เขียนถึงสภาผู้แทนราษฎรมาหลายครั้งหลายหน เขียนทีไรก็มีแต่เรื่องเน่าๆชั่วๆของสภา จนบางทีก็เบื่อตัวเองเหมือนกันนะครับว่า จะวิพากษ์วิจารณ์จะบ่นอะไรกันเยอะแยะมากมาย ประชาชนพูดไปบ่นไป นักการเมืองสวะๆพวกนั้นก็ไม่ใส่ใจฟัง ไม่ใส่ใจอ่าน ไม่สำนึกไม่ละอาย
แต่ในเมื่อความเป็นจริงคือ ประเทศเราได้ ส.ส.มาแบบนี้แหละ คนดีมีคุณธรรมมีความสามารถซื่อสัตย์สุจริต ยากจะฝ่าดงคนเลวพรรคการเมืองชั่ว ที่ใช้นโยบายประชานิยมมาหลอก เอาเงินจากภาษีชาวบ้านมาถลุงลดแลกแจกแถม ใช้อิทธิพลอำนาจเงินหว่านซื้อ จนได้เข้ามานั่งชูคอสลอนอยู่ในสภา อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
เอาเถอะ ส.ส.เลวพวกนั้นมีปากไว้กัดด่ากันฉันใด ประชาชนอย่างเราก็ยังต้องมีแรงเปิดโปงคัดค้านวิพากษ์วิจารณ์กันไปนะครับพ่อแม่พี่น้อง คนตัวเล็กๆเด็กๆอย่างผมก็ต้องมีแรงเขียนมันต่อไปฉันนั้น ไม่ว่าคนจะเข้ามาอ่านหรือไม่ก็ตาม ต้องบอกตัวเองว่า สู้ต่อไปครับ
หลังจากให้กำลังใจตัวเองไปเป็นที่หอมปากหอมคอแล้ว ก็กลับมาเรื่องน่าหนักใจของบ้านเมืองกันต่อ ต้องยอมรับว่าช่วงที่เราชุมนุมกันอยู่ที่หน้ารัฐสภานั้น ทำให้ไม่ได้ติดตามข่าวอย่างละเอียดกระชั้นชิดว่าภายในสภาเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจหน้าสภาแล้ว เมื่อมีโอกาสกลับมาเกาะติดข่าว ผมมานั่งดูคลิปความวุ่นวายโกลาหลที่เกิดขึ้นในสภา
หลังจากดูมาหลายคลิปมาก มันทำให้ผมอนาถใจ ไม่รู้ว่าจะบอกว่าฝ่ายไหนใครถ่อยกว่ากัน เพราะทั้งสองฝ่ายไม่ว่าพรรครัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ทั้งความคิดวาจากิริยามารยาทพฤติกรรมสุดจะถ่อย
มีทั้งเผด็จการใช้อำนาจอย่างน่าเกลียด มีทั้งคำหยาบคาย มีทั้งลากเก้าอี้ฉุดกระชาก เควี้ยงโยนเอกสารลอยว่อนไปหมด ดีนะครับที่เป็นแค่กระดาษ ไม่มีรองเท้า หรือพวกไข่เน่าเหมือนในบางประเทศ แต่แค่นี้ก็เป็นสภาอันทรง(น่า)เกลียดเหลือทนแล้วละครับ
ทั้ง ส.ส.รุ่นใหญ่และรุ่นเล็กลายออกพอๆกัน ส.ส.เดียร์ลูก เสธ.แดง ออกมาตาขวางพ่นคำรามคำว่าหน้าด้านชัดเจน ก็ไม่รู้งานนี้เธอจะว่าใคร ระหว่าง ส.ส. รังสิมากับประธานสภาอย่างสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ที่ควรจะรับคำว่าหน้าด้านไปแบบเต็มๆ
สำหรับประธานสภาสมศักดิ์ ทำหน้าที่ประธานเผด็จการประชุม วางตัวได้เอียงกระเท่ ไม่เป็นกลาง ทำหน้าที่ห่วยๆได้เลว น่าประทับใจจนคนโห่ไล่
น่าสังเวชประธานสภาอย่างสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ นั่งเก้าอี้ประธานสภาไปก็ต้องให้ตำรวจมารุมล้อมไป ดูๆไปก็เหมือนเป็นนักโทษที่กำลังถูกคุมตัวอยู่ยังไงอย่างนั้น แต่ก็ต้องเข้าใจเขาละครับ ขลาดซะขนาดนั้น จนไม่กล้านั่งเป็นประธานการประชุมสภาแบบปกติธรรมดา
ผู้คนมาคัดค้านเต็มหน้ารัฐสภา ประธานสภาก็ยังไม่สน พันธมิตรยื่นข้อเรียกร้องไปก็เฉย คงนั่งหน้าชา ขาแข็งลุกไม่ขึ้นยึดเก้าอี้ไว้ ด้วยอาการหน้าซีดตัวสั่น
ในสภาสองวันนั้นเป็นความถ่อยน่าสมเพชมาก มากจนประชาชนหมดศรัทธารับไม่ได้หนักกว่าเดิม ครั้งนี้ ยิ่งน่ารังเกียจเหยียดหยามหนักไปกันใหญ่ รัฐสภาเป็นสวนสัตว์ซะยิ่งกว่าสวนสัตว์ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเสียอีก
จนผมคิดว่าการจะถ่ายทอดสดการประชุมสภา ควรจัดอยู่ใน “หมวด ฉ” ในการจัดเรทติง เพื่อให้ผู้ชมได้ใช้ความคิดวิจารณญาณ สำหรับเยาวชนน้องๆเด็กๆอนาคตของชาติไม่ควรเอาแบบอย่าง เมื่อเด็กดู ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำชี้แนะในการรับชม
ที่สำคัญ การพิจารณา พ.ร.บ.ปรองดองจอมปลอม ประเด็นการต่อสู้ในสภาครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก ประธานสภาจึงพยายามเร่งเครื่องเพื่อให้คนหนีคดีได้กลับบ้าน จนไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ไม่สนประชาชนที่แสดงจุดยืนคัดค้านไม่เห็นด้วย
การเคลื่อนไหวร่าง พ.ร.บ.ปรองดองล้างผิด แก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยเผด็จการรัฐสภา เพื่อล้างผิดให้นายใหญ่ การกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัวของนักการเมืองและพรรคพวก เป็นธาตุแท้ของ นักการเมืองเลวๆกับระบบทุนสามานย์ที่กำลังรุมกินโต๊ะประเทศไทยหนักข้อขึ้นทุกวัน
นี่แหละครับ ประเทศไทยจึงต้องปฏิรูปการเมืองโดยประชาชนที่รักชาติ หยุดเผด็จการรัฐสภาเสียงข้างมากที่ใช้อำนาจบาทใหญ่ตามใจชอบ หยุดนักการเมืองชั่วเห็นแก่ตัวไร้ความสามารถขาดคุณธรรม ต้องสร้างการเมืองระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมและสามารถตรวจสอบการใช้อำนาจได้อย่างแท้จริง
วันนี้ ผมหวังว่านักการเมืองดีที่พอมีอยู่บ้าง ข้าราชการดีๆรวมทั้งทหาร ตำรวจที่รักชาติบ้านเมืองจะร่วมมือกับประชาชน ไม่ยอมให้นักการเมืองเลวๆข้าราชการเลวๆ สมคบกันกอบโกย โกงบ้านกินเมืองกันตามอำเภอใจอีกต่อไป
ก็บ้านเมืองของประชาชนนี่ครับ ถ้าอยากได้สังคมดีการเมืองดี ต้องช่วยกันสร้าง ช่วยกันปฏิรูป เพื่ออนาคตของลูกหลานในวันข้างหน้าครับ
แต่ในเมื่อความเป็นจริงคือ ประเทศเราได้ ส.ส.มาแบบนี้แหละ คนดีมีคุณธรรมมีความสามารถซื่อสัตย์สุจริต ยากจะฝ่าดงคนเลวพรรคการเมืองชั่ว ที่ใช้นโยบายประชานิยมมาหลอก เอาเงินจากภาษีชาวบ้านมาถลุงลดแลกแจกแถม ใช้อิทธิพลอำนาจเงินหว่านซื้อ จนได้เข้ามานั่งชูคอสลอนอยู่ในสภา อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
เอาเถอะ ส.ส.เลวพวกนั้นมีปากไว้กัดด่ากันฉันใด ประชาชนอย่างเราก็ยังต้องมีแรงเปิดโปงคัดค้านวิพากษ์วิจารณ์กันไปนะครับพ่อแม่พี่น้อง คนตัวเล็กๆเด็กๆอย่างผมก็ต้องมีแรงเขียนมันต่อไปฉันนั้น ไม่ว่าคนจะเข้ามาอ่านหรือไม่ก็ตาม ต้องบอกตัวเองว่า สู้ต่อไปครับ
หลังจากให้กำลังใจตัวเองไปเป็นที่หอมปากหอมคอแล้ว ก็กลับมาเรื่องน่าหนักใจของบ้านเมืองกันต่อ ต้องยอมรับว่าช่วงที่เราชุมนุมกันอยู่ที่หน้ารัฐสภานั้น ทำให้ไม่ได้ติดตามข่าวอย่างละเอียดกระชั้นชิดว่าภายในสภาเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจหน้าสภาแล้ว เมื่อมีโอกาสกลับมาเกาะติดข่าว ผมมานั่งดูคลิปความวุ่นวายโกลาหลที่เกิดขึ้นในสภา
หลังจากดูมาหลายคลิปมาก มันทำให้ผมอนาถใจ ไม่รู้ว่าจะบอกว่าฝ่ายไหนใครถ่อยกว่ากัน เพราะทั้งสองฝ่ายไม่ว่าพรรครัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ทั้งความคิดวาจากิริยามารยาทพฤติกรรมสุดจะถ่อย
มีทั้งเผด็จการใช้อำนาจอย่างน่าเกลียด มีทั้งคำหยาบคาย มีทั้งลากเก้าอี้ฉุดกระชาก เควี้ยงโยนเอกสารลอยว่อนไปหมด ดีนะครับที่เป็นแค่กระดาษ ไม่มีรองเท้า หรือพวกไข่เน่าเหมือนในบางประเทศ แต่แค่นี้ก็เป็นสภาอันทรง(น่า)เกลียดเหลือทนแล้วละครับ
ทั้ง ส.ส.รุ่นใหญ่และรุ่นเล็กลายออกพอๆกัน ส.ส.เดียร์ลูก เสธ.แดง ออกมาตาขวางพ่นคำรามคำว่าหน้าด้านชัดเจน ก็ไม่รู้งานนี้เธอจะว่าใคร ระหว่าง ส.ส. รังสิมากับประธานสภาอย่างสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ที่ควรจะรับคำว่าหน้าด้านไปแบบเต็มๆ
สำหรับประธานสภาสมศักดิ์ ทำหน้าที่ประธานเผด็จการประชุม วางตัวได้เอียงกระเท่ ไม่เป็นกลาง ทำหน้าที่ห่วยๆได้เลว น่าประทับใจจนคนโห่ไล่
น่าสังเวชประธานสภาอย่างสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ นั่งเก้าอี้ประธานสภาไปก็ต้องให้ตำรวจมารุมล้อมไป ดูๆไปก็เหมือนเป็นนักโทษที่กำลังถูกคุมตัวอยู่ยังไงอย่างนั้น แต่ก็ต้องเข้าใจเขาละครับ ขลาดซะขนาดนั้น จนไม่กล้านั่งเป็นประธานการประชุมสภาแบบปกติธรรมดา
ผู้คนมาคัดค้านเต็มหน้ารัฐสภา ประธานสภาก็ยังไม่สน พันธมิตรยื่นข้อเรียกร้องไปก็เฉย คงนั่งหน้าชา ขาแข็งลุกไม่ขึ้นยึดเก้าอี้ไว้ ด้วยอาการหน้าซีดตัวสั่น
ในสภาสองวันนั้นเป็นความถ่อยน่าสมเพชมาก มากจนประชาชนหมดศรัทธารับไม่ได้หนักกว่าเดิม ครั้งนี้ ยิ่งน่ารังเกียจเหยียดหยามหนักไปกันใหญ่ รัฐสภาเป็นสวนสัตว์ซะยิ่งกว่าสวนสัตว์ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเสียอีก
จนผมคิดว่าการจะถ่ายทอดสดการประชุมสภา ควรจัดอยู่ใน “หมวด ฉ” ในการจัดเรทติง เพื่อให้ผู้ชมได้ใช้ความคิดวิจารณญาณ สำหรับเยาวชนน้องๆเด็กๆอนาคตของชาติไม่ควรเอาแบบอย่าง เมื่อเด็กดู ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำชี้แนะในการรับชม
ที่สำคัญ การพิจารณา พ.ร.บ.ปรองดองจอมปลอม ประเด็นการต่อสู้ในสภาครั้งนี้เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก ประธานสภาจึงพยายามเร่งเครื่องเพื่อให้คนหนีคดีได้กลับบ้าน จนไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ไม่สนประชาชนที่แสดงจุดยืนคัดค้านไม่เห็นด้วย
การเคลื่อนไหวร่าง พ.ร.บ.ปรองดองล้างผิด แก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยเผด็จการรัฐสภา เพื่อล้างผิดให้นายใหญ่ การกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัวของนักการเมืองและพรรคพวก เป็นธาตุแท้ของ นักการเมืองเลวๆกับระบบทุนสามานย์ที่กำลังรุมกินโต๊ะประเทศไทยหนักข้อขึ้นทุกวัน
นี่แหละครับ ประเทศไทยจึงต้องปฏิรูปการเมืองโดยประชาชนที่รักชาติ หยุดเผด็จการรัฐสภาเสียงข้างมากที่ใช้อำนาจบาทใหญ่ตามใจชอบ หยุดนักการเมืองชั่วเห็นแก่ตัวไร้ความสามารถขาดคุณธรรม ต้องสร้างการเมืองระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมและสามารถตรวจสอบการใช้อำนาจได้อย่างแท้จริง
วันนี้ ผมหวังว่านักการเมืองดีที่พอมีอยู่บ้าง ข้าราชการดีๆรวมทั้งทหาร ตำรวจที่รักชาติบ้านเมืองจะร่วมมือกับประชาชน ไม่ยอมให้นักการเมืองเลวๆข้าราชการเลวๆ สมคบกันกอบโกย โกงบ้านกินเมืองกันตามอำเภอใจอีกต่อไป
ก็บ้านเมืองของประชาชนนี่ครับ ถ้าอยากได้สังคมดีการเมืองดี ต้องช่วยกันสร้าง ช่วยกันปฏิรูป เพื่ออนาคตของลูกหลานในวันข้างหน้าครับ