ความถ่อยของม็อบเสื้อแดงไปแสดงฤทธิ์อย่างเอิกเกริกถึงเชียงใหม่ครับ โดยยกโขยงไปถึงบ้านพักของอาจารย์เจิมศักดิ์ฯ พร้อมพกพาอาวุธจำนวนมากทั้งยิงเข้าใส่บ้าน บางส่วนทำตัวเป็นลิงเป็นค่างปีนป่ายข้ามรั้วหวังรุมทึ้งอาจารย์ ดูแล้วน่าเวทนา แต่ก็ไม่พบเจอะก็แค่ลูกเด็กเล็กแดงที่ไม่รู้เห็นอะไรด้วย พวกแดงถ่อยกลับไม่รับรู้แสดงความชั่ว ขู่ซ้ำ
ความจริงพวกเหล่านี้ มีคนหนุนหลัง แล้วก็ไม่ใช่พวกออกหน้า แต่เป็นพวกตาขาว และก็เป็นสื่ออีแอบ เรียกตัวเองว่าดีเจ มีอยู่ 2 คน คอยยุและปล่อยข่าวไปทั่วเมือง
ข้อเท็จจริงเรื่อง “ม็อบแดงบุก” นี้ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ได้บอกเรื่องราวที่ตื่นเต้นให้กับทางโทรทัศน์เอเอสทีวี โดยมีนงวดี ถนิมาลย์ และสุนันท์ ศรีจันทรา ดำเนินรายการ ดร.เจิมศักดิ์ให้สัมภาษณ์สดบอกว่า พวกเสื้อแดงนั้นป่าเถื่อน ถ่อย และประสงค์ร้าย ตนไปเชียงใหม่พร้อมสื่อมวลชน 40 คน เพื่อไปสัมมนา และเตรียมทำรายการ TV อีก 2 รายการ โดยในเช้าวันเสาร์ที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ก็พบว่ามีแท้กซี่จับกลุ่มคุยกัน และมองมาที่ตน พูดกันเอะอะว่าตนเป็นพวกเดียวกับเสื้อเหลือง
ตนคิดว่าจะไม่สนใจ แต่อยู่ๆ ก็ได้ฟังดีเจของพวกเสื้อแดงก็เดาออกว่า ตนจะเดินทางไปสันติอโศก น่าจะดีกว่าเพราะพวกม็อบไม่น่าเดาได้ถูก เดิมก็ไม่คิดจะไปที่นั่น และจริงๆ ว่าจะไปบ้านพักที่อยู่ดอยสะเก็ด
พอมาวันที่ 24 มกราคม เป็นวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการสัมมนาที่เชิญคนในวงการธุรกิจในเชียงใหม่ พอบ่าย 3 โมงเย็น ตำรวจก็เดินทางมาที่เราสัมมนากันแล้วแจ้งให้ทราบว่า เกิดมีปัญหาที่บ้านพักโดยมีม็อบเสื้อแดงปลุกระดมกันใหญ่
ตนก็ถามตำรวจว่า เป็นแบบนี้จะแนะนำว่าควรทำอย่างไรจึงสมควร ตำรวจบอกควรอยู่บ้านเฉยๆ อย่าตอบโต้ ไม่งั้นเหตุการณ์จะบานปลาย
และกลัวว่าลำพังตำรวจก็จะไม่ควบคุมสถานการณ์ได้
เมื่อเป็นแบบนี้ก็แย่แล้ว
พอบ่าย 4 โมงครึ่ง ตำรวจก็รีบมาบอกว่า ค่ำนี้เสื้อแดงมาบุกแน่ และบอกว่าควรหนีไปซ่อนในที่ปลอดภัยก่อนที่พวกเสื้อแดงมา จะปลอดภัยกว่า รอให้พวกนั้นมาถึง
ตนเห็นว่าคงดีกว่า
ต่อมาพวก ดีเจก็ถ่อยอีก ปลุกระดมยกใหญ่
พวกนี้ยุยงให้ไปล้อมบ้าน
“วิทยุพวกนี้ปล่อยข่าวว่าผมหนีออกจากบ้าน แถมปล่อยข่าวว่า มีดร.เสรี วงษ์มณฆา หนีไปพร้อมกับผมอีกด้วย แถมกล่าวมั่ว ว่า ผมพาเอาดารามามั่วเซ็กส์อีกด้วย โดยเสพย์กามในบ้าน”
หลังจากนั้น เมื่อเจิมศักดิ์เดินทางออกจากบ้านมาแล้ว ก็รีบโทรฯ ไปถามเหตุการณ์กับพวกคนที่บ้าน และทราบความจริงว่า พวกเด็กเล็กๆ ต่างตกใจมาก เพราะพวกเสื้อแดง นอกจากปิดล้อมบ้านแล้ว ก็บอกจะตัดน้ำตัดไฟ แถมยังยิงปืนขู่ และปืนป่าย เป็นฝูงลิงด้วย นอกจากนี้พวกถ่อยยังยิงหนังสติ๊กโดยไม่กลัวว่าจะโดนเด็กเล็กๆ ด้วย
พอ 3-4 ทุ่ม ตำรวจซึ่งดูแลอยู่ ก็ดูเฉยๆ ไม่ได้ใช้กำลัง หรือขอร้องให้เลิกรา
อีกทั้งไม่ดำเนินคดีด้วย เกรงว่าอาจบานปลาย
จตุพร พรหมพันธุ์ ยังหน้าไม่อาย แถลงว่า มันเป็นสิทธิ์ของเสื้อแดงที่จะบุกบ้านใครก็ได้ และการขับไล่เจิมศักดิ์ก็เป็นเรื่องปกติ อีกทั้งเวลาคนเสื้อแดงไม่ชอบหน้าใคร ก็ถือว่าเป็นศัตรูได้ ไม่เลือกหน้าทั้งนั้นแหละ
ส่วนที่มีคนพูดว่ามีการข่มขู่ ผู้พิพากษาในคดียัดทรัพย์นั้น ก็พูดพล่อยๆ ไม่ได้รับผิดชอบ ไอ้คนพูดควรโดนตีกะบาล
นี่และครับ กมลสันดาน
ความถ่อยของคนพวกนี้ เป็นไปตามคำสั่งของนาย และยิ่งถ่อยมากเท่าไร ก็ได้เงินมาเท่านั้นมิใช่หรือ
ความจริงพวกเหล่านี้ มีคนหนุนหลัง แล้วก็ไม่ใช่พวกออกหน้า แต่เป็นพวกตาขาว และก็เป็นสื่ออีแอบ เรียกตัวเองว่าดีเจ มีอยู่ 2 คน คอยยุและปล่อยข่าวไปทั่วเมือง
ข้อเท็จจริงเรื่อง “ม็อบแดงบุก” นี้ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ได้บอกเรื่องราวที่ตื่นเต้นให้กับทางโทรทัศน์เอเอสทีวี โดยมีนงวดี ถนิมาลย์ และสุนันท์ ศรีจันทรา ดำเนินรายการ ดร.เจิมศักดิ์ให้สัมภาษณ์สดบอกว่า พวกเสื้อแดงนั้นป่าเถื่อน ถ่อย และประสงค์ร้าย ตนไปเชียงใหม่พร้อมสื่อมวลชน 40 คน เพื่อไปสัมมนา และเตรียมทำรายการ TV อีก 2 รายการ โดยในเช้าวันเสาร์ที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ก็พบว่ามีแท้กซี่จับกลุ่มคุยกัน และมองมาที่ตน พูดกันเอะอะว่าตนเป็นพวกเดียวกับเสื้อเหลือง
ตนคิดว่าจะไม่สนใจ แต่อยู่ๆ ก็ได้ฟังดีเจของพวกเสื้อแดงก็เดาออกว่า ตนจะเดินทางไปสันติอโศก น่าจะดีกว่าเพราะพวกม็อบไม่น่าเดาได้ถูก เดิมก็ไม่คิดจะไปที่นั่น และจริงๆ ว่าจะไปบ้านพักที่อยู่ดอยสะเก็ด
พอมาวันที่ 24 มกราคม เป็นวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการสัมมนาที่เชิญคนในวงการธุรกิจในเชียงใหม่ พอบ่าย 3 โมงเย็น ตำรวจก็เดินทางมาที่เราสัมมนากันแล้วแจ้งให้ทราบว่า เกิดมีปัญหาที่บ้านพักโดยมีม็อบเสื้อแดงปลุกระดมกันใหญ่
ตนก็ถามตำรวจว่า เป็นแบบนี้จะแนะนำว่าควรทำอย่างไรจึงสมควร ตำรวจบอกควรอยู่บ้านเฉยๆ อย่าตอบโต้ ไม่งั้นเหตุการณ์จะบานปลาย
และกลัวว่าลำพังตำรวจก็จะไม่ควบคุมสถานการณ์ได้
เมื่อเป็นแบบนี้ก็แย่แล้ว
พอบ่าย 4 โมงครึ่ง ตำรวจก็รีบมาบอกว่า ค่ำนี้เสื้อแดงมาบุกแน่ และบอกว่าควรหนีไปซ่อนในที่ปลอดภัยก่อนที่พวกเสื้อแดงมา จะปลอดภัยกว่า รอให้พวกนั้นมาถึง
ตนเห็นว่าคงดีกว่า
ต่อมาพวก ดีเจก็ถ่อยอีก ปลุกระดมยกใหญ่
พวกนี้ยุยงให้ไปล้อมบ้าน
“วิทยุพวกนี้ปล่อยข่าวว่าผมหนีออกจากบ้าน แถมปล่อยข่าวว่า มีดร.เสรี วงษ์มณฆา หนีไปพร้อมกับผมอีกด้วย แถมกล่าวมั่ว ว่า ผมพาเอาดารามามั่วเซ็กส์อีกด้วย โดยเสพย์กามในบ้าน”
หลังจากนั้น เมื่อเจิมศักดิ์เดินทางออกจากบ้านมาแล้ว ก็รีบโทรฯ ไปถามเหตุการณ์กับพวกคนที่บ้าน และทราบความจริงว่า พวกเด็กเล็กๆ ต่างตกใจมาก เพราะพวกเสื้อแดง นอกจากปิดล้อมบ้านแล้ว ก็บอกจะตัดน้ำตัดไฟ แถมยังยิงปืนขู่ และปืนป่าย เป็นฝูงลิงด้วย นอกจากนี้พวกถ่อยยังยิงหนังสติ๊กโดยไม่กลัวว่าจะโดนเด็กเล็กๆ ด้วย
พอ 3-4 ทุ่ม ตำรวจซึ่งดูแลอยู่ ก็ดูเฉยๆ ไม่ได้ใช้กำลัง หรือขอร้องให้เลิกรา
อีกทั้งไม่ดำเนินคดีด้วย เกรงว่าอาจบานปลาย
จตุพร พรหมพันธุ์ ยังหน้าไม่อาย แถลงว่า มันเป็นสิทธิ์ของเสื้อแดงที่จะบุกบ้านใครก็ได้ และการขับไล่เจิมศักดิ์ก็เป็นเรื่องปกติ อีกทั้งเวลาคนเสื้อแดงไม่ชอบหน้าใคร ก็ถือว่าเป็นศัตรูได้ ไม่เลือกหน้าทั้งนั้นแหละ
ส่วนที่มีคนพูดว่ามีการข่มขู่ ผู้พิพากษาในคดียัดทรัพย์นั้น ก็พูดพล่อยๆ ไม่ได้รับผิดชอบ ไอ้คนพูดควรโดนตีกะบาล
นี่และครับ กมลสันดาน
ความถ่อยของคนพวกนี้ เป็นไปตามคำสั่งของนาย และยิ่งถ่อยมากเท่าไร ก็ได้เงินมาเท่านั้นมิใช่หรือ
