ต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะครับ ว่าผมเขียนเรื่องนี้ในฐานะประชาชนคนธรรมดา ไม่ได้เป็นตำรวจ ไม่ใช่นักกฏหมาย และไม่ได้มีความรู้ด้านนิติวิทยาศาสตร์ แต่อย่างใด เพียงแค่ติดตามข่าว อยู่ในแวดวงคนทำงานด้านสื่อ ค่อนข้างจะโชคดีที่มีโอกาสได้นั่งอยู่ในวงสนทนาเรื่องนี้ของบรรดานักข่าวรุ่นใหญ่ๆหลายคน โดยเฉพาะนักข่าวอาวุโสรุ่นคุณลุงคุณป้าหลายคน เรื่องคุณเอกยุทธ เป็นประเด็นที่อยู่ในวงสนทนามาตลอดเกือบจะทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา
คนรุ่นผมหลายๆคน คงติดนิยายประเภทสืบสวนสอบสวน อย่าง เชอร์ล็อค โฮมม์ของเซอร์อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ รวมถึงการ์ตูนนักสืบอย่างโคนัน และคินไดอิจิ ทั้งหนังและหนังสือเหล่านี้มีประโยชน์ในการตั้งคำถาม ตั้งข้อสงสัย แกะรอย หาเหตุผล สืบค้นข้อมูลและหลักฐาน
ข่าวคดีอุ้มฆ่าคุณเอกยุทธ เป็นคดีฆาตกรรมที่มีปมเงื่อน มีคำถามชวนสงสัย ยิ่งกว่าหนังสือและการ์ตูน การทำงานและการแถลงข่าวของตำรวจชวนให้ชาวบ้านสงสัย ไม่เชื่อถือ เคลือบแคลงหลายประเด็น
การตามข่าวเรื่องนี้เหมือนการต่อจิกซอว์รูปคุณเอกยุทธขนาดน่าจะใหญ่ประมาณป้ายบิลบอร์ดโฆษณาบนตึกสูงๆทั่วทั้งกรุงเทพ ที่เราจะมองเห็นได้ในระยะไกล แต่หากจะดูรายละเอียดหรือตัวข้อความบนป้ายก็ต้องขับรถไปใกล้พอที่จะมองเห็นมัน
ข้อสงสัยอย่างแรกสุดของผม คือเรื่องของทีมบอดี้การ์ด ผมเคยเจอคุณเอกยุทธครั้งหนึ่งนานมากแล้ว ตั้งแต่ตอนพันธมิตรชุมนุมไล่ทักษิณที่สนามหลวง วันที่ผมเจอคุณเอกยุทธ จำได้ว่าเขาเดินมาโดยมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง ชนิดที่ว่าจะเข้าถึงตัวผู้ชายคนนี้ยากมากๆ
การ์ดกลุ่มนั้นอาจจะเปลี่ยนชุดไปแล้ว แต่คุณเอกยุทธยังคงใช้บอดี้การ์ดติดตามไปไหนมาไหนเสมอ การ์ดหายไปไหนหลังเกิดเหตุ ทำไมไม่มีการเรียกมาสอบหรือให้ปากคำใดๆ ที่ครัวกระแตคุณเอกยุทธสนิทกับเจ้าของร้าน อาจจะทำให้มีความไว้ใจมากจนไม่จำเป็นต้องเอาการ์ดไปด้วยสำหรับการทานข้าวที่ร้านนี้
แต่การที่นายบอลและนายเบิ้มพาคุณเอกยุทธกลับบ้านไปนั้น ไม่มีการ์ดหรือยามเฝ้าหน้าบ้านแม้แต่คนเดียวเลยหรือไง ผมว่าคนระดับนี้คงนอนไม่หลับหากที่บ้านไม่ปลอดภัย ตำรวจไม่มีการเรียกยามหมู่บ้าน ตำรวจท้องที่ และบอดี้การ์ดของคุณเอกยุทธ มาสอบสวนเลยแม้แต่ปากเดียวเลยหรือ ถือว่าแปลกมากๆ นี่ยังไม่นับว่าที่บ้านคนระดับนี้ไม่มีคนรับใช้เลยเหรอไม่น่าเชื่อ
อีกสิ่งหนึ่งที่มีพิรุธมากๆคือการกลับบ้านไปถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด อันนี้นอกจากจะเอาไปทำไม มีอะไรในกล้อง ผมยังสงสัยว่านายบอลพาคุณเอกยุทธกลับบ้านไปเอาของแบบนี้ทำไม และเอาของแค่นี้จริงหรือ ซึ่งผมก็ไม่เชื่อ หากเรื่องนี้เกี่ยวกับการเมืองผมว่าสิ่งที่คนร้ายต้องการควรเป็นฮาร์ดดิสก์ในคอมพิวเตอร์มากกว่า ซึ่งอาจจะมีข้อมูล มีรูปอย่างเช่นรูปสวีทที่มัลดีฟ ซึ่งคุณเอกยุทธอ้างว่ามีหลักฐาน หรือรายชื่อคนที่ไปซื้อคฤหาสน์ที่อังกฤษ 60 คนมีทั้งนักการเมือง ข้าราชการ นายทหาร นายตำรวจ เรียกได้ว่าโดนกันถ้วนหน้าถ้าเปิดรายชื่อนี้ออกมา และผมยังมั่นใจด้วยว่าของแบบนี้ไม่มีทางที่คุณเอกยุทธจะทำไว้ชุดเดียว การไม่สืบหาเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดมาเปิดเผยหรือคลายปมของตำรวจ เป็นเรื่องพิรุธสุดๆ
ย้อนกลับมาที่คดีนี้อีกสิ่งหนึ่งซึ่งผมแปลกใจมากคือการย้าย แพทย์หญิงคุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ไม่กี่วันก่อนเกิดการหายตัวไปของคุณเอกยุทธ ราวกับว่ามีการรู้ก่อนล่วงหน้าว่าจะมีคดีใหญ่ที่หากคนชันสูตรศพเป็นคุณหญิงหมอละก็มีงานเข้าแน่ๆ เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปมปริศนาว่าทำไมรีบร้อนย้ายหมอพรทิทย์ในเวลาแบบนี้
พูดเรื่องคุณหญิงหมอ ก็ต้องพูดถึงเรื่องนิติวิทยาศาสตร์สักเล็กน้อย ว่าทำไมไม่มีการให้หมอที่ทำการชันสูตรพลิกศพออกมาแถลงอะไรเลย เช่น เวลาที่ชัดเจนในการเสียชีวิต ร่องรอยการต่อสู้ หรือแม้แต่การตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝงที่อาจติดศพอยู่ รวมไปถึงไม่มีการกั้นพื้นที่เกิดเหตุ มีการปล่อยให้ไทยมุง ได้ดูอย่างสบายใจ รอยเท้าในที่เกิดเหตุ มีการตรวจสอบหรือไม่ มันใช่เบอร์เดียวกับที่นายบอลนายเบิ้มใส่ไหม มีการการตรวจสอบ ปฏิกริยาทางเคมีภายในรถไหม ว่ามีคราบเหงื่อใครไหม มีการตรวจสอบร่องรอยในบ้านคุณเอกยุทธไหม รอยนิ้วมือบนปืนละ ก็ไม่เห็นมีใครออกมาพูดเรื่องนี้
อีกอย่างหนึ่งที่เห็นพิรุธคือทำไมตำรวจยอมให้พ่อนายบอลได้รับการประกันตัวง่ายๆ ทั้งที่เขาก็ยอมรับว่ารู้เห็นเรื่องนี้ ไม่มีการนำมาแถลงข่าวหรือสอบสวน ปล่อยตัวไปซะงั้น แบบนี้ถ้าใครรู้เห็น แค่มาบอกก็พอเหรอครับว่า ผมรู้เห็นกับคดีนี้ครับ จบ งั้นเหรอ
พิรุธอีกมากมายในคดีนี้ ถ้าเป็นหนังก็ต้องบอกว่า ผู้กำกับมือไม่ถึง คนดูไม่เชื่อ ยังต้องตามหนังเกรดสาม ของตำรวจไทยกันต่อ ว่าจะเดินต่อไปอย่างไร และจะจบลงแค่นี้ใช่ไหม แต่ผมอยากแนะนำให้ตำรวจช่วยไปติดต่อผู้กำกับหนังเก่งมาสักคนนะครับ จะได้ฝึกทำหนังซะหน่อยไม่ใช่ทำพล็อตหนังหวยๆแบบนี้เสียราคาหมด หนังแบบนี้หลอกเด็กสิบขวบยังยากเลยครับ ไม่เนียบแบบสุดๆ
ผบ.ทบ. พูดว่านักข่าวไม่ควรชี้นำคดีนี้ ผมว่าท่านห้ามผิดคนแล้ว ไปห้ามรองนายกเฉลิมสิครับ พูดได้เป็นฉากๆขนาดนั้น แถมออกมาพูดก่อนการแถลงข่าวเสียอีก หน้าที่ไขคดีเป็นของตำรวจ นักข่าวแค่ตั้งคำถามในสิ่งที่มันน่าสงสัย ไม่ใช่การชี้นำแต่อย่างใด
พิรุธขนาดนี้ ตำรวจคิดว่าจะตบตาชาวบ้านได้หรือ หรือจะทำแค่เปาะๆแปะๆ มีแววว่าจะทำให้ จบเรื่องไปง่ายๆ ขอฝากความเสียใจไปยังครอบครัวของคุณเอกยุทธด้วยนะครับ อย่างไรเสียคนที่น่าสงสารไม่ใช่คนที่ตายจากไปเท่านั้น แต่เป็นคนเป็นที่ต้องทุกข์ทรมานในโลกใบนี้ และในประเทศนี้ที่ความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนแทบไม่เหลือแล้ว
คนรุ่นผมหลายๆคน คงติดนิยายประเภทสืบสวนสอบสวน อย่าง เชอร์ล็อค โฮมม์ของเซอร์อาร์เธอร์ โคนัน ดอยล์ รวมถึงการ์ตูนนักสืบอย่างโคนัน และคินไดอิจิ ทั้งหนังและหนังสือเหล่านี้มีประโยชน์ในการตั้งคำถาม ตั้งข้อสงสัย แกะรอย หาเหตุผล สืบค้นข้อมูลและหลักฐาน
ข่าวคดีอุ้มฆ่าคุณเอกยุทธ เป็นคดีฆาตกรรมที่มีปมเงื่อน มีคำถามชวนสงสัย ยิ่งกว่าหนังสือและการ์ตูน การทำงานและการแถลงข่าวของตำรวจชวนให้ชาวบ้านสงสัย ไม่เชื่อถือ เคลือบแคลงหลายประเด็น
การตามข่าวเรื่องนี้เหมือนการต่อจิกซอว์รูปคุณเอกยุทธขนาดน่าจะใหญ่ประมาณป้ายบิลบอร์ดโฆษณาบนตึกสูงๆทั่วทั้งกรุงเทพ ที่เราจะมองเห็นได้ในระยะไกล แต่หากจะดูรายละเอียดหรือตัวข้อความบนป้ายก็ต้องขับรถไปใกล้พอที่จะมองเห็นมัน
ข้อสงสัยอย่างแรกสุดของผม คือเรื่องของทีมบอดี้การ์ด ผมเคยเจอคุณเอกยุทธครั้งหนึ่งนานมากแล้ว ตั้งแต่ตอนพันธมิตรชุมนุมไล่ทักษิณที่สนามหลวง วันที่ผมเจอคุณเอกยุทธ จำได้ว่าเขาเดินมาโดยมีบอดี้การ์ดล้อมหน้าล้อมหลัง ชนิดที่ว่าจะเข้าถึงตัวผู้ชายคนนี้ยากมากๆ
การ์ดกลุ่มนั้นอาจจะเปลี่ยนชุดไปแล้ว แต่คุณเอกยุทธยังคงใช้บอดี้การ์ดติดตามไปไหนมาไหนเสมอ การ์ดหายไปไหนหลังเกิดเหตุ ทำไมไม่มีการเรียกมาสอบหรือให้ปากคำใดๆ ที่ครัวกระแตคุณเอกยุทธสนิทกับเจ้าของร้าน อาจจะทำให้มีความไว้ใจมากจนไม่จำเป็นต้องเอาการ์ดไปด้วยสำหรับการทานข้าวที่ร้านนี้
แต่การที่นายบอลและนายเบิ้มพาคุณเอกยุทธกลับบ้านไปนั้น ไม่มีการ์ดหรือยามเฝ้าหน้าบ้านแม้แต่คนเดียวเลยหรือไง ผมว่าคนระดับนี้คงนอนไม่หลับหากที่บ้านไม่ปลอดภัย ตำรวจไม่มีการเรียกยามหมู่บ้าน ตำรวจท้องที่ และบอดี้การ์ดของคุณเอกยุทธ มาสอบสวนเลยแม้แต่ปากเดียวเลยหรือ ถือว่าแปลกมากๆ นี่ยังไม่นับว่าที่บ้านคนระดับนี้ไม่มีคนรับใช้เลยเหรอไม่น่าเชื่อ
อีกสิ่งหนึ่งที่มีพิรุธมากๆคือการกลับบ้านไปถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด อันนี้นอกจากจะเอาไปทำไม มีอะไรในกล้อง ผมยังสงสัยว่านายบอลพาคุณเอกยุทธกลับบ้านไปเอาของแบบนี้ทำไม และเอาของแค่นี้จริงหรือ ซึ่งผมก็ไม่เชื่อ หากเรื่องนี้เกี่ยวกับการเมืองผมว่าสิ่งที่คนร้ายต้องการควรเป็นฮาร์ดดิสก์ในคอมพิวเตอร์มากกว่า ซึ่งอาจจะมีข้อมูล มีรูปอย่างเช่นรูปสวีทที่มัลดีฟ ซึ่งคุณเอกยุทธอ้างว่ามีหลักฐาน หรือรายชื่อคนที่ไปซื้อคฤหาสน์ที่อังกฤษ 60 คนมีทั้งนักการเมือง ข้าราชการ นายทหาร นายตำรวจ เรียกได้ว่าโดนกันถ้วนหน้าถ้าเปิดรายชื่อนี้ออกมา และผมยังมั่นใจด้วยว่าของแบบนี้ไม่มีทางที่คุณเอกยุทธจะทำไว้ชุดเดียว การไม่สืบหาเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดมาเปิดเผยหรือคลายปมของตำรวจ เป็นเรื่องพิรุธสุดๆ
ย้อนกลับมาที่คดีนี้อีกสิ่งหนึ่งซึ่งผมแปลกใจมากคือการย้าย แพทย์หญิงคุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ไม่กี่วันก่อนเกิดการหายตัวไปของคุณเอกยุทธ ราวกับว่ามีการรู้ก่อนล่วงหน้าว่าจะมีคดีใหญ่ที่หากคนชันสูตรศพเป็นคุณหญิงหมอละก็มีงานเข้าแน่ๆ เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปมปริศนาว่าทำไมรีบร้อนย้ายหมอพรทิทย์ในเวลาแบบนี้
พูดเรื่องคุณหญิงหมอ ก็ต้องพูดถึงเรื่องนิติวิทยาศาสตร์สักเล็กน้อย ว่าทำไมไม่มีการให้หมอที่ทำการชันสูตรพลิกศพออกมาแถลงอะไรเลย เช่น เวลาที่ชัดเจนในการเสียชีวิต ร่องรอยการต่อสู้ หรือแม้แต่การตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝงที่อาจติดศพอยู่ รวมไปถึงไม่มีการกั้นพื้นที่เกิดเหตุ มีการปล่อยให้ไทยมุง ได้ดูอย่างสบายใจ รอยเท้าในที่เกิดเหตุ มีการตรวจสอบหรือไม่ มันใช่เบอร์เดียวกับที่นายบอลนายเบิ้มใส่ไหม มีการการตรวจสอบ ปฏิกริยาทางเคมีภายในรถไหม ว่ามีคราบเหงื่อใครไหม มีการตรวจสอบร่องรอยในบ้านคุณเอกยุทธไหม รอยนิ้วมือบนปืนละ ก็ไม่เห็นมีใครออกมาพูดเรื่องนี้
อีกอย่างหนึ่งที่เห็นพิรุธคือทำไมตำรวจยอมให้พ่อนายบอลได้รับการประกันตัวง่ายๆ ทั้งที่เขาก็ยอมรับว่ารู้เห็นเรื่องนี้ ไม่มีการนำมาแถลงข่าวหรือสอบสวน ปล่อยตัวไปซะงั้น แบบนี้ถ้าใครรู้เห็น แค่มาบอกก็พอเหรอครับว่า ผมรู้เห็นกับคดีนี้ครับ จบ งั้นเหรอ
พิรุธอีกมากมายในคดีนี้ ถ้าเป็นหนังก็ต้องบอกว่า ผู้กำกับมือไม่ถึง คนดูไม่เชื่อ ยังต้องตามหนังเกรดสาม ของตำรวจไทยกันต่อ ว่าจะเดินต่อไปอย่างไร และจะจบลงแค่นี้ใช่ไหม แต่ผมอยากแนะนำให้ตำรวจช่วยไปติดต่อผู้กำกับหนังเก่งมาสักคนนะครับ จะได้ฝึกทำหนังซะหน่อยไม่ใช่ทำพล็อตหนังหวยๆแบบนี้เสียราคาหมด หนังแบบนี้หลอกเด็กสิบขวบยังยากเลยครับ ไม่เนียบแบบสุดๆ
ผบ.ทบ. พูดว่านักข่าวไม่ควรชี้นำคดีนี้ ผมว่าท่านห้ามผิดคนแล้ว ไปห้ามรองนายกเฉลิมสิครับ พูดได้เป็นฉากๆขนาดนั้น แถมออกมาพูดก่อนการแถลงข่าวเสียอีก หน้าที่ไขคดีเป็นของตำรวจ นักข่าวแค่ตั้งคำถามในสิ่งที่มันน่าสงสัย ไม่ใช่การชี้นำแต่อย่างใด
พิรุธขนาดนี้ ตำรวจคิดว่าจะตบตาชาวบ้านได้หรือ หรือจะทำแค่เปาะๆแปะๆ มีแววว่าจะทำให้ จบเรื่องไปง่ายๆ ขอฝากความเสียใจไปยังครอบครัวของคุณเอกยุทธด้วยนะครับ อย่างไรเสียคนที่น่าสงสารไม่ใช่คนที่ตายจากไปเท่านั้น แต่เป็นคนเป็นที่ต้องทุกข์ทรมานในโลกใบนี้ และในประเทศนี้ที่ความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนแทบไม่เหลือแล้ว