xs
xsm
sm
md
lg

ป้ายหาเสียงการเลือกตั้ง…เร่ขายฝันรายทาง

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย


ช่วงเลือกตั้ง ทุกครั้งที่ผ่านมามีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน ตั้งแต่ผมเด็กจนโต นั้นคือป้ายหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะถือได้ว่าเป็นสื่อกลางหลักเลยทีเดียวในการใช้หาเสียง แล้วชาวบ้านก็จะเห็นป้ายหาเสียงเปรอะไปทั่ว

การเลือกตั้งคราวนี้ มีการติดป้ายหาเสียงอย่างผิดกฎหมายก่อนมีพระราชกฤษฎีกายุบสภา และประกาศกำหนดวันเลือกตั้งเสียอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกทม. มีป้ายหาเสียงตามฟุตบาท ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ และเสาไฟฟ้า ส่วนใหญ่เป็นป้ายของพรรคใหญ่ เช่นข้อความทักษิณคิด เพื่อไทยทำ, คืนความสุขให้คนไทย คืนประชาธิปไตยให้ประชาชน ฯลฯ

เมื่อถึงวันจับฉลากเบอร์หมายเลขของพรรคการเมือง ทันทีที่จับได้หมายเลข ป้ายที่ทุกพรรคและผู้สมัครสส.เตรียมไว้ ก็แปะหมายเลขได้ทันที ชาวบ้านชาวช่องเดือดร้อนจากป้ายหาเสียง อย่างการติดตั้งป้ายที่บดบังป้ายจราจร จนเรียกได้ว่าถ้าไม่คุ้นเส้นทางนี่มีโอกาสจะเลี้ยวผิดทาง ผิดซอยกันเลยทีเดียว

การติดป้ายถี่ยิบ เต็มทางเท้า อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน ชาวบ้านตาดำๆได้ ก็เพราะพวกเขาจะต้องเดินหลบป้าย จนบางครั้งวิธีหลบ คือการลงมาทางเดินบนฟุตบาท

ป้ายที่บังมุมถนน เป็นปัญหาสำหรับการจราจรของผู้ใช้รถใช้ถนน ป้ายที่บังทางม้าลายข้ามถนน ยิ่งช่วงโรงเรียนเปิด เด็กนักเรียนข้ามถนนเสี่ยงอันตราย ผู้ปกครองบางรายก็ห่วงว่าป้ายที่บังสายตา อาจเป็นมุมอับให้พวกมิจฉาชีพถือโอกาสปล้นจี้ทำร้ายตามท้องถนน รวมทั้งอุบัติเหตุจากป้ายล้ม ก็อาจจะเกิดขึ้นได้เพราะช่วงนี้ฝนตก ลมพายุเข้าด้วย

ความจริงกกต.ประกาศระเบียบเมื่อ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การดำเนินการของรัฐ เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เมื่อ วันที่ 24 ตุลาคม 2550 สำหรับกทม.มีมาตรการดูแลการติดตั้งป้ายหาเสียงของผู้สมัครจากพรรคการเมืองต่างๆ ทั่วพื้นที่ กทม.ทั้ง 50 เขต โดยกำหนดการติดป้ายหาเสียงของผู้สมัครในแต่ละเขต ป้ายขนาดเล็กขนาด 30x42 เซนติเมตร ติดได้ไม่เกิน 10 เท่าของหน่วยเลือกตั้งในเขตนั้น ส่วนป้ายขนาดใหญ่ 133x245 เซนติเมตรติดได้ไม่เกิน 5 เท่าของหน่วยเลือกตั้งในเขตนั้น

สำหรับ พื้นที่ที่สามารถติดตั้งป้ายได้คือพื้นที่สาธารณะ มีบางพื้นที่ที่ กทม.ห้ามคือบริเวณเกาะกลางถนน บริเวณบนและทางขึ้นสะพานลอย ตู้ไปรษณีย์ ศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทาง กำแพงสถานที่ราชการทุกแห่ง ถ้ามีป้ายติดตั้งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่เทศกิจสามารถดำเนินการเก็บได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งไปยังผู้สมัครให้รับทราบ

ส่วนการติดป้ายหาเสียงจะต้องไม่ใช้กาว แป้งเปียกทา พ่น ระบายสี ตอกตะปู และไม่ติดตั้งในลักษณะแขวนเป็นราว รวมถึงต้องไม่กีดขวางทางสัญจร ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนหรือยานพาหนะ ไม่ปิดบังป้ายและสัญญาณไฟจราจร หรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ และผู้สมัครจะต้องจัดเก็บ รื้อถอนป้ายหาเสียงออกให้หมดภายใน 3 วันหลังการเลือกตั้งเสร็จ

แม้จะมีกฎหมายและระเบียบกำหนดไว้ แต่ในความเป็นจริง ปรากฏว่าเทศกิจ กทม.เก็บป้ายหาเสียงผิดกฎหมายถึงสามพันป้าย (ข้อมูลเมื่อวันที่ 20 พค. 54) นอกจากนี้ยังมีการใช้วิชามาร ทำลายป้ายหาเสียงของผู้สมัครพรรคคู่แข่งอีกจำนวนมากมายทั้งกทม.และต่างจังหวัด ผู้สมัครสส.บางราย ต้องติดป้ายสูงๆบนต้นมะพร้าวให้ยากต่อการปีนขึ้นไปทำลายป้าย

การติดตั้งป้ายหาเสียงเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในวิธีการหาเสียงทั้งหมด มีกฎหมายเกี่ยวข้องกับการใช้เงินในการหาเสียง กกต.กำหนด(30 เม.ย.2551)จำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครสส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งได้ไม่เกินคนละ หนึ่งล้านห้าแสนบาท และพรรคการเมือง ใช้เงินหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งสส.แบบสัดส่วนในแต่ละเขตเลือกตั้งใช้เงินได้ไม่เกินพรรคละ 15 ล้านบาท

แต่ในความเป็นจริง พรรคไหนมีเงินมากก็ติดป้ายหาเสียงมาก ถึงขนาดบางพรรค ถ้าคำนวณจากค่าใช้จ่ายในการติดป้ายหาเสียง ก็ใช้เงินเกินกฎหมายกำหนดแล้ว

เพราะฉะนั้น ประชาชนต้องช่วยกันเป็นหูเป็น ชาวบ้านที่เดือดร้อนก็ควรจะร้องเรียน เอาเป็นว่าขอฝากเทศกิจ และผู้เกี่ยวข้องช่วยกันดูแล และทำตามกฎหมายอย่างจริงจังด้วยนะครับ

พูดถึงป้ายหาเสียง แล้วก็ต้องขอพูดถึงป้ายหาเสียงของบางพรรคซะหน่อย รูปลักษณ์สีสันของป้ายหาเสียง เริ่มกันที่พรรคขนาดใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทยก็แล้วกัน พรรคเพื่อไทยชูสีแดง ก็เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นสีสัญลักษณ์ของกลุ่มคนเสื้อแดง ตอนนี้ป้ายสีแดงพรืดทั่วไปตามข้างถนน เนื้อหาก็มีทั้งชูผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่งเต็มแผ่นป้ายหาเสียง และป้ายที่ขายนโยบาย ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ นโยบายประชานิยม เช่น กองทุนกู้ยืม คืนภาษี รถไฟฟ้า แก้น้ำท่วมน้ำแล้ง ฯลฯ

พรรคคู่แข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์ใช้ป้ายหาเสียงโทนสีฟ้า อันเป็นสีประจำพรรค ป้ายหัวหน้าพรรคและปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่ง เลือกใช้ภาพที่ที่ห้อมล้อมด้วยประชาชนผู้คนกลุ่มต่างๆ เนื้อหาป้ายส่วนมากเน้นนโยบายเดินหน้าประชานิยม ไม่ต่างกับพรรคเพื่อไทย เช่น รถไฟฟ้า รถเมล์ ยาเสพติด รวมทั้งสิ่งที่ปูทางเดินหน้านโยบายเพื่อประชาชน ที่สืบเนื่องจากการผ่านงบประมาณ ภาษีประชาชนเป็นแสนล้านในเวลาไม่กี่นาที ในวันประชุมครม.นัดสุดท้ายก่อนประกาศยุบสภา เรียกว่าน่าเกลียดจริงๆสำหรับ พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาล

อีกพรรคหนึ่งที่ออกตัวแรงชนิดที่ว่าล้อฟรีเลยทีเดียว นั่นคือพรรครักประเทศไทยของคุณชูวิทย์ ที่ประกาศชัดเจนว่าจะอาสามาเป็นฝ่ายค้าน โปรยคำเด่นเช่น ซื่อสัตย์ ต้านคอรัปชั่น ต้องยอมรับว่าคุณชูวิทย์เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์มากในเรื่องของการใช้คำ และการใช้สื่อ ป้ายหาเสียงก็ดึงดูดให้คนให้ต้องหยุดอ่าน แถมดึงดูดความสนใจด้วยมาดกวนๆแหวกแนวในป้ายหาเสียง การเลือกตั้งครั้งนี้อาจได้เห็นคนอย่างคุณชูวิทย์ผ่านเข้าไปซัดฝีปากกับนักการเมืองหลายๆคนในสภา

ป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อฟ้าดิน เป็นพรรคเดียวที่ลงเลือกตั้ง แล้วเสนอให้ประชาชนกากบาทในช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน ความคิดที่เสนอโหวตโนตรงกับการรณรงค์ของพันธมิตร

ป้ายการรณรงค์โหวตโนของกลุ่มพันธมิตร เป็นป้ายที่พูดถึงกันมาพักหนึ่งแล้ว ป้ายสัตว์สวมสูทเรียงหน้ากันห้าตัว เรียงหน้ากระดานจากควาย เสือ สุนัข ตัวเงินตัวทอง และลิง มีข้อความอย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา ด้านล่างมีข้อความรณรงค์ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ด้วยการกาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน

ป้ายโหวตโน ติดตั้งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด นับเป็นครั้งแรกในประวัติการเลือกตั้งของไทย ที่มีการรณรงค์โหวตโนของภาคประชาชน ได้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง

การนำสัตว์มาใช้แทนภาพผู้ลงสมัครก็ไม่เห็นแปลกเลยครับ เพราะมีผู้สมัคร บางคนก็เอาหลินปิงมาอุ้มหาเสียงเหมือนกัน แถมการใช้ภาพสัตว์หาเสียงไม่ได้ผิดกฎหมายแต่อย่างใด การใช้รูปสัตว์หาเสียงก็ยังดีกว่าให้นักการเมืองเข้าไปทำนิสัยสัตว์ๆในสภาละครับผมว่า…จริงไหมครับ

ในด้านวัตถุ สุดท้ายแล้วป้ายหาเสียงของเหล่านักการเมืองก็จะกลับกลายเป็นเงินสำหรับเหล่าซาเล้งเก็บของเก่าหลังวันเลือกตั้ง และอาจจะกลายเป็นกำแพงบ้าน ประตูบ้านให้แก่คนยากคนจน ได้เตรียมพร้อมรับลมหนาวในช่วงสิ้นปีพอดี

แต่ในด้านเนื้อหา และนัยทางการเมือง นักการเมืองไทยใช้ป้ายหาเสียง หวังเดินเข้าสภา ที่ซึ่งเอาไว้ใช้ประคารม ป้ายสีกัน นี่แหละครับสันดานนักการเมืองไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น