป็นพัฒนาการที่ดีอีกขั้นของรถเมล์ไทย ในระหว่างรอรถเมล์เอ็นจีวีรุ่นใหม่ที่กำลังมีปัญหาอยู่ แต่มันก็มีข้อสังเกตบางอย่าง เช่น สัญญาเช่าแค่ ๕ ปีนี่มันดูระยะเวลาน้อยไปหรือเปล่า แต่อีกมุมนึงก็เป็นไปได้ว่าเทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปตลอด เขาจึงอาจกลัวว่าหากปล่อยให้ระยะยาวอาจจะกลายเป็นล้าสมัยได้กระมัง
หรืออย่างการให้สามารถฉายรายการเพื่อความบันเทิง หรือ โฆษณา บนจอภาพ แน่นอนว่าที่ทำก็เพื่อต้องการหารายได้ แต่จะทำอย่างไรให้ผู้โดยสารสามารถเห็นการแสดงผลป้ายรถเมล์ถัดไปได้อย่างชัดเจน เพราะปัญหาที่พบจากจอภาพแบบที่ใช้ทดสอบที่ผมเห็นนั้นคือแถบมันเล็กมาก ใช้สีที่ดูไม่สะดุดตา ที่สำคัญหากเป็นป้ายรถเมล์ที่มีชื่อยาวๆ นี่ก็จะถูกระบบตัดทอนจนเหลือคำสั้นๆ ไปในทันที ... ตรงนี้ผมหวังว่าคงจะมีการแก้ไขในไม่ช้า

และสุดท้ายแล้ว หากระบบทุกอย่างดีหมด แต่พนักงานกลับไร้การกระตือรือร้น ไม่ใส่ใจ ทำขอไปที ไอ้ที่สั่งเช่ามาในราคามหาศาลด้วยภาษีของชาวบ้านก็คงหมดความหมายเช่นกัน ผมหวังว่าพี่ๆ เขาคงจะไม่เป็นเช่นนั้น
แต่ที่น่าเศร้าของผู้โดยสารบางคนก็คือ...รถเมล์จะไม่ได้กลายเป็นที่หลับนอนอย่างสบายใจอีกต่อไป เพราะเสียงโฆษณาและรายการจะมารบกวนจนถ้าคุณไม่ง่วงจริงๆ ก็คงหลับไม่ได้ง่ายแน่ๆ
เอาน่ะ ได้อย่างก็มีเสียอย่าง ปรับปรุงมาได้เท่านี้ก็ดีถมไปแล้ว...มั้ง
ผมรู้ได้อย่างไรนะเหรอ?
จริงๆ มันเกิดจากความบังเอิญระหว่างกำลังกลับจากการไปเยี่ยมน้องนักข่าวคนหนึ่ง ซึ่งเธอประสบอุบัติเหตุที่ จ.กำแพงเพชร และมารักษาตัวต่อในโรงพยาบาลแถวๆ โชคชัย ๔ ผมโบกรถเมล์ยูโรทูสีส้มสาย ๑๔๕ เพื่อจะไปยังสวนจตุจักร ซี่งคันนี้มันก็ดูเหมือนรถเมล์ปกติทุกอย่าง ผมขึ้นทางประตูข้างคนขับ แล้วเดินเข้าสู่กลางรถเพื่อหาที่นั่ง จังหวะนั้น เหลือบไปเห็นทีวีจอแบบแขวนไว้อยู่ด้านหลังของคนขับ ก็สงสัย เอ๊ะ... เดี๋ยวนี้รถเมล์เขาเอาทีวีมาฉายโฆษณาเหมือนรถเอกชนแล้วรึ
ตรงนี้อธิบายสักนิดสำหรับคนที่ไม่ได้ขึ้นรถเมล์มานานมากครับ สักราวๆ ๒ – ๓ ปีที่แล้ว ผมเคยเห็นรถเมล์เอกชนบางราย อาทิ ปอ.๔๐ สีเหลือง เขามีการติดตั้งจอทีวีไว้บนรถด้วย บริเวณด้านหลังคนขับและประตูทางออกกลางตัวรถ ซึ่งสิ่งที่ฉายส่วนใหญ่มักเป็นรายการตลก สารคดีชีวิต มิวสิควิดีโอ ข่าวแห้ง สลับกับโฆษณาไปมา เป็นเสมือนเพียงแค่เครื่องเพิ่มความบันเทิงให้แก่ผู้โดยสารบนรถเท่านั้น ตอนนี้ไม่แน่ใจว่ายังมีอยู่หรือเปล่า เพราะไม่ได้ขึ้นมานานพอสมควร
แต่สำหรับรถเมล์ ขสมก.คันนี้กลับไม่ใช่แฮะ สิ่งที่เปิดโชว์เป็นรายการประชาสัมพันธ์ของ ขสมก.เกี่ยวกับระบบใหม่ภายในรถโดยสาร!! และที่สำคัญแถบบาร์ด้านบนสุดของจอ มีระบุป้ายรถเมล์หน้าที่รถกำลังเคลื่อนไปถึงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นพอใกล้จะถึงป้ายก็มีข้อความย้ำว่า ถึงแล้ว ให้แน่ใจด้วยว่าจะไม่ลงป้ายผิด นอกจากนั้นทั้ง ๒ ข้างของแถบยังมีการระบุชื่อ ของคนขับและพนักงานเก็บสตางค์ รวมทั้งหมายเลขตัวรถด้วย ... เฮ้ยดีว่ะ!!
ผมก็เลยลองถามป้ากระเป๋ารถเมล์ แกบอกว่า จอทีวีเนี่ยติดตั้งมานานแล้ว แต่เพิ่งเปิดฉายเมื่อหลังปีใหม่มานี้เอง ... ระหว่างนั่งเพลินๆ สายตาผมก็สอดส่องดูความเปลี่ยนแปลง พบว่า บนรถมีกล้องวงจรปิดติดด้วยแฮะ และที่บริเวณคนขับด้านข้างซ้ายมือก็มีจอเล็กๆ ไว้บอกระยะความเร็วของรถ และเมื่อถึงป้ายยังตัดสลับภาพไปที่กล้องวงจรปิดท้ายรถอีกด้วย แต่น่าเสียดาย ... ที่จอภาพมันกลับถูกบดบังด้วยกระเป๋าส่วนตัวของป้าไปซะแล้ว
เรื่องนี้ถือเป็นความก้าวหน้าทางการขนส่งมวลชนที่ไม่ค่อยมีคนรู้เท่าไหร่ คือถ้าผมไม่บังเอิญเจอก็ไม่รู้ไง ผมก็เลยลองค้นข้อมูลดู ไปพบว่า มันมีความเป็นมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๓ มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมดําเนินการเกี่ยวกับ การศึกษาแนวทางและกำหนดมาตรการในการนําเทคโนโลยีระบบกำหนดตําแหน่งบนโลก (Global Positioning System: GPS) มาใช้ติดตั้งกับรถสาธารณะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม รวมทั้งเป็นการตรวจสอบ และยกระดับความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาและลดอุบัติเหตุในการเดินทางลงได้
แต่กว่า ขสมก.จะได้ฤกษ์จัดการประกวดราคาก็เพิ่งจะเมื่อวันที่ ๑๕ มิ.ย.ปีที่แล้วนี่เอง และที่สำคัญเป็นการเช่าระบบตรวจสอบและติดตามการปฏิบัติการเดินรถ (GPS) พร้อมติดตั้ง ในสัญญาเช่า ๕ ปี!! โดยมีผู้เข้าเสนอราคาจำนวน ๕ ราย และ บริษัท ซูเล็ค อินเตอร์เนชันแนล จํากัด เป็นผู้ชนะ ในราคารวมทั้งสิ้น ๓๓๘,๓๘๐,๐๐๐ บาท จากราคากลางที่ตั้งไว้ ๖๐๖,๙๙๖,๐๐๐ บาท ซึ่งคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ เพิ่งจะมีมติอนุมัติให้เช่า เมื่อวันที่ ๑๓ ก.ย.ปีเดียวกัน
โดยจะต้องทำการติดตั้ง GPS บนรถเมล์ ๒,๖๐๐ คัน พร้อมจอภาพอัจฉริยะ อุปกรณ์สนับสนุนอื่นๆ รวมทั้งการปรับปรุงห้องควบคุม ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ที่สํานักงานใหญ่ เขตการเดินรถ และ กลุ่มงานปฏิบัติการเดินรถ ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์แม่ข่ายบนระบบ Cloud ทั้งแผนที่ การประมวลผลส่วนกลาง การประมวลระยะเวลาในการเดินทาง การควบคุมและตรวจสอบสถานะของรถโดยสารประจําทาง การจัดตารางให้บริการเดินรถโดยสาร และระบบติดตามรถผ่านดาวเทียม และอุปกรณ์เคลื่อนที่ ระบบนับจํานวนผู้โดยสาร ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุม ระบบจอควบคุมสําหรับพนักงานขับรถ ระบบประกาศภายในรถ การรายงานสรุปข้อมูลการให้บริการ และระบบจอภาพอัจฉริยะ ที่ป้ายรถโดยสาร ๒๐ ป้าย ภายใน ๒๑๐ วัน นอกจากนี้ยังรวมไปถึง การฝึกอบรมการใช้งาน และการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับ ขสมก.
ทีนี้เรามาดูว่า บนรถ ๑ คันจะมีอะไรใหม่บ้าง ในส่วนของ GPS นั้น ที่น่าสนใจก็คือ มีระบบเสียงเตือนผ่านลําโพงในตัวรถ เมื่อรถโดยสารขับความเร็วเกินกว่าที่กำหนดและสามารถสั่งการได้จากศูนย์ควบคุม พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อเสาสัญญาณ หรือกล่องอุปกรณ์ถูกถอด ส่วนกล้องวงจรปิดก็มีติดตั้ง ๔ เครื่อง ไว้บันทึกภาพถนนด้านหน้ารถ หลังรถ และภายใน กับบริเวณประตูทางขึ้น – ลง พร้อมอุปกรณ์บันทึกสัญญาณภาพ
ขณะที่ ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมให้สามารถเชื่อมต่อกับระบบ e-Ticket ได้ด้วย ส่วนจอควบคุมสําหรับคนขับนั้น เอาไว้แสดงเส้นทางการเดินรถ และตําแหน่งปัจจุบันของรถ แสดงสถานะการจราจรในบริเวณใกล้เคียง มีปุ่มหรือฟังก์ชันแจ้งอุบัติเหตุ หรือ รถเสีย และแจ้งเตือนเมื่อออกนอกพื้นที่ได้
นอกจากนี้ก็ยังมี ระบบนับจํานวนผู้โดยสาร ระบบบันทึกเวลาปฏิบัติงาน และ ระบบประกาศภายในรถมีเสียงประกาศและแสดงสถานที่สําคัญของป้ายหยุดรถโดยสารถัดไปได้อัตโนมัติเมื่อใกล้บริเวณป้าย ส่วนจอภาพให้แสดงเนื้อหาข้อมูลพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารประจํารถ ข้อมูลป้ายหยุดรถโดยสารถัดไป สื่อให้ความบันเทิงและสื่อโฆษณา รวมถึงโปรโมชั่นจากร้านค้าที่ร่วมรายการในบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ต้องสามารถปิดเสียงสื่ออื่นๆ และประกาศข้อมูลป้ายหยุดรถโดยสารได้อัตโนมัติด้วย
ก็อารมณ์คล้ายๆ กับจอแสดงภาพบนรถไฟฟ้าบีทีเอสนั่นแหละ
รายละเอียดอื่นๆ สามารถไปอ่านร่าง ทีโออาร์ ต่อได้ที่ http://www.bmta.co.th/sites/default/files/files/draft-tor/raang_tor_gps_khbekhtkhngngaankhrangthii_4.pdf
ทั้งหมดนี้ถือเป็นพัฒนาการที่ดีอีกขั้นของรถเมล์ไทย ในระหว่างรอรถเมล์เอ็นจีวีรุ่นใหม่ที่กำลังมีปัญหาอยู่ แต่มันก็มีข้อสังเกตบางอย่าง เช่น สัญญาเช่าแค่ ๕ ปีนี่มันดูระยะเวลาน้อยไปหรือเปล่า แต่อีกมุมนึงก็เป็นไปได้ว่าเทคโนโลยีมันเปลี่ยนไปตลอด เขาจึงอาจกลัวว่าหากปล่อยให้ระยะยาวอาจจะกลายเป็นล้าสมัยได้กระมัง
หรืออย่างการให้สามารถฉายรายการเพื่อความบันเทิง หรือ โฆษณา บนจอภาพ แน่นอนว่าที่ทำก็เพื่อต้องการหารายได้ แต่จะทำอย่างไรให้ผู้โดยสารสามารถเห็นการแสดงผลป้ายรถเมล์ถัดไปได้อย่างชัดเจน เพราะปัญหาที่พบจากจอภาพแบบที่ใช้ทดสอบที่ผมเห็นนั้นคือแถบมันเล็กมาก ใช้สีที่ดูไม่สะดุดตา ที่สำคัญหากเป็นป้ายรถเมล์ที่มีชื่อยาวๆ นี่ก็จะถูกระบบตัดทอนจนเหลือคำสั้นๆ ไปในทันที ... ตรงนี้ผมหวังว่าคงจะมีการแก้ไขในไม่ช้า
และสุดท้ายแล้ว หากระบบทุกอย่างดีหมด แต่พนักงานกลับไร้การกระตือรือร้น ไม่ใส่ใจ ทำขอไปที ไอ้ที่สั่งเช่ามาในราคามหาศาลด้วยภาษีของชาวบ้านก็คงหมดความหมายเช่นกัน ผมหวังว่าพี่ๆ เขาคงจะไม่เป็นเช่นนั้น
แต่ที่น่าเศร้าของผู้โดยสารบางคนก็คือ...รถเมล์จะไม่ได้กลายเป็นที่หลับนอนอย่างสบายใจอีกต่อไป เพราะเสียงโฆษณาและรายการจะมารบกวนจนถ้าคุณไม่ง่วงจริงๆ ก็คงหลับไม่ได้ง่ายแน่ๆ
เอาน่ะ ได้อย่างก็มีเสียอย่าง ปรับปรุงมาได้เท่านี้ก็ดีถมไปแล้ว...มั้ง