เบื่อที่จะเขียนถึงตำรวจ แต่อดไม่ได้จริงๆ

กลับมาเป็นประเด็นข่าวอีกครั้งกับข่าวคดีการเสียชีวีตของเสี่ยชูวงษ์ แช่ตั๊ง ซึ่งมีผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัยเป็นถึง พันตำรวจโท ชื่อ บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงพานิชย์ ในสมัยรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

คดีนี้ยังมีตัวละครที่เกี่ยวข้องอย่าง โบรกเกอร์สาว กับพริตตี้สาวสวยผู้ได้รับการโอนหุ้นจากเสี่ยชูวงษ์ ซึ่งผมคงไม่ต้องเล่ารายละเอียด
แต่เรื่องนี้ทำให้ชาวบ้านคิดถึงการทำงานของตำรวจที่มีข่าวด้านลบเกือบทุกวัน

ปัญหาของวงการสีกากีนี้ฝังรากลึกมายาวนาน ตำรวจไทยในช่วงสักสิบกว่าปีหลังมานี้เป็นหน่วยงานของรัฐที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง ว่าเป็นปัญหาที่ต้องปฏิรูปกันจริงจังเป็นอันดับต้นๆ

ว่ากันที่จริง คนทั่วไปมองเห็นอำนาจและหน้าที่ของตำรวจไทยในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ถ้าดูตามหลักการที่กำหนดไว้เป็นกฎหมายก็จะเห็นภาพรวมของอำนาจหน้าที่ตำรวจชัดขึ้น

ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ตำรวจไว้ใน ลักษณะที่ 1 บททั่วไป มาตรา 6สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นส่วนราชการมีฐานะเป็นนิติบุคคลอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

1. รักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาทผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ

2.ดูแลควบคุมและกำกับการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

3. ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา

4. รักษาความสงบเรียบร้อยความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของราชอาณาจักร

5.ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของข้าราชการตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

6. ช่วยเหลือการพัฒนาประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย

7.ปฏิบัติการอื่นใดเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้การปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ตาม (1)(2)(3)(4) หรือ (5)เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ตำรวจเป็นข้าราชการ ในหน่วยงานของรัฐ ที่มีทั้งอำนาจทางกฎหมายและมีอาวุธเป็นกลไกรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันและการทำมาหากินของชาวบ้าน ตำรวจเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม ก่อนที่จะไปสู่อัยการและศาล ถ้าการใช้อำนาจและการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจไม่ถูกต้องเป็นธรรมก็ยากที่รักษาความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมได้

อำนาจของตำรวจไทยตามพฤตินัยตำรวจมีแนวทางในการประพฤติปฏิบัติหน้าที่ ตามประเพณีที่เป็นแบบอย่างคือตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและมีอำนาจจะสอบสวนจับกุม คุมขัง ปราบปราม เป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่อำนาจเหล่านี้สามารถสร้างคุณและโทษได้การใช้อำนาจของตำรวจมีผลกระทบต่อทุกข์สุขการดำเนินชีวิตของประชาชนโดยตรง

อย่างที่ทราบๆกันครับว่าตำรวจคือต้นน้ำสำหรับกระบวนการยุติธรรมทุกอย่างเริ่มขึ้นจากตำรวจ และอาจจะจบลงที่ตำรวจ ถ้าต้นธารมีน้ำเน่าเสียกระแสธารยุติธรรมก็เน่าเสียไปตั้งแต่ต้นแล้ว

เมื่อพูดถึงการปฏิบัติหน้าที่มิชอบของตำรวจ การคอรัปชั่นโกงกินการซื้อขายตำแหน่ง รับสินบน การตั้งด่านเถื่อนเก็บส่วยรีดไถชาวบ้าน ฯลฯหลายครั้งมักมีการขมวดปมปัญหาเรื่องตำรวจมากองรวมกันที่เรื่องของเงินเดือนน้อย รายได้ไม่พอต่อรายจ่ายไม่พอเลี้ยงชีพและครอบครัวตำรวจซึ่งมีอำนาจมีอาวุธมีกฎหมายอยู่ในมือจึงใช้อำนาจหาประโยชน์โดยมิชอบ

ทีนี้ว่าหากเรามองหาตำรวจดีๆผ่านคดีต่างๆ ชาวบ้านหาไม่เจอครับไม่ว่าจะเป็นคดีรถเบนซ์หรูซิ่งซนรถนักศึกษาปริญญาโทสองคนจนเสียชีวิตคดีชายพิการที่ถูกวัยรุ่นรุมทำร้ายจนสุดท้ายเจอแท่งจนเสียชีวิตคดีการฆาตกรรมนายเอกยุทธ หรือแม้แต่คดีเสี่ยชูวงษ์ มันมีอะไรเหมือนกัน ผมให้เวลาคิดสามนาที 3 2 1 ….หมดเวลาครับ

ทุกคดีที่เอ่ยมาเป็นตัวอย่างในย่อหน้าบนเหมือนกันหมดตรงที่ว่า ตำรวจมักสอบสวนดำเนินคดีอย่างใจเย็นราวหอยทากเดิน รอกันเป็นปีๆคดีถึงจะขยับนิดนึง รอกันจนลูกโต จนลูกลาบวช คดีก็ยังไม่ไปถึงไหน แถมหลายคดีแม้มีข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจน เกิดอะไรขึ้นอย่างไร บางคดีมีเอกสาร บางคดีก็มีคลิป บางคดีก็มีพยานหลักฐานทั้งพยานแวดล้อมพยานบุคคลและพยานวัถตุ เห็นกันอยู่โต้งๆ แต่คดีเดินช้าหมดไม่มีอะไรคืบหน้า

ล่าสุดคดีหญิงไก่ ที่ทางตำรวจมีการพยายามปลอมลายเซ็น มีการเกรงใจหญิงไก่ เพราะคิดว่าเธอเป็นคุณหญิงคุณนาย แล้วก็ทำให้คดีนี้ดูทีแรกก็อาจจะเป็นการขโมยกันธรรมดา แต่กลับกลายเป็นว่ามันมีอะไรลึกไปกว่านั้นมาก ทั้งเรื่องเกี่ยวกับการพนัน เรื่องของเส้นทางการร่ำรวยของหญิงไก่ รวมไปถึงหญิงไก่เองก็ไปเกี่ยวข้องกับตำรวจระดับสูงอีก เรื่องนี้คงต้องสาวดูกันลึกๆ แต่ที่แน่ๆตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวน ท่าทางงานนี้จะต้องถูกสอบสวนทางวินัยกันอีกยาว

แถมบางคดีก็ตำรวจเองนั้นละครับที่เข้าไปมีส่วนพัวพันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่นผู้ต้องสงสัยเป็นตำรวจ เป็นลูกหลานตำรวจ เป็นอดีตตำรวจก็ว่ากันไป แล้วจะให้ชาวบ้านคิดอย่างไร มันทำให้เกิดคำถามขึ้นในสังคมว่าตำรวจช่วยกันหรือไม่ มีเจตนายื้อคดีหรือเปล่า หรือว่าตั้งใจจะเป่าคดีเลยก็มี สิ่งเหล่านี้สะสมหมักหมมมานาน เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้คนเสื่อมศรัทธาตำรวจมากขึ้นทุกที

อาชีพตำรวจควรเป็นอาชีพที่มีเกียรต มีศักดิ์ศรี เป็นที่รักของประชาชน ไม่ใช่มีแต่คนเกลียด เมื่อประชาชนไม่เชื่อมั่นในต้นทางแห่งกระบวนการยุติธรรมแบบนี้แล้ว ก็อย่าหวังเลยว่าประชาชนจะเห็นตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน อย่าหวังว่าประชาชนจะได้รับความยุติธรรม

ไม่ควรปล่อยให้ตำรวจทำตัวเป็นตะกวดที่เอาแต่ดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำ แล้วพอขึ้นจากน้ำก็นอนอาบแดดสบายใจไม่แคร์โลก วันนี้หลายอย่างท่านนายกเอามาตรา 44 ออกมาใช้เพื่อแก้ปัญหา ไม่ทำตอนนี้แล้วจะทำตอนไหน ผมว่าถึงคิวของวงการตำรวจต้องปฏิรูปกันจริงจัง ต้องได้รับยาแรง ลงมือซะทีเถิดครับ ชาวบ้านลุ้นกันตัวโก่งแล้วครับ