xs
xsm
sm
md
lg

ตายพิกลและพิสดาร

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

ข่าวอาชญากรรม นานๆ ทีจะปรากฏใน นสพ.ผู้จัดการ ถ้าไม่สำคัญจริง นสพ.เราก็จะไม่ทำเป็นข่าวให้เปลืองเนื้อที่ข่าวอื่นที่สำคัญต่อประชาชนมากกว่า

เว้นจะเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนขวัญจริงๆ ผู้จัดการก็สามารถเกาะติดและหลายครั้งที่เราเจาะข่าวได้ลึกกว่าบรรดา นสพ.หัวสีซึ่งมีความชำนาญมากกว่าด้วยซ้ำไป

แต่เดี๋ยวนี้ข่าวแปลกคนตายแบบพิสดาร เราก็นำเสนอ

คือสันนิษฐานว่าชาวอิตาเลียนนายเกียตา จิโอวานี่ อายุใกล้เคียง 49 ปี ที่เข้ามาในไทย เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่แล้ว พักอยู่ในโรงแรมย่านถนนสุขุมวิท ได้ทำอัตตวิบาตกรรมด้วยการแขวนคอไว้กับสะพานพระราม 8 โดยโดดลงมาให้กระตุกซึ่งเงื่อนเชือกก็กระตุกจนคอถูกกระชากแบบฉับพลันจนขาด ร่างทิ้งลงแม่น้ำ หัวเขาลอยต่องแต่ง ดูหวาดเสียววและสยดสยองต่อผู้ที่ได้พบเห็นยิ่งนัก

การใช้วิธีการนี้ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือว่าเขาถูกฆาตกรรมในมุมมองของตำรวจ แต่คาดว่าเขาน่าจะโดนฆาตกรรมมากกว่า

ผู้จัดการได้ลำดับการฆ่าตัวตายแบบแปลกมาให้ดูกัน

วิธีที่ใช้กันไม่น้อย คือการต่อท่อยางพ่วงจากท่อไอเสียเข้ามาในรถแล้วนอนเปิดแอร์ (แบบอากาศหมุนเวียนภายในรถ) แบบนี้นอนตายตาหลับ

ต่อมาเคยมีชาวอินโดนีเซีย คนนี้เลือกจังหวัดชลบุรีครับ แกใช้วิธีผ้าเช็ดตัวนี้แหละไปอุดรูประตูห้องเพื่อบังตาคนแอบดู แล้วก็รมควันตัวเอง นอนแผ่หลาสูดควันที่แกจุดเองตายแบบทรมานพิลึก

อีกรายหนึ่งเลือกตายในบ้านครับ

คนไปพบก็อุจาดตา เพราะอะไรหรือ

ก็ไส้นะครับ มันไหลย้อยย้วยออกมา ยาวหลายวาเลยครับ

ศพมีบาดแผลเหวอะหวะยาว 10 เซนติเมตร ไส้ที่กองเละเทะอยู่บนพื้นนั้น แกตัดเป็นท่อนๆ ไว้ก็ 5 ท่อนครับ เลือดเจิ่งไปทั้งบ้าน

ในมือผู้ตายมีมีดปอกผลไม้ปลายแหลมจับแน่นอยู่ แถมใกล้ๆ กับศพพบกรรไกรเปื้อนเลือดตกอยู่

คาดว่าคงจะใช้กรรไกรกระซวก แล้วดึงไส้ออกมาตัดมันเป็น 5 ท่อน ก่อนจะถึงแก่อนิจจังนะ

อีกรายเป็นคนไทยอยู่แถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่แกก็ตายแปลก คือแกใช้สก็อตเทปเป็นอุปกรณ์ และใช้ถุงพลาสติกเอาไปปิดตามรอยหน้าต่างจนหมด เพื่อไม่ให้ลมเข้ามาได้

เสร็จแล้ว แกก็ยกเตาถ่าน (ใช้ย่างลูกชิ้นปิ้ง อะไรนี่) แล้วจุดถ่านที่ราดน้ำมัน
เผารมควัน แกก็สูดดมควันจนหมดลม ตายสมอยาก

คนเรานึกจะฆ่าตัวตาย ก็มีวิธีแปลกๆ แบบนี้แหละ

คราวนี้เป็นเรื่องผู้หญิงอยากม่องเท่งบ้าง

เธอมีนามว่า น.ส.อรวรรณ อายุเข้าวัยกลางคนคือ 36 แล้วครับ

เธอรักห้องนอน ก็ขอตายบนเตียงแล้วกัน

วิธีที่เธอคิดออกก็คือเอาถุงพลาสติกมาคลุมหัว เสร็จแล้วเธอก็ไปหาเชือกไนล่อนแบบสีเขียวสีแดงน่ะมาพันไว้รอบคอไม่ให้อากาศเข้าได้ ดังนั้นเธอก็หายใจจนอากาศในถุงพลาสติกหมด ท้ายแล้วก็ตายแหง๋แก๋อยู่บนเตียงนั่นแหละครับ

อีกคนเป็นเด็กหนุ่มแค่ 21 ปี บ๊ายบายเสียแล้ว รายนี้อาศัยเชือกไนล่อนผูกกับช่องระบายอากาศที่หน้าต่าง แขวนคอตัวเองโดยแกขี้เกียจยืน เลยขอตายในท่านั่ง

ก่อนตายเขียนจดหมายไว้ฉบับหนึ่ง ข่าวไม่ได้บอกว่าลาใครไว้บ้าง

ที่น่ากลัวคือรายของนายอุทัยอายุ 61 ปี คนนี้น่าจะเป็นช่างไฟใช้สายไฟฟ้ามัดมือซ้ายและที่ข้อเท้าก็มัดไว้ด้วย พอได้ที่ก็แหย่สายไฟเข้าที่ปลั๊ก ไฟก็เดินเข้าซีครับ

ตายด้วยช็อคไฟฟ้าครับ

ที่แปลกและพิสดาร แต่ไม่เท่ห์นะ อย่าเลียนแบบวิธีนี้โดยเด็ดขาด คือนายคมฤช อายุแค่ 28 เอง

ไม่รู้ชอบดมกาวหรือเปล่า

แกตายแบบพิลึก คือเอากาวตราช้างหยอดเข้าไปในปากและจมูกปิดทางเดินหายใจก่อนจะตายสมอยาก แกดิ้นพล่านๆ ตะเกียกตะหายจะแหกปากเปลี่ยนใจไม่ได้ เพราะกาวตราช้างทำริมฝีปากแกปิดสนิทเสียแล้วครับ

นี่แหละ... ตายไปแบบแปลกๆ อย่าคิดสั้นเลยครับคือคนเรานะ เกิดมามันตายอยู่แล้ว อย่าไปเร่งมันเพราะพวกยมพะบาลบอกไว้ ไอ้พวกไม่ถึงที่ตายแต่มาตายก่อนเวลานี่ ลงนรกตอนประตูนรกเขายังไม่เปิดต้องรอถึง 100 ชาติ ทำให้ไม่มีอะไรกินต้องหั่นขาหั่นหูและย่างส้นเท้าตัวเองกินพลางๆ จนกว่าประตูนรกจะเปิดนะครับพี่น้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น