ใครว่ายิ่งลักษณ์กำลังสบายจากการเป็นว่านายกรัฐมนตรี และกำลังปราศจากอุปสรรคในการหาตัวบุคคลมาเป็นรัฐมนตรี
ใครว่าเธอกำลังเข้มแข็งอยู่กับอำนาจที่คุมเสียง ๓๐๐ เสียง เพื่อตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากที่พร้อมจะเข้าบริหารประเทศอย่างราบรื่น
ความจริงแล้วเธอกำลังมีปัญหาหลายอย่างรุมล้อมเข้ามาก่อนที่เธอจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุด
อย่างไรก็ตาม กว่าจะเขียนบทความนี้เสร็จยิ่งลักษณ์ก็เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไปเสียแล้ว และเราคงมีประธานและรองประธานสภาไปแล้วด้วย
แต่ปัญหาของยิ่งลักษณ์ก็ยังมี ไม่ใช่ไม่มีเพราะเธอมีข่าวมาตลอด
เริ่มตั้งแต่ตำแหน่งประธานสภา เธอก็ออกตัวตั้งแต่แรกว่าใครมาเป็น ก็ต้องมีความสามารถทั้งเชิงบริหารและทางการเมือง ขณะที่เธอถูกกดดันโดยส.ส.อีสาน ว่าใครไม่ได้ตำแหน่งก็ต้องมีตำแหน่งรัฐมนตรีมารองรับ
ป่านนี้คงทราบกันแล้วว่าใครได้ตำแหน่งอะไรไป ขอแสดงความยินดีด้วยครับ และใครที่ไม่ได้ตำแหน่งก็ต้องไปลุ้นว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีอะไรหรือเปล่า
แต่ยังไม่ทันได้ตั้งรัฐบาลก็มีคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลจะอยู่ได้ไม่เกิน ๖ เดือน ทำเอาป่วนไปทั้งวงการ แต่ผมดูจากโพยรัฐมนตรีที่คาดว่าใครจะได้เป็นกันบ้าง ล้วนแต่เป็นคนน่าเชื่อถือมีความสามารถด้วยกันทั้งนั้น ผมเชื่อว่ารัฐบาลอยู่เกิน ๖ เดือนแน่ และจะอยู่ได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งปีด้วยยครับ
คนที่พูดว่าไม่เกิน ๖ เดือน คงอยากเห็นการปรับครม.มากกว่าอย่างอื่น
คุณยิ่งลักษณ์เธอได้ยินว่าเธอจะอยู่ไม่เกิน ๖ เดือน เธอไม่โกรธหรอกครับ เธอกลับเห็นว่า ถ้าเธอบริหารไม่ดี เธอก็ขอเวลาและเธอยังกล่าวอีกว่า คณะรัฐมนตรียังไม่ทันได้ตั้งเลย ยังไม่ทันรู้เสียด้วยว่าใครจะเข้ามาบริหารบ้าง ทำไมจึงทำนายกันได้ถึงเพียงนี้ ขอโอกาสทำงานกันก่อนได้ไหม หลังจากตั้งครม.แล้วก็มาว่ากัน เธอพร้อมที่จะรับฟังคำวิจารณ์
คนที่บอกว่าเธออยู่ไม่เกิน ๖ เดือน คงจะไม่มีอะไรจะพูดแล้วละครับ
อีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีคนถามทุกครั้ง และเธอตอบเหมือนกันทุกครั้งคือ เรื่องการตั้งคณะรัฐมนตรีและใครจะมาเป็นบ้าง
เธอตอบว่าถึงเวลานี้ก็ยังไม่มีการสรุป ทั้งหมดคงต้องรอหลังจากมีการโหวตกันตามกระบวนการทางรัฐสภาเต็มรูปแบบก่อน หลังจากนั้นเธอจึงจะนัดบุคคลที่เกี่ยวข้องในพรรคให้มาร่วมคุยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อหาคนที่มีความรู้ความสามารถและเหมาะสม
เมื่อนักข่าวถามถึงพรรคร่วมรัฐบาลเสนอกระทรวงอะไรเข้ามาบ้างหรือเปล่า เธอกลับตอบว่าเป็นการเสนอความคิดเพื่อแลกเปลี่ยนกันมากกว่า แล้วเอาความลงตัวของครม.เป็นหลัก พร้อมกันนั้นเธอก็อธิบายว่า เรื่องครม.นี้น่าจะชัดเจนขึ้นหลังจากมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว
พูดง่ายๆ ยังจะไม่มีการสรุปเมื่อทุกอย่างลงตัวมีประธานสภา มีนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว
หมายความว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนตามแบบที่เธอเคยตอบไปหลายครั้งแล้วนั้นเอง
อีกเรื่องหนึ่งที่พูดกันมากว่าคนนอกที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะที่มีข่าวว่าจะเป็นคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง หรือ คุณวิกรม คุ้มไพโรจน์ นั้น เธอมีความเห็นอย่างไร
เธอก็ตอบเหมือนเดิมอีกว่า ยังไม่ได้มีการสรุปไปถึงตัวบุคคล และถึงขั้นตอนที่จะกำหนดไปแน่นอน แต่เธอก็ยินดีที่จะรับฟังทุกคนที่เสนอความคิดเข้ามา
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ภาพลักษณ์ของเธอที่ระยะหลังๆ ตกเป็นเป้าในการโจมตีมาก
คือข่าวที่ออกมามากว่า เธอมีภูมิหลังเป็นนักบริหาร แต่ไม่มีฝีมือหรือเป็นนักการเมืองอาชีพที่ได้รับการพิสูจน์ว่าจะทำหน้าที่ได้ดีเลย
เรื่องนี้ทางโฆษกพรรคนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ได้ออกมาชี้แจงโดยชี้ให้เห็นว่า คนที่มองเธอเป็นแค่นักบริหารไม่ใช่นักการเมืองนั้น ควรเข้าใจเสียตั้งแต่ตอนนี้ว่า สถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้เข้าขั้นวิกฤต เรามีปัญหามากมายที่จะต้องได้รับแก้ไขเราจึงต้องได้นักบริหารมืออาชีพมาแก้ไขปัญหา ไม่ใช่อาศัยนักการเมืองอาชีพแต่เพียงอย่างเดียว ยิ่งลักษณ์นั้นเป็นทั้งนักบริหารมืออาชีพและเป็นนักการเมืองด้วยและมั่นใจว่าเธอจะแก้ปัญหาได้
ครับนี่คือก่อนหน้าที่ยิ่งลักษณ์จะฟอร์มรัฐบาล จะเห็นว่าเรื่องต่างๆ ที่เธอเผชิญอยู่ไม่มีอะไรมากมีเรื่องเล็กๆ น้อยที่พอจะแก้ไขได้ และเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่กกต.กำลังพิจารณาอยู่ ฯลฯ และปัญหาฝ่ายค้านอย่างปชป. ที่คอยตอบโต้เธอรายวันเท่านั้นเอง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้
ใครว่าเธอกำลังเข้มแข็งอยู่กับอำนาจที่คุมเสียง ๓๐๐ เสียง เพื่อตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากที่พร้อมจะเข้าบริหารประเทศอย่างราบรื่น
ความจริงแล้วเธอกำลังมีปัญหาหลายอย่างรุมล้อมเข้ามาก่อนที่เธอจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุด
อย่างไรก็ตาม กว่าจะเขียนบทความนี้เสร็จยิ่งลักษณ์ก็เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไปเสียแล้ว และเราคงมีประธานและรองประธานสภาไปแล้วด้วย
แต่ปัญหาของยิ่งลักษณ์ก็ยังมี ไม่ใช่ไม่มีเพราะเธอมีข่าวมาตลอด
เริ่มตั้งแต่ตำแหน่งประธานสภา เธอก็ออกตัวตั้งแต่แรกว่าใครมาเป็น ก็ต้องมีความสามารถทั้งเชิงบริหารและทางการเมือง ขณะที่เธอถูกกดดันโดยส.ส.อีสาน ว่าใครไม่ได้ตำแหน่งก็ต้องมีตำแหน่งรัฐมนตรีมารองรับ
ป่านนี้คงทราบกันแล้วว่าใครได้ตำแหน่งอะไรไป ขอแสดงความยินดีด้วยครับ และใครที่ไม่ได้ตำแหน่งก็ต้องไปลุ้นว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีอะไรหรือเปล่า
แต่ยังไม่ทันได้ตั้งรัฐบาลก็มีคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลจะอยู่ได้ไม่เกิน ๖ เดือน ทำเอาป่วนไปทั้งวงการ แต่ผมดูจากโพยรัฐมนตรีที่คาดว่าใครจะได้เป็นกันบ้าง ล้วนแต่เป็นคนน่าเชื่อถือมีความสามารถด้วยกันทั้งนั้น ผมเชื่อว่ารัฐบาลอยู่เกิน ๖ เดือนแน่ และจะอยู่ได้ไม่ต่ำกว่าหนึ่งปีด้วยยครับ
คนที่พูดว่าไม่เกิน ๖ เดือน คงอยากเห็นการปรับครม.มากกว่าอย่างอื่น
คุณยิ่งลักษณ์เธอได้ยินว่าเธอจะอยู่ไม่เกิน ๖ เดือน เธอไม่โกรธหรอกครับ เธอกลับเห็นว่า ถ้าเธอบริหารไม่ดี เธอก็ขอเวลาและเธอยังกล่าวอีกว่า คณะรัฐมนตรียังไม่ทันได้ตั้งเลย ยังไม่ทันรู้เสียด้วยว่าใครจะเข้ามาบริหารบ้าง ทำไมจึงทำนายกันได้ถึงเพียงนี้ ขอโอกาสทำงานกันก่อนได้ไหม หลังจากตั้งครม.แล้วก็มาว่ากัน เธอพร้อมที่จะรับฟังคำวิจารณ์
คนที่บอกว่าเธออยู่ไม่เกิน ๖ เดือน คงจะไม่มีอะไรจะพูดแล้วละครับ
อีกเรื่องหนึ่งซึ่งมีคนถามทุกครั้ง และเธอตอบเหมือนกันทุกครั้งคือ เรื่องการตั้งคณะรัฐมนตรีและใครจะมาเป็นบ้าง
เธอตอบว่าถึงเวลานี้ก็ยังไม่มีการสรุป ทั้งหมดคงต้องรอหลังจากมีการโหวตกันตามกระบวนการทางรัฐสภาเต็มรูปแบบก่อน หลังจากนั้นเธอจึงจะนัดบุคคลที่เกี่ยวข้องในพรรคให้มาร่วมคุยกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อหาคนที่มีความรู้ความสามารถและเหมาะสม
เมื่อนักข่าวถามถึงพรรคร่วมรัฐบาลเสนอกระทรวงอะไรเข้ามาบ้างหรือเปล่า เธอกลับตอบว่าเป็นการเสนอความคิดเพื่อแลกเปลี่ยนกันมากกว่า แล้วเอาความลงตัวของครม.เป็นหลัก พร้อมกันนั้นเธอก็อธิบายว่า เรื่องครม.นี้น่าจะชัดเจนขึ้นหลังจากมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว
พูดง่ายๆ ยังจะไม่มีการสรุปเมื่อทุกอย่างลงตัวมีประธานสภา มีนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว
หมายความว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนตามแบบที่เธอเคยตอบไปหลายครั้งแล้วนั้นเอง
อีกเรื่องหนึ่งที่พูดกันมากว่าคนนอกที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะที่มีข่าวว่าจะเป็นคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง หรือ คุณวิกรม คุ้มไพโรจน์ นั้น เธอมีความเห็นอย่างไร
เธอก็ตอบเหมือนเดิมอีกว่า ยังไม่ได้มีการสรุปไปถึงตัวบุคคล และถึงขั้นตอนที่จะกำหนดไปแน่นอน แต่เธอก็ยินดีที่จะรับฟังทุกคนที่เสนอความคิดเข้ามา
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ภาพลักษณ์ของเธอที่ระยะหลังๆ ตกเป็นเป้าในการโจมตีมาก
คือข่าวที่ออกมามากว่า เธอมีภูมิหลังเป็นนักบริหาร แต่ไม่มีฝีมือหรือเป็นนักการเมืองอาชีพที่ได้รับการพิสูจน์ว่าจะทำหน้าที่ได้ดีเลย
เรื่องนี้ทางโฆษกพรรคนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ได้ออกมาชี้แจงโดยชี้ให้เห็นว่า คนที่มองเธอเป็นแค่นักบริหารไม่ใช่นักการเมืองนั้น ควรเข้าใจเสียตั้งแต่ตอนนี้ว่า สถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้เข้าขั้นวิกฤต เรามีปัญหามากมายที่จะต้องได้รับแก้ไขเราจึงต้องได้นักบริหารมืออาชีพมาแก้ไขปัญหา ไม่ใช่อาศัยนักการเมืองอาชีพแต่เพียงอย่างเดียว ยิ่งลักษณ์นั้นเป็นทั้งนักบริหารมืออาชีพและเป็นนักการเมืองด้วยและมั่นใจว่าเธอจะแก้ปัญหาได้
ครับนี่คือก่อนหน้าที่ยิ่งลักษณ์จะฟอร์มรัฐบาล จะเห็นว่าเรื่องต่างๆ ที่เธอเผชิญอยู่ไม่มีอะไรมากมีเรื่องเล็กๆ น้อยที่พอจะแก้ไขได้ และเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่กกต.กำลังพิจารณาอยู่ ฯลฯ และปัญหาฝ่ายค้านอย่างปชป. ที่คอยตอบโต้เธอรายวันเท่านั้นเอง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้