ต่อให้แพ้หรือชนะคุณสุเทพก็ได้สร้างประวัติศาสตร์ให้การเมืองไทยแล้วล่ะ ปริมาณมวลมหาชนประชาชนคนไทยที่ออกจากบ้านเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ว่ามากแล้ว 30พ.ย.-1ธ.ค.ก็ล้นหลามมหาศาลไม่แพ้กันขนาดแยกไปเวทีต่างๆ แต่ละจุดก็ยังแน่นขนัด ฟางเส้นสุดท้ายเส้นนั้นมีผลทำให้สภาพแวดล้อมการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปสิ้นเชิง
มวลมหาชนยับยั้งพรบ.นิรโทษกรรมได้ก็จะสามารถยับยั้งเรื่องอื่นๆ ได้เช่นกัน ไม่ว่าเรื่องนั้นจะถูกผลักดันโดยฉ้อฉลจากรัฐบาลใด ไม่ว่าเพื่อไทย ประชาธิปัตย์หรือพรรคอื่นที่อาจมีในอนาคต ที่สำคัญที่สุดทักษิณ ชินวัตรต้องพับแผนกลับบ้านแบบเท่ๆ ไปโดยไม่มีกำหนด ส่วนนักการเมืองควรสำนึกได้ว่าประเทศไทยไม่ใช่ส้มในลัง-หมูในอวย-ปอกกล้วยเข้าปากอีกต่อไป
ในประเด็นนี้นับว่าเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่งของประชาธิปไตยเพราะสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริงประชาชนจะเป็นศูนย์กลางกำหนด ไม่ใช่นายทุนเจ้าของพรรคกำหนดโดยประชาชนไม่หือไม่อือ ไม่มีพลังทัดทานใดๆ เพราะแบบนั้นมันประชาธิปไตยแต่เปลือก สักแค่มีการเลือกตั้ง
ดูไปไม่น่ากังขาแล้วล่ะว่าการลุกมาขับไล่รัฐบาลครั้งนี้จะไม่สำเร็จ เพราะฝ่ายประท้วงมีความคืบหน้าโดยลำดับกดดันรัฐบาลในทุกทาง ลองนักเรียนนักศึกษาคนหนุ่มสาวกลายเป็นกำลังหลักของการประท้วงแทนที่รุ่นลุงป้าย่ายายที่ออกมาโบกมือตบไล่ทักษิณเมื่อหลายปีก่อนย่อมแสดงให้เห็นถึงการผลัดเปลี่ยน สังคมได้ลอกคราบเก่าเผยให้เห็นผิวเนื้อหนังใหม่ที่สดใสเปล่งประกาย แสดงให้เห็นถึงรอบของการเริ่มต้นใหม่
ถ้าคิดว่าการขับไล่รัฐบาลเป็นชัยชนะขั้นแรก ตอนนี้รัฐบาลก็แสดงอาการเจียนอยู่เจียนไป มีอำนาจจริงน้อยลงเรื่อยๆ
มีแนวโน้มได้ชัยชนะในขั้นแรกค่อนข้างสูง
แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีข้อกังวลบางประการที่อยากส่งเสียงให้กับคุณสุเทพได้รับฟังในฐานะประชาชนคนหนึ่ง
ประการแรกคือ ท่าทีของพี่น้องชินวัตร พรรคเพื่อไทยและเครือข่ายขบวนการแดงที่จะยังต่อสู้ต่อ หากว่านายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ไม่ลาออกไม่ยุบสภา ต่อให้ถูกกดดันให้ลงจากอำนาจแต่หากทักษิณ ชินวัตรเลือกที่จะสู้ พวกเขาก็จะยังความชอบธรรมในการอ้างว่ายังคงสถานะเป็นนายกรัฐมนตรีไปประกาศจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น แล้วก็ใช้เครือข่ายในภาคเหนืออีสานต่อสู้ หากพลังมีน้อยก็อาจใช้วิธีใต้ดิน รอคอยจังหวะ
นั่นแสดงว่าตราบใดที่ทักษิณและเครือข่ายยังไม่ถอดใจยอมแพ้ ก็จะมียกสองสามต่ออีก
ประการที่สอง คุณสุเทพประกาศแนวทางปฏิวัติประชาชนจะตั้งสภาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศเมื่อปรับแก้กฎหมายวางโครงสร้างต่างๆ แล้วก็จะยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ นี่อาจเป็นปัญหาในขั้นต่อไป
การปฏิวัติประชาชนแม้จะมีหลักอ้างอิงทางทฤษฎีแต่เงื่อนไขที่นำไปสู่ความสำเร็จแท้จริงคือมติสนับสนุนของมวลมหาประชาชนจำนวนมากในสัดส่วนที่อาจจะเรียกว่าเป็นฉันทามติ เช่นเมื่อครั้งชาวฟิลิปปินส์ลุกฮือขับไล่เผด็จการมาร์คอส แม้อดีตประธานาธิบดีมาร์คอสจะมีกลุ่มผู้นิยมจำนวนหนึ่งแต่ก็เป็นส่วนน้อย การปฏิวัติประชาชนของฟิลิปปินส์ครั้งนั้นเป็นผลสำเร็จได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
แต่สำหรับประเทศไทยเราต้องยอมรับว่าเสียงคนเสื้อแดงสนับสนุนรัฐบาลที่แม้จะน้อยลงจากเดิมแต่ก็ถือเป็นจำนวนมากมีการจัดตั้งเป็นกลุ่มก้อนสามารถจะฟื้นหรือลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลปฏิรูปที่อาจจะตั้งขึ้นได้เช่นกัน หากว่าทักษิณ ชินวัตรยังจะสู้อยู่วงจรลักษณะนี้ก็จะคล้ายช่วงหลังรัฐประหาร 2549 หรือระหว่าง 2552-53 มีแต่คุณสุเทพ หรือ รัฐบาลปฏิรูปจะต้องรักษาดุลอำนาจของตนเอาไว้ให้เหนียวแน่นแข็งแกร่งจึงจะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กได้ ลำพังตำรวจหรือทหารโดยไม่มีประชาชนรัฐบาลอยู่ได้ยาก
นาทีนี้คุณสุเทพกำลังโรมรันพันตูในศึกยกสุดท้าย กำลังสนับสนุนของผู้คนที่ไม่ชอบรัฐบาลมีจำนวนมากเพราะมีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่หากชนะถึงเป้าหมายไล่รัฐบาลแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการตั้งสภาประชาชนเพื่อการปฏิรูป ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล ซึ่งถ้าแบบนั้นก็คงต้องระงับใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ฯลฯ เหล่านี้แหละครับที่ปัญหาของคุณสุเทพจะเริ่มเกิด
เพราะการปฏิวัติประชาชนเป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทยคนที่จะทำต้องกล้าหาญเป็นผู้บุกเบิกแผ้วถางทาง สวมวิญญาณโคลัมบัสมุ่งตะวันตกหาโลกใหม่ ไม่ฟังเสียงลูกเรือที่ทัดทานอยากถอยกลับ เพราะนี่เป็นเส้นทางใหม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ต้องยอมรับนะครับว่าประชาชนที่ต้องการไล่รัฐบาลจำนวนไม่น้อยไม่รู้ไม่เข้าใจจินตนาการไม่ออกว่าสิ่งที่จะนำไปนั้นมันมีหน้าตายังไง
อย่าลืมนะครับฐานมวลชนของคุณสุเทพไม่ใช่พวกสั่งซ้ายขวาหันได้ ไม่ใช่พวกที่จ้างมาสั่งให้ไปไหนก็ไป หากแต่เป็นชนชั้นที่มีความรู้มีหน้าที่การงานต่างก็มีวิจารณญาณคิดว่าพวกเขายอมเดินตามโดยไม่หืออือไม่ได้นะครับ หันมาอีกทีไม่เหลือใคร
ต้องพูดกันตรงๆ ด้วยเจตนาดีเพื่อให้ฉุกคิดฉุกใจ วิถีราชันย์ต้องเปิดหูเปิดตา ถังไท่จงฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ยังตั้งขุนนางทัดทานขั้นมาเพื่อเหนี่ยวรั้งอำนาจตัดสินใจเพื่อให้รอบคอบขึ้นเลย
ขอบอกคุณสุเทพตรงๆ ว่าเพื่อนฝูงที่ผมคบหาจำนวนไม่น้อยที่ไม่เอารัฐบาลไปร่วมเป่านกหวีดด้วยแหละครับแต่เขายังกังขาไม่เข้าใจบางคนก็ไม่เอา บางส่วนเขาอยากได้แค่ยุบสภาเลือกตั้งใหม่
ขอเรียนตามตรงว่าเมื่อชนะแล้วรัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อปฏิรูปอาจจะมีมวลชนสนับสนุนน้อยกว่าเดิม มีอะไรเกิดขึ้นอาจจะมีคนออกมาจากบ้านน้อยกว่า 24 พ.ย. เพราะคนส่วนหนึ่งต้องการแค่ยุบสภาอันนี้ต้องทำใจไว้ก่อน
ส่วนตัวผมนั้นเชื่อมานานแล้วว่าการปฏิรูปจะเป็นทางออกระยะยาวให้กับสังคมไทย ปัญหาก็คือความคิดส่วนตัวของผมคิดว่าการปฏิรูปที่จะประสบความสำเร็จจะต้องเปิดให้พรรคการเมือง และพลังอื่นๆ ในสังคมจะต้องเข้ามามีส่วนหรือสนับสนุนและควรจะงอกออกจากฐานระบอบเดิม ให้เกิดการเชื่อมโยงต่อเนื่องซึ่งหากเหตุเดินมาถึงขั้นนี้คงทำแบบที่คิดฝันไว้ไม่ได้แล้ว(กระมัง) ผมก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าปฏิรูปแบบสุราจับกรอกภายใต้อีกฝ่ายกระเหี้ยนกระหือรือมาทวงอำนาจคืนนั้นมันจะออกมาแบบไหน แต่เมื่อเดินมาถึงจุดนี้ หากถอยไม่ได้แล้วจริงๆ ก็ต้องใช้ประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ทำเป้าหมายให้ชัดเพื่อเป็นประเด็นสาธารณะร่วมที่มวลมหาชนเห็นด้วย
เช่น ประกาศแนวคิดว่าจะเพิ่มโทษคอรัปชั่นให้สูงสุด อายุความขยายสูงสุด ให้สินบนนำจับการทุจริตขี้โกง 30-50% เพิ่มรายละเอียดให้คนมองเห็นภาพว่าจะต้องแก้กฎหมายกี่ฉบับ หรือต้องปรับโครงสร้างหน่วยงานปราบทุจริตกันอย่างไร เชื่อว่าแบบนี้มวลมหาชนชาวไทยเห็นด้วยและจะสนับสนุนต่อไป
หรือประกาศว่า จะแก้กฎหมายพรบ.ปิโตรเลี่ยมและกฎหมายเกี่ยวข้องให้ผลประโยชน์สัมปทานขุดเจาะเข้ารัฐมากขึ้น ประกาศให้ปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติเป็นทรัพยากรของสาธารณะ เหมือนกับที่รัฐธรรมนูญ 2540 กำหนดให้คลื่นสื่อสารเป็นสาธารณะ ดังนั้นการจัดสรรต่างๆ ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ไม่ให้อยู่ใต้นักการเมือง ทุนข้ามชาติ และเทคโนแครตแค่กลุ่มเดียว อันนี้ก็น่าเชื่อว่าประชาชนจะสนับสนุน
แต่ปรากฏว่าจนบัดนี้คุณสุเทพ กปปส. ก็ยังไม่ประกาศรายละเอียด พิมพ์เขียว หรือแผนการใดๆ ออกมา มีแต่ภาพกว้างๆ พร่าเลือน จุดนี้แหละคือจุดอ่อนเพราะประชาชนมองไม่เห็นว่า ปฏิวัติประชาชนไปแล้วภาพข้างหน้าจะเป็นอย่างไร คือการรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยหรือเปล่า ตลอดถึงอาจจะมีความกังขาว่าปฏิรูปคืออะไร พูดตรงๆ เลยนะครับมีผู้ขึ้นเวทีประท้วงบางคนบอกว่าปฏิรูปการเมืองคือการเอาคนดีๆ เข้าอยู่ในตำแหน่งเอาคนไม่ดีออกไปก็ยังมี อีแบบนี้ไม่ใช่การปฏิรูปนะครับแต่มวลชนที่ผลักดันปฏิรูปนี่แหละที่คิดและประกาศออกมา
ขบวนทัพของคุณสุเทพใกล้จะปักธงยังเป้าหมายขับไล่รัฐบาลได้ อย่างน้อยคือออกไปจากทำเนียบ ทำงานไม่ได้ ไม่มีใครเชื่อ แต่อย่างไรก็ตามนั่นก็แค่ชัยชนะขั้นต้นเท่านั้น
รีบทำเค้าโครง แผนงาน ระยะเวลาโดยประมาณว่าสภาปฏิรูปจะทำอะไรบ้าง นำเสนอความถูกต้องชอบธรรมของแนวคิดปฏิวัติสังคมและประสบการณ์ของต่างประเทศที่เขาสร้างประชาธิปไตยใหม่ขึ้นมาได้โดยกว้างขวาง ไม่ต้องละเอียดลึกหรอกครับ เอาแค่พอมองเห็น มองออก ให้ความกระจ่างกับประชาชนแต่เนิ่น จับกระแส หยั่งเสียงถามประชาชนไว้ก่อน
เพราะหลังจากชัยชนะขั้นต้นคุณสุเทพยังต้องอาศัยมวลมหาประชาชนสนับสนุนต่ออีก เส้นทางอีกยาวไกล
มีคนแนะว่า อย่าเพิ่งไปกระตุกขาขุนทัพที่กำลังสู้ศึกในสนาม อย่าไปทำให้เขว มอบสิทธิ์ขาดอำนาจให้ขุนพลขนาดฮ่องเต้ยังห้ามขุนพลหน้าศึกไม่ได้ อันนี้เข้าใจครับว่าต้องเด็ดขาดต้องไม่มีข่าวสารทำให้มวลชนไขว้เขว แต่อย่างไรก็ตามหากเราตั้งหลักว่าเราจะสร้างประชาธิปไตยใหม่จริงมวลชนคุณภาพเจ้าของอำนาจที่มีวิจารณญาณก็ควรมีสิทธิ์ที่จะรับรู้แนวทางรายละเอียดเรื่องราวที่จะไปถึงเช่นกัน
เปิดให้รู้กันตอนนี้ดีกว่าเมื่อได้ชัยชนะเหนือรัฐบาลแล้ว หันมาดูอีกทีมวลชนหายไปครึ่งนะครับ และสมมติหยั่งเสียงแล้วเขาต้องการไล่รัฐบาลเป็นหลัก ก็ค่อยหาวิธีการปฏิรูปแบบอื่นกันก็ยังทัน
สิ่งที่ทัพของคุณสุเทพต้องทำควบคู่กับการเผด็จศึกคือการรักษามวลชนให้อยู่สู้ต่อยาวนานยกหนึ่งใกล้หมดไป ยกสอง ยกสามที่เหลือยังยาวไกล..ต้องเริ่มสื่อสารกันให้ชัดเจน มีแต่การสื่อสารให้ชัดนี่แหละที่จะรักษามวลชนคุณภาพไว้ได้ ส่วนมวลชนด้อยคุณภาพเขาใช้แบงก์พันหรือการหลอกลวงอันนั้นอย่าไปเลียนแบบเขา
นี่คือเหตุและผลทั้งหมดที่ผมได้กระทำการกระตุกขาคุณสุเทพระหว่างหน้าสิ่วหน้าขวานกลางสมรภูมิศึกในครั้งนี้ !
มวลมหาชนยับยั้งพรบ.นิรโทษกรรมได้ก็จะสามารถยับยั้งเรื่องอื่นๆ ได้เช่นกัน ไม่ว่าเรื่องนั้นจะถูกผลักดันโดยฉ้อฉลจากรัฐบาลใด ไม่ว่าเพื่อไทย ประชาธิปัตย์หรือพรรคอื่นที่อาจมีในอนาคต ที่สำคัญที่สุดทักษิณ ชินวัตรต้องพับแผนกลับบ้านแบบเท่ๆ ไปโดยไม่มีกำหนด ส่วนนักการเมืองควรสำนึกได้ว่าประเทศไทยไม่ใช่ส้มในลัง-หมูในอวย-ปอกกล้วยเข้าปากอีกต่อไป
ในประเด็นนี้นับว่าเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่งของประชาธิปไตยเพราะสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริงประชาชนจะเป็นศูนย์กลางกำหนด ไม่ใช่นายทุนเจ้าของพรรคกำหนดโดยประชาชนไม่หือไม่อือ ไม่มีพลังทัดทานใดๆ เพราะแบบนั้นมันประชาธิปไตยแต่เปลือก สักแค่มีการเลือกตั้ง
ดูไปไม่น่ากังขาแล้วล่ะว่าการลุกมาขับไล่รัฐบาลครั้งนี้จะไม่สำเร็จ เพราะฝ่ายประท้วงมีความคืบหน้าโดยลำดับกดดันรัฐบาลในทุกทาง ลองนักเรียนนักศึกษาคนหนุ่มสาวกลายเป็นกำลังหลักของการประท้วงแทนที่รุ่นลุงป้าย่ายายที่ออกมาโบกมือตบไล่ทักษิณเมื่อหลายปีก่อนย่อมแสดงให้เห็นถึงการผลัดเปลี่ยน สังคมได้ลอกคราบเก่าเผยให้เห็นผิวเนื้อหนังใหม่ที่สดใสเปล่งประกาย แสดงให้เห็นถึงรอบของการเริ่มต้นใหม่
ถ้าคิดว่าการขับไล่รัฐบาลเป็นชัยชนะขั้นแรก ตอนนี้รัฐบาลก็แสดงอาการเจียนอยู่เจียนไป มีอำนาจจริงน้อยลงเรื่อยๆ
มีแนวโน้มได้ชัยชนะในขั้นแรกค่อนข้างสูง
แต่อย่างไรก็ตามมันก็มีข้อกังวลบางประการที่อยากส่งเสียงให้กับคุณสุเทพได้รับฟังในฐานะประชาชนคนหนึ่ง
ประการแรกคือ ท่าทีของพี่น้องชินวัตร พรรคเพื่อไทยและเครือข่ายขบวนการแดงที่จะยังต่อสู้ต่อ หากว่านายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ไม่ลาออกไม่ยุบสภา ต่อให้ถูกกดดันให้ลงจากอำนาจแต่หากทักษิณ ชินวัตรเลือกที่จะสู้ พวกเขาก็จะยังความชอบธรรมในการอ้างว่ายังคงสถานะเป็นนายกรัฐมนตรีไปประกาศจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น แล้วก็ใช้เครือข่ายในภาคเหนืออีสานต่อสู้ หากพลังมีน้อยก็อาจใช้วิธีใต้ดิน รอคอยจังหวะ
นั่นแสดงว่าตราบใดที่ทักษิณและเครือข่ายยังไม่ถอดใจยอมแพ้ ก็จะมียกสองสามต่ออีก
ประการที่สอง คุณสุเทพประกาศแนวทางปฏิวัติประชาชนจะตั้งสภาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศเมื่อปรับแก้กฎหมายวางโครงสร้างต่างๆ แล้วก็จะยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ นี่อาจเป็นปัญหาในขั้นต่อไป
การปฏิวัติประชาชนแม้จะมีหลักอ้างอิงทางทฤษฎีแต่เงื่อนไขที่นำไปสู่ความสำเร็จแท้จริงคือมติสนับสนุนของมวลมหาประชาชนจำนวนมากในสัดส่วนที่อาจจะเรียกว่าเป็นฉันทามติ เช่นเมื่อครั้งชาวฟิลิปปินส์ลุกฮือขับไล่เผด็จการมาร์คอส แม้อดีตประธานาธิบดีมาร์คอสจะมีกลุ่มผู้นิยมจำนวนหนึ่งแต่ก็เป็นส่วนน้อย การปฏิวัติประชาชนของฟิลิปปินส์ครั้งนั้นเป็นผลสำเร็จได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
แต่สำหรับประเทศไทยเราต้องยอมรับว่าเสียงคนเสื้อแดงสนับสนุนรัฐบาลที่แม้จะน้อยลงจากเดิมแต่ก็ถือเป็นจำนวนมากมีการจัดตั้งเป็นกลุ่มก้อนสามารถจะฟื้นหรือลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลปฏิรูปที่อาจจะตั้งขึ้นได้เช่นกัน หากว่าทักษิณ ชินวัตรยังจะสู้อยู่วงจรลักษณะนี้ก็จะคล้ายช่วงหลังรัฐประหาร 2549 หรือระหว่าง 2552-53 มีแต่คุณสุเทพ หรือ รัฐบาลปฏิรูปจะต้องรักษาดุลอำนาจของตนเอาไว้ให้เหนียวแน่นแข็งแกร่งจึงจะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กได้ ลำพังตำรวจหรือทหารโดยไม่มีประชาชนรัฐบาลอยู่ได้ยาก
นาทีนี้คุณสุเทพกำลังโรมรันพันตูในศึกยกสุดท้าย กำลังสนับสนุนของผู้คนที่ไม่ชอบรัฐบาลมีจำนวนมากเพราะมีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่หากชนะถึงเป้าหมายไล่รัฐบาลแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการตั้งสภาประชาชนเพื่อการปฏิรูป ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล ซึ่งถ้าแบบนั้นก็คงต้องระงับใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา ฯลฯ เหล่านี้แหละครับที่ปัญหาของคุณสุเทพจะเริ่มเกิด
เพราะการปฏิวัติประชาชนเป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทยคนที่จะทำต้องกล้าหาญเป็นผู้บุกเบิกแผ้วถางทาง สวมวิญญาณโคลัมบัสมุ่งตะวันตกหาโลกใหม่ ไม่ฟังเสียงลูกเรือที่ทัดทานอยากถอยกลับ เพราะนี่เป็นเส้นทางใหม่ แต่ข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ต้องยอมรับนะครับว่าประชาชนที่ต้องการไล่รัฐบาลจำนวนไม่น้อยไม่รู้ไม่เข้าใจจินตนาการไม่ออกว่าสิ่งที่จะนำไปนั้นมันมีหน้าตายังไง
อย่าลืมนะครับฐานมวลชนของคุณสุเทพไม่ใช่พวกสั่งซ้ายขวาหันได้ ไม่ใช่พวกที่จ้างมาสั่งให้ไปไหนก็ไป หากแต่เป็นชนชั้นที่มีความรู้มีหน้าที่การงานต่างก็มีวิจารณญาณคิดว่าพวกเขายอมเดินตามโดยไม่หืออือไม่ได้นะครับ หันมาอีกทีไม่เหลือใคร
ต้องพูดกันตรงๆ ด้วยเจตนาดีเพื่อให้ฉุกคิดฉุกใจ วิถีราชันย์ต้องเปิดหูเปิดตา ถังไท่จงฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ยังตั้งขุนนางทัดทานขั้นมาเพื่อเหนี่ยวรั้งอำนาจตัดสินใจเพื่อให้รอบคอบขึ้นเลย
ขอบอกคุณสุเทพตรงๆ ว่าเพื่อนฝูงที่ผมคบหาจำนวนไม่น้อยที่ไม่เอารัฐบาลไปร่วมเป่านกหวีดด้วยแหละครับแต่เขายังกังขาไม่เข้าใจบางคนก็ไม่เอา บางส่วนเขาอยากได้แค่ยุบสภาเลือกตั้งใหม่
ขอเรียนตามตรงว่าเมื่อชนะแล้วรัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อปฏิรูปอาจจะมีมวลชนสนับสนุนน้อยกว่าเดิม มีอะไรเกิดขึ้นอาจจะมีคนออกมาจากบ้านน้อยกว่า 24 พ.ย. เพราะคนส่วนหนึ่งต้องการแค่ยุบสภาอันนี้ต้องทำใจไว้ก่อน
ส่วนตัวผมนั้นเชื่อมานานแล้วว่าการปฏิรูปจะเป็นทางออกระยะยาวให้กับสังคมไทย ปัญหาก็คือความคิดส่วนตัวของผมคิดว่าการปฏิรูปที่จะประสบความสำเร็จจะต้องเปิดให้พรรคการเมือง และพลังอื่นๆ ในสังคมจะต้องเข้ามามีส่วนหรือสนับสนุนและควรจะงอกออกจากฐานระบอบเดิม ให้เกิดการเชื่อมโยงต่อเนื่องซึ่งหากเหตุเดินมาถึงขั้นนี้คงทำแบบที่คิดฝันไว้ไม่ได้แล้ว(กระมัง) ผมก็ยังจินตนาการไม่ออกว่าปฏิรูปแบบสุราจับกรอกภายใต้อีกฝ่ายกระเหี้ยนกระหือรือมาทวงอำนาจคืนนั้นมันจะออกมาแบบไหน แต่เมื่อเดินมาถึงจุดนี้ หากถอยไม่ได้แล้วจริงๆ ก็ต้องใช้ประชาชนเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ทำเป้าหมายให้ชัดเพื่อเป็นประเด็นสาธารณะร่วมที่มวลมหาชนเห็นด้วย
เช่น ประกาศแนวคิดว่าจะเพิ่มโทษคอรัปชั่นให้สูงสุด อายุความขยายสูงสุด ให้สินบนนำจับการทุจริตขี้โกง 30-50% เพิ่มรายละเอียดให้คนมองเห็นภาพว่าจะต้องแก้กฎหมายกี่ฉบับ หรือต้องปรับโครงสร้างหน่วยงานปราบทุจริตกันอย่างไร เชื่อว่าแบบนี้มวลมหาชนชาวไทยเห็นด้วยและจะสนับสนุนต่อไป
หรือประกาศว่า จะแก้กฎหมายพรบ.ปิโตรเลี่ยมและกฎหมายเกี่ยวข้องให้ผลประโยชน์สัมปทานขุดเจาะเข้ารัฐมากขึ้น ประกาศให้ปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติเป็นทรัพยากรของสาธารณะ เหมือนกับที่รัฐธรรมนูญ 2540 กำหนดให้คลื่นสื่อสารเป็นสาธารณะ ดังนั้นการจัดสรรต่างๆ ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ไม่ให้อยู่ใต้นักการเมือง ทุนข้ามชาติ และเทคโนแครตแค่กลุ่มเดียว อันนี้ก็น่าเชื่อว่าประชาชนจะสนับสนุน
แต่ปรากฏว่าจนบัดนี้คุณสุเทพ กปปส. ก็ยังไม่ประกาศรายละเอียด พิมพ์เขียว หรือแผนการใดๆ ออกมา มีแต่ภาพกว้างๆ พร่าเลือน จุดนี้แหละคือจุดอ่อนเพราะประชาชนมองไม่เห็นว่า ปฏิวัติประชาชนไปแล้วภาพข้างหน้าจะเป็นอย่างไร คือการรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยหรือเปล่า ตลอดถึงอาจจะมีความกังขาว่าปฏิรูปคืออะไร พูดตรงๆ เลยนะครับมีผู้ขึ้นเวทีประท้วงบางคนบอกว่าปฏิรูปการเมืองคือการเอาคนดีๆ เข้าอยู่ในตำแหน่งเอาคนไม่ดีออกไปก็ยังมี อีแบบนี้ไม่ใช่การปฏิรูปนะครับแต่มวลชนที่ผลักดันปฏิรูปนี่แหละที่คิดและประกาศออกมา
ขบวนทัพของคุณสุเทพใกล้จะปักธงยังเป้าหมายขับไล่รัฐบาลได้ อย่างน้อยคือออกไปจากทำเนียบ ทำงานไม่ได้ ไม่มีใครเชื่อ แต่อย่างไรก็ตามนั่นก็แค่ชัยชนะขั้นต้นเท่านั้น
รีบทำเค้าโครง แผนงาน ระยะเวลาโดยประมาณว่าสภาปฏิรูปจะทำอะไรบ้าง นำเสนอความถูกต้องชอบธรรมของแนวคิดปฏิวัติสังคมและประสบการณ์ของต่างประเทศที่เขาสร้างประชาธิปไตยใหม่ขึ้นมาได้โดยกว้างขวาง ไม่ต้องละเอียดลึกหรอกครับ เอาแค่พอมองเห็น มองออก ให้ความกระจ่างกับประชาชนแต่เนิ่น จับกระแส หยั่งเสียงถามประชาชนไว้ก่อน
เพราะหลังจากชัยชนะขั้นต้นคุณสุเทพยังต้องอาศัยมวลมหาประชาชนสนับสนุนต่ออีก เส้นทางอีกยาวไกล
มีคนแนะว่า อย่าเพิ่งไปกระตุกขาขุนทัพที่กำลังสู้ศึกในสนาม อย่าไปทำให้เขว มอบสิทธิ์ขาดอำนาจให้ขุนพลขนาดฮ่องเต้ยังห้ามขุนพลหน้าศึกไม่ได้ อันนี้เข้าใจครับว่าต้องเด็ดขาดต้องไม่มีข่าวสารทำให้มวลชนไขว้เขว แต่อย่างไรก็ตามหากเราตั้งหลักว่าเราจะสร้างประชาธิปไตยใหม่จริงมวลชนคุณภาพเจ้าของอำนาจที่มีวิจารณญาณก็ควรมีสิทธิ์ที่จะรับรู้แนวทางรายละเอียดเรื่องราวที่จะไปถึงเช่นกัน
เปิดให้รู้กันตอนนี้ดีกว่าเมื่อได้ชัยชนะเหนือรัฐบาลแล้ว หันมาดูอีกทีมวลชนหายไปครึ่งนะครับ และสมมติหยั่งเสียงแล้วเขาต้องการไล่รัฐบาลเป็นหลัก ก็ค่อยหาวิธีการปฏิรูปแบบอื่นกันก็ยังทัน
สิ่งที่ทัพของคุณสุเทพต้องทำควบคู่กับการเผด็จศึกคือการรักษามวลชนให้อยู่สู้ต่อยาวนานยกหนึ่งใกล้หมดไป ยกสอง ยกสามที่เหลือยังยาวไกล..ต้องเริ่มสื่อสารกันให้ชัดเจน มีแต่การสื่อสารให้ชัดนี่แหละที่จะรักษามวลชนคุณภาพไว้ได้ ส่วนมวลชนด้อยคุณภาพเขาใช้แบงก์พันหรือการหลอกลวงอันนั้นอย่าไปเลียนแบบเขา
นี่คือเหตุและผลทั้งหมดที่ผมได้กระทำการกระตุกขาคุณสุเทพระหว่างหน้าสิ่วหน้าขวานกลางสมรภูมิศึกในครั้งนี้ !