สำหรับแฟนบอลหรือคอบอลที่ติดตามดูบอลมานาน หรือชอบฟุตบอลจะทราบกันดีครับว่าในวงการฟุตบอลนั้นจะมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นอยู่เรื่อย หรือไม่ก็จะมีเรื่องที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของบางทีม ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นวัฒธรรมด้านฟุตบอลเลยทีเดียว
พูดมาถึงตรงนี้แล้วผมก็ขอหยิบยกเรื่องราววัฒนธรรม ชาตินิยมในฟุตบอลมาเล่าให้ฟังดีกว่าครับวันนี้ ชาตินิยม และความเป็นนานาชาติ มันไม่ได้มีอยู่ในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เท่านั้น แต่มันยังอยู่ในวัฒนธรรมกีฬา ฟุตบอลเป็นวัฒนธรรมหนึ่งที่มีบทบาทมากขยายอิทธิพลไปทั่วในยุคโลกไร้พรมแดน
กรณีแรกที่ต้องพูดถึงคือกรณีของทีมฟุตบอลทีมหนึ่งใน ลาลีกาลีกของสเปนอย่าง แอตเลติก บิลเบา ทีมระดับกลางตาราง ที่อาจจะไม่ได้มีแฟนบอลไทยสนใจมากนัก หากเทียบกับ รีล แมดริด และ บาร์เซโลน่า สองมหาอำนาจแห่งวงการฟุตบอลสเปน ทีมนี้เป้นทีมที่โคตรชาตินิยมเลย เนื่องจากว่าทีมไม่รับนักเตะต่างชาติแม้แต่คนเดียวเป็นเวลากว่าร้อยปี คนสเปนธรรมดาทั่วไปก็ไม่สามารถมาเล่นได้ด้วย ต้องเป็นคนของแคว้นบาสก์เท่านั้น
ก่อนจะมีนักเตะฝรั่งเศสคนหนึ่งที่วันดีคืนดีเขาก็ได้เล่นให้กับทีมนี้ นั้นคือ บิเวนเต้ ลิซาราซู แบ็คซ้ายทีมชาติฝั่งเศส ยุคแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1998 ซึ่งทีแรกก็เป็นเรื่องน่าตกใจ แต่เมื่อสืบประวัติ ลิซาราซู ดูดีๆแม้เขาเป็นชาวฝรั่งเศส แต่เกิดทางตอนใต้ของฝรั่งเศสติดกับสเปน และที่นั้นคือถิ่นอาศัยของชาวบาสก์นั้นเอง
หลังจากลิซาราซู ทีมนี้ก็มีนักเตะชาวฝรั่งเศสอีกหนังคนที่มาเล่นให้ทีม นั้นคือเอมริค ลาปอเต้ กองหลังดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งเกิดที่แคว้นบาสก์อีกเช่นกัน สองคนนี้เป็นเพียงนักฟุตบอลที่เรียกได้ว่าแข้งต่างชาติสองคนในทีมนับตั้งแต่ก่อตั้งทีมเป็นต้นมา
นอกจากจะนี้ชาตินิยมยังมีผลอย่างมาก เมื่อผู้จัดการทีมคนนั้นเป็นคนชาติใด ก็มักมีการดึงนักเตะชาตินั้นมาอยู่ในทีมที่ตัวเองคุมอยู่กรณีแบบนี้มีให้เห็นเพียบครับ
ในวงการฟุตบอลอังกฤษ ทีมอย่างอาร์เซนอลเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด อาร์เซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมที่คุมทีมอาร์เซนอลมาอย่างยาวนั้น เขาคนนี้แหละครับที่บุกเบิกการนำเข้านักเตะฝรั่งเศสสู่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เพราะหากย้อนเวลากลับไปสักสิบปีก่อน อาร์เซนอลเป็นทีมในพรีเมียร์ลีกก็จริง แต่เต็มไปด้วยนักเตะฝรั่งเศส อาธิเช่น โรแบร์ ปีแรส เธียร์รี่ อองรี ปาทริค วิเอร่า เอ็มมานูเอล เปอร์ตี และอีกหลายๆคนที่เป็นนักเตะชาวฝรั่งเศส และหลายคนอยู่ที่นั้นจนเป็นนักเตะระดับตำนานเลยก็มี
หรือจะเป็นผู้จัดการทีมอย่างราฟาเอล เบนิเตส กุนซือชาวสเปน สมัยมาคุมทีมอย่างลิเวอร์พูล ก็จะดึงนักเตะสเปนมากมายเข้ามาสู่ทีม ไม่ว่าจะเป็น หลุยส์ การ์เซีย โฆเซมี่ เฟอร์นานโด ตอร์เรส เป็นต้น
นอกจากนี้แนวการเล่นหรือแผนการเล่นของกุนซือแต่ละคนก็อาจจะมีความเป็นชาตินิยมอยู่มากพอสมควรเช่นกุนซือรุ่นเก๋าอย่างวัลเดอร์เลย์ ลุกซอมแบร์โก้ ชาวบราซิล คนนี้ไปไหนก็จะบอกให้ลูกทีมเล่นกันแบบสวยงามสไตล์บอลบราซิล
หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือหนุ่มของบาเซโลน่า อดีตนักเตะเก่าของบาร์เซโลน่าเองก็จะเล่นบอลกับพื้นชนิดจ่ายเท้าถึงเท้าอย่างแม่นยำ ผมเคยอ่านเจอว่าเกมรับของบาร์เซโลน่าคือการเก็บบอลไว้กับตัว ครองบอลให้ได้ จ่ายบอลกันไปมา เสียบอลแล้วต้องรีบแย่งบอลกลับมาให้ไว้ที่สุด นี่เป็นแนวทางที่ทีมทำมาตลอดทุกยุคทุกสมัย
ว่ากันต่อด้วยเรื่องชาตินิยมในฟุตบอลลีกอิตาลีในยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง ก็มีความเป็นชาตินิยมสูงมากเช่นบางทีมมีความคิดแบบขวาจัดจากสมัยฟาสซิส มุโสลินี ทีมแบบนี้มักมีแต่นักเตะอิตาลีในทีมและต้องเป็นคนอิตาเลียนผิวขาวด้วย ทีมแบบนี้จะไม่มีนักเตะผิวสีเลย ยังดีที่เวลาผ่านไประยะหลัง ความคิดก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เริ่มเปิดรับสีผิวมากขึ้น
ยกตัวอย่างมาซะเยอะทีมชาติไทยเองก็เคยเป็นทีมที่ชาตินิยมมากๆทีมหนึ่งเลยครับ ยุคสมัยบิ๊กหอย หรือยุคดรีมทีม ทีมชาติไทยจะไม่มีนักบอลลูกครึ่งเลย หรือนักเตะที่ไปค้าแข็งในต่างแดนก็แทบไม่มีเลย พูดง่ายๆถ้าเป็นเมื่อก่อน มิก้า ชูนวลศรี หรือ ชาลี ซัปปุยส์ คงไม่มีทางได้เล่นให้ทีมชาติไทยแน่ๆ
เรื่องชาตินิยม หรหือความเป็นนานาชาติ เป็นเรื่องมองเห็นได้ง่ายและชัด ความซับซ้อนทางผลประโยชน์และธุรกิจในวงการลูกหนังซีครับเรื่องใหญ่มาก ครอบงำไปทั้งโลก ครอบคลุมธุรกิจหลายกลุ่มหลายสาขา หลายสปอนเซอร์หลายสินค้าในการแข่งขันแต่ละแมทช์ วงเงินมหาศาล ตั๋วเข้าชมแพงมาก รายได้นักฟุตบอลและโค้ชสูงลิบ การซื้อขายตัวนักกีฬา ก็เป็นการซื้อขายมนุษย์ในโลกยุคใหม่ที่ดูไม่จืดเลยทีเดียว ข่าวการซื้อการขายคนกันในราคาแพงๆเกิดขึ้นตลอดเวลา
สำหรับประเทศไทยก่อนหน้านั้น มีแต่คนประเมินว่า วงการลูกไทยยากจะรุ่ง นักฟุตบอลอาชีพไทยรายได้น้อย การสร้างทีมฟุตบอลยากจะเติบโตแข็งแรง แต่วงการลูกหนังไทยในช่วงสักสิบปีปีที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เวลานี้มีหลายทีมเติบโตอย่างรวดเร็ว มีทุนใหญ่ๆสนับสนุน เกิดทีมใหม่ขึ้นในหลายจังหวัด มีเม็ดเงินผลประโยชน์ก้อนใหญ่ ตั๋วดูฟุตบอลนัดสำคัญก็แพงไม่ใช่เล่น ค่าตัวนักฟุตบอลและรายได้นักฟุตบอลอาชีพเป็นกอบเป็นกำ แถมหลายคนยังมีค่าตัวเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าด้วยตัวเลขหลายหลักเช่นเดียวกับดารานักร้องนักแสดง
เขียนมาถึงตรงนี้ก็ต้องย้ำละครับว่าเรื่องกีฬาอย่างฟุตบอลนั้น ไม่ได้เป็นแค่กีฬาฟุตบอลลูกกลมๆเท่านั้น ไม่ได้เป็นแค่กีฬาเพื่อความบันเทิงใจของแฟนบอลเท่านั้น แต่เบื้องหลังยังมีทั้งเรื่องการพนันบอล เลยเถิดไปถึงการฟอกเงิน เป็นทั้งเรื่องการเมือง ความเป็นชาติ ความเป็นนานาชาติ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยของสังคมโลก การครอบงำทางวัฒนธรรม และ ผลประโยชน์ทางธุรกิจมหาศาลในระบบทุนนิยมบริโภคนิยมที่แผ่ไปดูดกลืนจากทั่วโลก มันซับซ้อนกว่าลูกบอลกลมๆกลิ้งได้อย่างที่เห็นเยอะเลยครับ
พูดมาถึงตรงนี้แล้วผมก็ขอหยิบยกเรื่องราววัฒนธรรม ชาตินิยมในฟุตบอลมาเล่าให้ฟังดีกว่าครับวันนี้ ชาตินิยม และความเป็นนานาชาติ มันไม่ได้มีอยู่ในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เท่านั้น แต่มันยังอยู่ในวัฒนธรรมกีฬา ฟุตบอลเป็นวัฒนธรรมหนึ่งที่มีบทบาทมากขยายอิทธิพลไปทั่วในยุคโลกไร้พรมแดน
กรณีแรกที่ต้องพูดถึงคือกรณีของทีมฟุตบอลทีมหนึ่งใน ลาลีกาลีกของสเปนอย่าง แอตเลติก บิลเบา ทีมระดับกลางตาราง ที่อาจจะไม่ได้มีแฟนบอลไทยสนใจมากนัก หากเทียบกับ รีล แมดริด และ บาร์เซโลน่า สองมหาอำนาจแห่งวงการฟุตบอลสเปน ทีมนี้เป้นทีมที่โคตรชาตินิยมเลย เนื่องจากว่าทีมไม่รับนักเตะต่างชาติแม้แต่คนเดียวเป็นเวลากว่าร้อยปี คนสเปนธรรมดาทั่วไปก็ไม่สามารถมาเล่นได้ด้วย ต้องเป็นคนของแคว้นบาสก์เท่านั้น
ก่อนจะมีนักเตะฝรั่งเศสคนหนึ่งที่วันดีคืนดีเขาก็ได้เล่นให้กับทีมนี้ นั้นคือ บิเวนเต้ ลิซาราซู แบ็คซ้ายทีมชาติฝั่งเศส ยุคแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1998 ซึ่งทีแรกก็เป็นเรื่องน่าตกใจ แต่เมื่อสืบประวัติ ลิซาราซู ดูดีๆแม้เขาเป็นชาวฝรั่งเศส แต่เกิดทางตอนใต้ของฝรั่งเศสติดกับสเปน และที่นั้นคือถิ่นอาศัยของชาวบาสก์นั้นเอง
หลังจากลิซาราซู ทีมนี้ก็มีนักเตะชาวฝรั่งเศสอีกหนังคนที่มาเล่นให้ทีม นั้นคือเอมริค ลาปอเต้ กองหลังดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งเกิดที่แคว้นบาสก์อีกเช่นกัน สองคนนี้เป็นเพียงนักฟุตบอลที่เรียกได้ว่าแข้งต่างชาติสองคนในทีมนับตั้งแต่ก่อตั้งทีมเป็นต้นมา
นอกจากจะนี้ชาตินิยมยังมีผลอย่างมาก เมื่อผู้จัดการทีมคนนั้นเป็นคนชาติใด ก็มักมีการดึงนักเตะชาตินั้นมาอยู่ในทีมที่ตัวเองคุมอยู่กรณีแบบนี้มีให้เห็นเพียบครับ
ในวงการฟุตบอลอังกฤษ ทีมอย่างอาร์เซนอลเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด อาร์เซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมที่คุมทีมอาร์เซนอลมาอย่างยาวนั้น เขาคนนี้แหละครับที่บุกเบิกการนำเข้านักเตะฝรั่งเศสสู่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เพราะหากย้อนเวลากลับไปสักสิบปีก่อน อาร์เซนอลเป็นทีมในพรีเมียร์ลีกก็จริง แต่เต็มไปด้วยนักเตะฝรั่งเศส อาธิเช่น โรแบร์ ปีแรส เธียร์รี่ อองรี ปาทริค วิเอร่า เอ็มมานูเอล เปอร์ตี และอีกหลายๆคนที่เป็นนักเตะชาวฝรั่งเศส และหลายคนอยู่ที่นั้นจนเป็นนักเตะระดับตำนานเลยก็มี
หรือจะเป็นผู้จัดการทีมอย่างราฟาเอล เบนิเตส กุนซือชาวสเปน สมัยมาคุมทีมอย่างลิเวอร์พูล ก็จะดึงนักเตะสเปนมากมายเข้ามาสู่ทีม ไม่ว่าจะเป็น หลุยส์ การ์เซีย โฆเซมี่ เฟอร์นานโด ตอร์เรส เป็นต้น
นอกจากนี้แนวการเล่นหรือแผนการเล่นของกุนซือแต่ละคนก็อาจจะมีความเป็นชาตินิยมอยู่มากพอสมควรเช่นกุนซือรุ่นเก๋าอย่างวัลเดอร์เลย์ ลุกซอมแบร์โก้ ชาวบราซิล คนนี้ไปไหนก็จะบอกให้ลูกทีมเล่นกันแบบสวยงามสไตล์บอลบราซิล
หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือหนุ่มของบาเซโลน่า อดีตนักเตะเก่าของบาร์เซโลน่าเองก็จะเล่นบอลกับพื้นชนิดจ่ายเท้าถึงเท้าอย่างแม่นยำ ผมเคยอ่านเจอว่าเกมรับของบาร์เซโลน่าคือการเก็บบอลไว้กับตัว ครองบอลให้ได้ จ่ายบอลกันไปมา เสียบอลแล้วต้องรีบแย่งบอลกลับมาให้ไว้ที่สุด นี่เป็นแนวทางที่ทีมทำมาตลอดทุกยุคทุกสมัย
ว่ากันต่อด้วยเรื่องชาตินิยมในฟุตบอลลีกอิตาลีในยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง ก็มีความเป็นชาตินิยมสูงมากเช่นบางทีมมีความคิดแบบขวาจัดจากสมัยฟาสซิส มุโสลินี ทีมแบบนี้มักมีแต่นักเตะอิตาลีในทีมและต้องเป็นคนอิตาเลียนผิวขาวด้วย ทีมแบบนี้จะไม่มีนักเตะผิวสีเลย ยังดีที่เวลาผ่านไประยะหลัง ความคิดก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เริ่มเปิดรับสีผิวมากขึ้น
ยกตัวอย่างมาซะเยอะทีมชาติไทยเองก็เคยเป็นทีมที่ชาตินิยมมากๆทีมหนึ่งเลยครับ ยุคสมัยบิ๊กหอย หรือยุคดรีมทีม ทีมชาติไทยจะไม่มีนักบอลลูกครึ่งเลย หรือนักเตะที่ไปค้าแข็งในต่างแดนก็แทบไม่มีเลย พูดง่ายๆถ้าเป็นเมื่อก่อน มิก้า ชูนวลศรี หรือ ชาลี ซัปปุยส์ คงไม่มีทางได้เล่นให้ทีมชาติไทยแน่ๆ
เรื่องชาตินิยม หรหือความเป็นนานาชาติ เป็นเรื่องมองเห็นได้ง่ายและชัด ความซับซ้อนทางผลประโยชน์และธุรกิจในวงการลูกหนังซีครับเรื่องใหญ่มาก ครอบงำไปทั้งโลก ครอบคลุมธุรกิจหลายกลุ่มหลายสาขา หลายสปอนเซอร์หลายสินค้าในการแข่งขันแต่ละแมทช์ วงเงินมหาศาล ตั๋วเข้าชมแพงมาก รายได้นักฟุตบอลและโค้ชสูงลิบ การซื้อขายตัวนักกีฬา ก็เป็นการซื้อขายมนุษย์ในโลกยุคใหม่ที่ดูไม่จืดเลยทีเดียว ข่าวการซื้อการขายคนกันในราคาแพงๆเกิดขึ้นตลอดเวลา
สำหรับประเทศไทยก่อนหน้านั้น มีแต่คนประเมินว่า วงการลูกไทยยากจะรุ่ง นักฟุตบอลอาชีพไทยรายได้น้อย การสร้างทีมฟุตบอลยากจะเติบโตแข็งแรง แต่วงการลูกหนังไทยในช่วงสักสิบปีปีที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงเร็วมาก เวลานี้มีหลายทีมเติบโตอย่างรวดเร็ว มีทุนใหญ่ๆสนับสนุน เกิดทีมใหม่ขึ้นในหลายจังหวัด มีเม็ดเงินผลประโยชน์ก้อนใหญ่ ตั๋วดูฟุตบอลนัดสำคัญก็แพงไม่ใช่เล่น ค่าตัวนักฟุตบอลและรายได้นักฟุตบอลอาชีพเป็นกอบเป็นกำ แถมหลายคนยังมีค่าตัวเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าด้วยตัวเลขหลายหลักเช่นเดียวกับดารานักร้องนักแสดง
เขียนมาถึงตรงนี้ก็ต้องย้ำละครับว่าเรื่องกีฬาอย่างฟุตบอลนั้น ไม่ได้เป็นแค่กีฬาฟุตบอลลูกกลมๆเท่านั้น ไม่ได้เป็นแค่กีฬาเพื่อความบันเทิงใจของแฟนบอลเท่านั้น แต่เบื้องหลังยังมีทั้งเรื่องการพนันบอล เลยเถิดไปถึงการฟอกเงิน เป็นทั้งเรื่องการเมือง ความเป็นชาติ ความเป็นนานาชาติ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยของสังคมโลก การครอบงำทางวัฒนธรรม และ ผลประโยชน์ทางธุรกิจมหาศาลในระบบทุนนิยมบริโภคนิยมที่แผ่ไปดูดกลืนจากทั่วโลก มันซับซ้อนกว่าลูกบอลกลมๆกลิ้งได้อย่างที่เห็นเยอะเลยครับ