xs
xsm
sm
md
lg

ดูหนังโจโฉ เรื่องของผู้ปกครองที่ชาญฉลาด หรือทรราชย์ผู้เหี้ยมโหด

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย

เมื่อสัปดาห์ก่อนผมได้ชมภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ตอนแรกต้องยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังไว้มากนัก ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์ที่ดีมากมายอะไรนัก แถมเป็นภาพยนต์ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์เพียงเครือเดียวไม่ได้เข้าฉายทุกโรงภาพยนตร์ ยังดีที่แถวบ้านผมมีสาขาหนึ่ง ทำให้ผมตัดสินใจไปดู หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า The Assassins หรือชื่อไทยว่า โจโฉ

นับตั้งแต่ภาพยนตร์อย่าง The red cliff (โจโฉแตกทัพเรือ) หนังของจอน วู ในปี 2008 ก็ได้มีภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับสามก๊กตามออกมาอีกหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เน้นเรื่องราวของตัวละครเด่นๆแต่ละตัว ไม่ว่าจะเป็น กวนอู จูล่ง และล่าสุดก็โจโฉ

ผมว่า นวนิยายอิงประวัติศาสตร์ วรรณกรรมอมตะชิ้นเอกของโลกอย่างสามก๊ก มีเนื้อหาที่สามารถมาทำเป็นภาพยนตร์ได้อีกมากมาย ยืนยงคงอยู่ไปอีกยาวนาน

สำหรับภาพยนตร์เรื่องโจโฉ ที่กำลังเข้าฉายอยู่ตอนนี้ อำนวยการสร้างโดย เจ้าเสี่ยวติง กำกับการแสดงโดย เจ้าหลินซาน นำแสดงโดยดาราชั้นเอกอย่าง โจวเหวินฟะ ตามมาด้วย หลิวอี้เฟย และทามากิ ฮิโรชิ

เนื้อหาเล่าถึงกลุ่มคนที่วางแผนมาเป็นเวลายาวนานกว่าสิบปี เพื่อลอบสังหารโจโฉ ชายผู้ยิ่งใหญ่ แม่ทัพผู้เกรียงไกร และทรราชย์ผู้เหี้ยมโหด ในปี ค.ศ.198 โจโฉ (โจวเหวินฟะ) แม่ทัพแห่งราชวงศ์ฮั่น เดินทางไปทิศตะวันออกและเอาชนะนักรบผู้ยิ่งใหญ่ของจีนนามหลูปู่ ทำให้นักรบทั่วหล้าต่างเกรงกลัว ขณะเดียวกันก็สร้างความเคียดแค้นแก่ลูกหลานของฝ่ายที่พ่ายแพ้สูญเสีย

หลายปีต่อมาหลังจากชิงราชวงศ์ฮั่นมาได้ โจโฉตั้งตนเป็นอ๋องเว่ย เขาสร้างหอคอยธนูทองแดงขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของตน และข่าวลือก็แพร่สะพัดออกไปว่าเขาจะขึ้นครองราชย์แทนจักรพรรดิ

คำทำนายในอดีตกล่าวว่า เมื่อดวงดาว 4 ดวงมาเรียงตัวในแนวเดียวกัน ราชวงศ์ใหม่จะเกิดขึ้น และในปี ค.ศ. 221 คำทำนายก็เป็นจริง เมื่อราชสำนักสั่นคลอน โจโฉมีศัตรูทั่วทุกสารทิศ ทุกคนต่างต้องการให้เขาตาย บางคนนำเด็กที่โจโฉเคยฆ่าพ่อแม่พวกเขาตายมาฝึกฝนให้เป็นนักฆ่า

ในปี 221 พวกเขาเติบโตขึ้นและถูกส่งไปยังหอคอยธนูทองแดง เมื่อดาวทั้งสี่เริ่มตั้งแนวเหนือหอคอยธนูทองแดง การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตโจโฉจึงเริ่มต้นขึ้น

หนุ่มสาวคู่หนึ่ง มู่ชาน (ทามากิ ฮิโรชิ) และ หลิง บุตรสาวของหลูปู่ (หลิวอี้เฟย) ได้ถูกนำตัวออกจากคุกมายังสุสานลับที่พวกเขาอยู่ด้วยกันนานกว่า 5 ปีเพื่อรับการฝึกฝนให้เป็นนักฆ่าในภารกิจลับ

การทำนายทางดาราศาสตร์ได้คาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทำให้ลูกชายของโจโฉ โจผี (ชิวซินซี่) และผู้ติดตามที่ใกล้ชิดของโจโฉยุให้เขาขึ้นเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ แต่ถึงกระนั้น ฝ่ายตรงข้ามก็ยังไม่หยุดคิดที่จะกำจัดเขา

คืนหนึ่งระหว่างทางไปสนามรบ โจโฉได้พบกับหลิงจู ด้วยหลงใหลในความงามของนาง เขาจึงเชื้อเชิญนางไปยังหอคอยธนูทองแดง โดยไม่รู้เลยว่ากำลังจะเป็นเป้าหมายสำคัญของภารกิจลอบสังหารครั้งนี้

ความพยายามครั้งแรกที่จะลอบสังหารโจโฉล้มเหลว และฟูหวานหัวหน้าสั่งการถูกสังหาร ส่วนลูกสาวของฟูหวาน ถูกโจผีแทงตาย ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันอย่างลับๆ แต่โจผีกลับไม่ถูกลงโทษแม้สักน้อย

มูชุนและนักฆ่าที่เหลืออยู่ถูกตอนเป็นขันทีเพื่อลอบเข้าไปในวังหลวง มูชุนพยายามเก็บซ่อนความรักที่มีต่อหลิงจู ในเวลาเดียวกันนั้น อาจารย์ของมูชุน แพทย์หลวง จี้เป็งวางแผนจับตัวโจโฉในงานเทศกาลโคมไฟ

หลิงจูได้รับการวางตัวให้เป็นผู้สังหารโจโฉ แต่เมื่อเธอได้อยู่กับโจโฉ เห็นความเฉลียวฉลาดและความมีวินัยของเขา ในที่สุดจึงตกหลุมรักเขา เธอคิดจะยกเลิกภารกิจ จนกระทั่งจี้เป็งมาแจ้งข่าวว่าพ่อของเธอหลูปู่นั้นถูกโจโฉสังหาร

ในคืนที่มีงานโคมไฟนั้นเอง หลิงจูแทงชายที่สวมเสื้อเกราะของโจโฉ แต่เธอกลับพบว่าผู้ที่สวมใส่เกราะนั้นคือ มูชุน ก่อนหน้านั้นมูชุนเข้าไปลอบสังหารโจโฉแต่ไม่สำเร็จ เพื่อแลกกับชีวิตของหลิงจู มูชุนอาสาปลอมตัวเป็นโจโฉเพื่อให้โจโฉหนีรอดไปได้ ก่อนตายมูชุนขอร้องให้หลิงจูหนีออกจากวังและเลิกแก้แค้น

เมื่อข้าศึกล้อมวังไว้โดยรอบ ณ หอคอยธนูทองแดง โจโฉปรากฏตัวขึ้นและได้รู้ความจริงว่าผู้ออกแบบหอคอยนี้แท้จริงแล้วก็คือ ฮ่องเต้ผู้ไร้สามารถนั่นเอง

หลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้เขียน โจโฉนายกตลอดกาลเขียนยกย่อง โจโฉได้อย่างลึกซึ้ง และเป็นมุมมองที่น้อยคนนักจะมองในมุมนี้

อาจารย์คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้เกริ่นนำว่า "สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้เคยรับสั่งไว้ว่า เรื่องสามก๊กนั้นแต่งดีจริง แต่ผู้แต่งเป็นพวกเล่าปี่ ตั้งใจแต่จะยกย่องเล่าปี่เป็นสำคัญ ถ้าหากพวกโจโฉแต่งเรื่องสามก๊ก ก็อาจดำเนินความในเรื่องสามก๊ก ให้ผู้อ่านเข้าใจกลับกันได้ว่า โจโฉ เป็นผู้ทำนุบำรุงแผ่นดิน ฝ่ายเล่าปี่เป้นผู้คิดร้าย"

อาจารย์คึกฤทธิ์ เห็นว่าคนเขียนสามก๊กเป็น"ฝ่ายเล่าปี่" จึงเขียนให้โจโฉเป็น "ผู้ร้าย" วรรณคดีเรื่อง "สามก๊ก" บางสำนวน โจโฉได้รับการบรรยายให้เป็นกษัตริย์ที่โหดเหี้ยมทะเยอทะยาน อาจารย์มองโจโฉเป็นผู้ปกครองที่สามารถ นักการทหารที่ชาญฉลาด เป็นกวี เป็นคนผูกใจคนเก่ง ชอบและเลือกใช้คน ที่มีความสามารถ รู้จักใช้คนบริหาร จัดการเก่ง มีความเป็นผู้นำสูงและออกอุบายวางแผนได้ด้วยตนเอง

ครับ ประวัติศาสตร์มักจะถูกเขียนโดยผู้ชนะ สถานการณ์ปัจจุบันมักจะถูกยึดครองการสื่อสารโดยผู้มีอำนาจปกครอง วิญญูชนก็ควรวิเคราะห์ก่อนจะเชื่อว่าอะไรจริงหรือเท็จ การประเมินตัวละครในสามก๊ก มีหลายมุมมอง มนุษย์มีหลายมิติ มีความซับซ้อนหลายเชิงชั้น

ในภาพยนตร์ โจโฉเป็นคนที่มีความฉลาดและเป็นคนที่เป็นนักตัดสินใจที่กล้าได้กล้าเสีย โดยที่ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร และไม่แคร์ใครในสิ่งที่เขาจะทำหรือสิ่งที่ชายคนนี้ตัดสินใจทำลงไป เขาจะทำอย่างไม่ลังเลเลยทีเดียว

อีกทั้งชายผู้นี้เป็นที่ไม่ยอมให้ใครหักหลังเขาไม่ยอมให้ใครมาทำตัวเป็นพวกสุนัขลอบกัดกับเขาเด็จขาดถึงขนาดที่ว่าในหนังเรื่องนี้มีประโยคหนึ่งที่โจโฉพูดว่า ที่ข้าอยู่มาได้จนถึงวันนี้เพราะข้าไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น

โจโฉเป็นตัวละครที่เป็นขุนนาง เป็นตัวละครที่ทำศึกและสู้รบให้เพื่อประเทศชาติ แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่โหดร้าย ฆ่าคนเหมือนผักปลา และไม่สนใจวิธีการในการเอาชนะสักเท่าไร ขอเพียงแค่ชนะเท่านั้น

หนังเสนอมุมโจโฉเป็นคนจงรักภักดีฉลาดหลักแหลม ดูได้จากฉากหนึ่งที่ทำออกมาได้ลึกซึ้งมาก นั้นคือฉากการล่ากวางของฮ่องเต้และโจโฉ ฮ่องเต้ได้ยื่นธนูและลูกธนูให้โจโฉเป็นคนยิง เมื่อโจโฉยิงถูกกวางตัวนั้น โจโฉได้พูดประโยคนี้ออกมา “ธนูกับศรเป็นของพระองค์ดังนั้นกวางตัวนี้ก็เป็นของพระองค์”

โจโฉจะลุแก่อำนาจมากขนาดไหน จะโดนตราหน้าอย่างไร แต่เขาไม่คิดที่จะยึดอำนาจจากฮ่องเต้แถมยังเตือนโจผีลูกชายในเรื่องนี้

ภาพยนตร์เรื่องโจโฉได้สะท้อนปมเงื่อนความรู้สึกนึกคิดพฤติกรรมของมนุษย์ ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ ในระบบการเมืองการปกครอง และกองทัพ ดูหนังดูละครแล้วกลับมาย้อนดูสังคมการเมืองที่เราต้องเผชิญอยู่ทุกวันนี้ ได้ทั้งข้อคิดและความบันเทิง หากใครมีเวลาว่างๆสักสองชั่วโมง ลองไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมบอกได้คำเดียวว่าคุ้มครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น