xs
xsm
sm
md
lg

ความตายควรเตือนสติ นักการเมือง

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นวันที่คนในวงการเมืองไทยเสียชีวิตอีกแล้ว เมื่อทางโรงพยาบาลศิริราชได้ออกมาแถลงข่าวของการจากไปของชายหูกาง อย่าง “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสตร์ ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบ เมื่อเวลา 17.09 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 จากภาวะแทรกซ้อนจากอาการถุงลมโป่งพอง

ก่อนหน้านี้ไม่นาน นักการเมืองอีกคนหนึ่ง คือ นายชุมพล ศิลปอาชา ถึงแก่อสัญกรรมเพราะหัวใจล้มเหลวเมื่อเวลาประมาณ 09:30 นาฬิกา ของวันที่ 21 มกราคม 2556 ณ โรงพยาบาลรามาธิบดี ในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

เท่ากับว่าสองเดือนมานี้ นักการเมืองใหญ่ๆไทยตายเดือนละหนึ่งคนเลยทีเดียว ถึงแม้การตายจะเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นเรื่องปรกติของมนุษย์ ที่สุดท้ายแล้วไม่มีใครหนีความตายไปได้

แต่ความตายอันเป็นสัจธรรมของชีวิตก็ควรจะให้ข้อคิดเตือนใจมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมือง ที่หลงในลาภยศตำแหน่ง อำนาจความยิ่งใหญ่ทางการเมืองมันหอมหวาน จนแต่ละคนติดยึดเกาะแน่นไม่ยอมวาง ใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ตนมีอำนาจต่อไป การเป็นนักการเมืองไทยเป็นช่องทางหาความมั่งคั่งร่ำรวยมหาศาล ไม่มีอาชีพไหนจะรวยเร็วได้ในพริบตาเท่านักการเมืองไทย

งบประมาณจากภาษีชาวบ้านและโครงการเมกกะโปรเจ็กต์ทั้งหลายถูกดูดเข้ากระเป๋านักการเมืองผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องในการอนุมัติและดำเนินการ หรือแม้แต่กิจการที่รัฐเกี่ยวข้องอย่างรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานที่มีรายได้มหาศาลหลายหน่วยงาน อย่างกองสลาก หรือแม้แต่ธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่มีรายได้มหาศาล อย่างปตท. ก็เป็นแหล่งผันเงินออกมาหล่อเลี้ยงนักนักการเมือง ทั้งพวกตัวใหญ่ๆ ในบอร์ด ในกลุ่มบริหาร ทั้งเงินประจำตำแน่งสูงลิบ เบี้ยประชุมจ่ายหนักไม่อั้น แม้แต่ในงบประชาสัมพันธ์ หรือกิจกรรมทางสังคม ถูกนำมาแจกจ่ายนักการเมืองทั้งตัวเล็กตัวใหญ่กันอย่างสำราญ

ถึงวันตาย ผมไม่เห็นใครเอาอะไรไปได้สักคน นอนตายตัวเปล่าในโลงแคบๆ สุดท้ายแล้วตายไปก็เอาอะไรไปด้วยไม่ได้ขนาดเงินในปากไม่กี่บาทก็ยังเอาไปไม่ได้เลย

มนุษย์เป็นแค่เพียงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆในโลกใบนี้ อย่าผยองกันให้มาก สุดท้ายตายไปก็เป็นแค่ธุลีดินในหลุมฝังศพหรือเป็นแค่ฝุ่นผงลอยออกจากปล่องควันบนเมรุเผาศพ เท่านั้นเอง

ความมั่งคั่งร่ำรวยที่ได้มาอย่างไม่สุจริต ได้มาจากการโกงกิน คอรัปชั่น หาประโยชน์จากประชาชนและประเทศชาติ ไม่มีนักการเมืองคนไหนติดสินบนยมบาลเอาติดตัวไปได้เลย ทำบาปทำชั่วไว้มากก็คงต้องไปทุกข์ทรมานอยู่ในนรกเสียมากกว่า

ทุกชีวิตหนีไม่พ้นเกิดแก่เจ็บตาย เพียงแต่ว่าจะเจ็บจะแก่อย่างทุกข์ทรมานหรือไม่เท่านั้น จะนอนเป็นผัก หรือจะจะตายจากไปอย่างสงบ ขึ้นกับบุญกรรมการกระทำของแต่ละคน

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ เลือกตายก็ไม่ได้ แต่ผมว่าเราเลือกทำความดีได้ เลือกใช้ชีวิตมีความสุขอย่างพอเพียง เลือกที่จะไม่เบียดเบียนผู้อื่น เลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ในศีลธรรมได้

สำหรับนักการเมือง ที่สำคัญ เลือกที่จะทำความดีเมื่อยังมีชีวิตอยู่ เท่ากับเลือกที่จะตายอย่างได้รับการยกย่องเชิดชูจากคนในสังคมและคนรุ่นหลัง หรือเลือกที่ทำชั่วโกงบ้านโกงเมือง ตายไปพร้อมกับคำประณามสาปแช่งของคนในสังคม กรรมดีหรือกรรมชั่วเมื่อมีชีวิตอยู่เท่านั้นที่จะเป็นตัวกำหนด

เมื่อตอนคุณชุมพลเสียชีวิต ผมได้เห็นด้านมืดของนักการเมือง ชายแก่ถือไม้เท้าเดินก็ไม่ค่อยจะไหวนามว่า บรรหาร ศิลปอาชา เมื่อนักข่าวถามถึงเรื่องการตายของน้องชาย และเรื่องโควต้ารัฐมนตรี คุณบรรหารในฐานะพี่ชายน่าจะพูดถึงความเศร้าเสียใจอาลัยการจากไปของน้องชาย มากกว่า จะตอบนักข่าวว่า มีคนที่คิดไว้ในใจแล้ว

น้องชายตัวเองเพิ่งจากไปแท้ๆ ยังไม่ทันเผาด้วยซ้ำก็ออกมาพูดแบบนี้เสียแล้ว แทนที่จะพูดว่าผมและครอบครัวเพิ่งสูญเสียคนสำคัญของครอบครัวไปคุณมาถามเรื่องนี้ได้ยังไง หรือผมยังไม่ตอบเรื่องนี้ผมขอเผาศพน้องชายผมก่อน ก็ยังดี นี่อะไรไม่ทันไรพูดเรื่องตำแหน่งและเรื่องการเมืองละ สมองนักการเมืองมีแต่เรื่องตำแหน่งและประโยชน์ครอบงำ

เมื่อเราหนีความตายกันไม่ได้ เมื่อตายไปแล้วเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้ ทำไม่ไม่คิดทำอะไรดีๆ เพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชนบ้าง

อย่างน้อยๆจากไปยังมีความดีให้คนระลึกถึง จะได้ไม่ต้องมีคนมาด่าหรือสาปส่งตามหลัง แถมด่าไปถึงลูกหลาน ที่ต้องซวยรับตราบาปทั้งที่บางคนไม่ได้มีส่วนทำกรรมชั่วด้วยเลย

ความตายของนักการเมืองวันนี้จะมีค่าและมีประโยชน์ ถ้ามันได้เป็นเครื่องเตือนใจให้สตินักการเมืองทั้งหลาย ให้หยุดโกงกินบ้านเมือง หยุดโกงกินประชาชนเสียที

ไม่ว่านักการเมืองคนไหนจะตายจะจากไปไม่ว่าด้วยสาเหตุใด นักการเมืองในยุคนี้แทบไม่มีความดีให้จดจำ การเมืองได้ทำลายมนุษย์ จนยากที่จะเลือกเป็นคนดีได้ ตรงกันข้าม การเมืองไทยได้ทำให้นักการเมืองจำนวนมาก เต็มไปด้วยประวัติฉาวโฉ่โสโครกฉ้อฉลคดโกง ไม่มีอะไรที่น่ายกย่องจดจำรำลึกถึง น่าเศร้าไหมล่ะครับ พูดแล้วก็เศร้าใจ สงสารประเทศชาติ

เขียนมาถึงตรงนี้ก็คงได้แต่หวังแม้จะเป็นหวังแบบไม่ค่อยมีหวังนักว่า เมื่อได้เห็นความตายของนักการเมือง ตายไปทีละคน นักการเมืองไทยจะคิดได้ จะมีสำนึกขึ้นมาได้บ้างไหมว่า ต่างตายไปตัวเปล่าเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้ สิ่งจะคงอยู่ได้คือคุณความดี จะเลือกตายไปให้คนยกย่องสรรเสริญ หรือจะเลือกเป็นนักการเมืองชั่วๆให้คนเขาสาปแช่ง คุณมีทางเลือกนะครับ เลือกเสียตั้งแต่วันนี้ ก่อนจะตายไปไม่ทันได้กลับตัวกลับใจ

ถึงความหวังมันจะริบหรี่ แต่หวังว่าความตายวันนี้ จะทำให้นักการเมืองบางคนสำนึกได้บ้าง กฎแห่งกรรมมีจริง และผลกรรมสมัยนี้ติดเทอร์โบเสียด้วยซีครับ เดี๋ยวมันจะมาเร็วมาแรงไม่ทันได้ตั้งตัว พูดด้วยความหวังดีนะครับนี่
กำลังโหลดความคิดเห็น