การจับกุม “นังดา” หรือนางสาวดารณี ชาญเชิงศิลปกุล (51 ปี) หรือที่ได้รับฉายาว่า “ดา ตอร์ปิโด” นั้น ไม่ใช่การไปจับกุมคนเพี้ยนหรือผู้ไร้สติแต่ประการใด
ตรงกันข้าม “นังดา” เป็นผู้ที่รู้ชั่วดีทุกประการ เพียงแต่เป็นผู้เนรคุณต่อแผ่นดิน และต่อสถาบันเบื้องสูงของชาติ
เธอไม่ใช่คนธรรมดาๆ แต่เกี่ยวโยงกับกลุ่ม นปก.ในฐานะผู้ใกล้ชิดทั้งส่วนตัวกับแกนนำหลายคนมายาวนาน มีการทำงานอย่างเป็นขบวนการ ได้รับการเกื้อกูลเกื้อหนุนกัน
หาไม่แล้วเธอก็มิอาจมีเว็บเพจเป็นของตนเอง โดยใช้เป็นแหล่งจ้วงจาบหยาบคายทำลายเบื้องสูงอย่างแยบยลมายาวนานได้
เว็บเพจที่ว่านี้ยังมีเครือข่ายกับเว็บเพจที่จ้วงจาบสถาบันพระมหากษัตริย์อีก 3-4 แห่ง โดยที่ทางราชการปล่อยให้มีการทำลายสถาบันฯ ทั้งๆ ที่รู้ๆ อยู่ โดยไม่คิดที่จะใช้อำนาจปิดหรือดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น
กลายเป็นเครือข่าย “มีอิทธิพล” ที่คอยจาบจ้วงสถาบัน โดยที่รู้เห็นกันมายาวนาน
พฤติกรรมของ “นังดา” นั้นเป็นการ “เปิดเผย” และเป็นการประกาศศักดาให้เห็นว่า การจ้วงจาบเบื้องสูงนั้น พวกมันสามารถทำได้โดยเปิดเผยต่อสาธารณชน และไม่ต้องเกรงกลัวรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะ “อิทธิพล” พวกเขามีมากแค่ไหน
เดชะบุญที่หากสนธิ ลิ้มทองกุล และพันธมิตรไม่ออกมาประกาศให้มีการจัดการกับ “นังดา” หรือกดดันให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ
ป่านนี้ไอ้พวกเนรคุณแผ่นดินก็จะได้ใจต่อไป
ฝ่ายทหารเห็นแล้วว่ารัฐบาล “หมัก” นั้น คงปล่อยให้ขบวนการนี้ “ลอยนวล” เพราะทุกวันนี้ จักรภพหรือเจ๊เพ็ญ คดีก็ไม่คืบหน้า ขบวนการไม่ลุกขึ้นยืนเคารพในหลวงในโรงหนัง ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ และคดีหมิ่นอื่นๆ ของพวกเนรคุณแผ่นดินที่เป็นฝ่ายรัฐบาลดูจะไม่สามารถทำอะไรได้สักคดีเดียว
มันบอกอะไรหรือ?
มันบอกชัดว่า ขบวนการบ่อนทำลายสถาบันอันเป็นที่เคารพสักการะของคนไทยทั้งแผ่นดินกำลังถูกหนอนบ่อนไส้เจาะไชอย่างเปิดเผย เหมือนปลวกที่กำลังเกาะกินเสาหลักของบ้านเมืองให้สั่นคลอนยิ่งขึ้นทุกวันๆ
ผมเองเห็นสิ่งเหล่านี้มานาน ตั้งแต่ยุคทักษิณเป็นใหญ่ และเห็นว่าคนที่มีเงินเป็นใหญ่นั้น มักไม่เคยคิดจงรักภักดี เพราะว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง
การตั้งขบวนการจ้วงจาบสถาบันที่เคารพของคนไทยทั้งชาตินั้นเกิดมาในยุคไหนละ
คิดดูเถอะครับ ย้อนดูได้เลยว่ามันมีที่มาจากใคร
ขบวนการเหล่านี้เริ่มทำลายตั้งแต่ประธานองคมนตรีเป็นต้นมา ถึงขั้นยกขบวนไปหน้าบ้านด่าทอกันซึ่งหน้า
และกระทั่ง “นังดา” ก็กล้าจะด่าทอสถาบันในที่โล่งแจ้งอย่างชนิดไม่เคยมีใครกล้าทำ โดยใช้ความเท็จทั้งหมดเป็นการใส่ความกับบุคคลในสถาบันฯ อย่างเหลือเชื่อที่สุด
กลไกรัฐอย่างตำรวจกลับกลัวรัฐบาล “หมัก” ไม่กล้าที่จะจับกุมหรือดำเนินการใดๆ
ต้องให้ประชาชนและพันธมิตรเรียกร้องซึ่งก็ยังไม่ทำอะไร
ทหารทนไม่ไหวต้องออกมาอีกแรงหนึ่ง
เท่านั้น ตำรวจจึงขยับ
รัฐบาลและรัฐมนตรี มีบ้างไหมที่จะออกมาปกป้องสถาบัน มีไหมที่จะออกแถลงการณ์หรือประกาศแสดงความเสียใจที่ปล่อยให้บ้านเมืองมีคนออกมาจ้วงจาบสถาบันสูงสุดได้ถึงเพียงนี้
ความเฮงซวยของรัฐบาลนี้ ไม่แต่ทำให้เราสูญเสียชาติและอธิปไตย แต่กำลังทำให้เราสูญเสียสถาบันที่เราเคารพสักการะเพราะพวกสถุลเนรคุณต่อแผ่นดินอีกด้วย
เนรเทศรัฐบาลนี้ให้ไปที่ชอบที่ชอบเถิดครับ
ตรงกันข้าม “นังดา” เป็นผู้ที่รู้ชั่วดีทุกประการ เพียงแต่เป็นผู้เนรคุณต่อแผ่นดิน และต่อสถาบันเบื้องสูงของชาติ
เธอไม่ใช่คนธรรมดาๆ แต่เกี่ยวโยงกับกลุ่ม นปก.ในฐานะผู้ใกล้ชิดทั้งส่วนตัวกับแกนนำหลายคนมายาวนาน มีการทำงานอย่างเป็นขบวนการ ได้รับการเกื้อกูลเกื้อหนุนกัน
หาไม่แล้วเธอก็มิอาจมีเว็บเพจเป็นของตนเอง โดยใช้เป็นแหล่งจ้วงจาบหยาบคายทำลายเบื้องสูงอย่างแยบยลมายาวนานได้
เว็บเพจที่ว่านี้ยังมีเครือข่ายกับเว็บเพจที่จ้วงจาบสถาบันพระมหากษัตริย์อีก 3-4 แห่ง โดยที่ทางราชการปล่อยให้มีการทำลายสถาบันฯ ทั้งๆ ที่รู้ๆ อยู่ โดยไม่คิดที่จะใช้อำนาจปิดหรือดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น
กลายเป็นเครือข่าย “มีอิทธิพล” ที่คอยจาบจ้วงสถาบัน โดยที่รู้เห็นกันมายาวนาน
พฤติกรรมของ “นังดา” นั้นเป็นการ “เปิดเผย” และเป็นการประกาศศักดาให้เห็นว่า การจ้วงจาบเบื้องสูงนั้น พวกมันสามารถทำได้โดยเปิดเผยต่อสาธารณชน และไม่ต้องเกรงกลัวรัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะ “อิทธิพล” พวกเขามีมากแค่ไหน
เดชะบุญที่หากสนธิ ลิ้มทองกุล และพันธมิตรไม่ออกมาประกาศให้มีการจัดการกับ “นังดา” หรือกดดันให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ
ป่านนี้ไอ้พวกเนรคุณแผ่นดินก็จะได้ใจต่อไป
ฝ่ายทหารเห็นแล้วว่ารัฐบาล “หมัก” นั้น คงปล่อยให้ขบวนการนี้ “ลอยนวล” เพราะทุกวันนี้ จักรภพหรือเจ๊เพ็ญ คดีก็ไม่คืบหน้า ขบวนการไม่ลุกขึ้นยืนเคารพในหลวงในโรงหนัง ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ และคดีหมิ่นอื่นๆ ของพวกเนรคุณแผ่นดินที่เป็นฝ่ายรัฐบาลดูจะไม่สามารถทำอะไรได้สักคดีเดียว
มันบอกอะไรหรือ?
มันบอกชัดว่า ขบวนการบ่อนทำลายสถาบันอันเป็นที่เคารพสักการะของคนไทยทั้งแผ่นดินกำลังถูกหนอนบ่อนไส้เจาะไชอย่างเปิดเผย เหมือนปลวกที่กำลังเกาะกินเสาหลักของบ้านเมืองให้สั่นคลอนยิ่งขึ้นทุกวันๆ
ผมเองเห็นสิ่งเหล่านี้มานาน ตั้งแต่ยุคทักษิณเป็นใหญ่ และเห็นว่าคนที่มีเงินเป็นใหญ่นั้น มักไม่เคยคิดจงรักภักดี เพราะว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง
การตั้งขบวนการจ้วงจาบสถาบันที่เคารพของคนไทยทั้งชาตินั้นเกิดมาในยุคไหนละ
คิดดูเถอะครับ ย้อนดูได้เลยว่ามันมีที่มาจากใคร
ขบวนการเหล่านี้เริ่มทำลายตั้งแต่ประธานองคมนตรีเป็นต้นมา ถึงขั้นยกขบวนไปหน้าบ้านด่าทอกันซึ่งหน้า
และกระทั่ง “นังดา” ก็กล้าจะด่าทอสถาบันในที่โล่งแจ้งอย่างชนิดไม่เคยมีใครกล้าทำ โดยใช้ความเท็จทั้งหมดเป็นการใส่ความกับบุคคลในสถาบันฯ อย่างเหลือเชื่อที่สุด
กลไกรัฐอย่างตำรวจกลับกลัวรัฐบาล “หมัก” ไม่กล้าที่จะจับกุมหรือดำเนินการใดๆ
ต้องให้ประชาชนและพันธมิตรเรียกร้องซึ่งก็ยังไม่ทำอะไร
ทหารทนไม่ไหวต้องออกมาอีกแรงหนึ่ง
เท่านั้น ตำรวจจึงขยับ
รัฐบาลและรัฐมนตรี มีบ้างไหมที่จะออกมาปกป้องสถาบัน มีไหมที่จะออกแถลงการณ์หรือประกาศแสดงความเสียใจที่ปล่อยให้บ้านเมืองมีคนออกมาจ้วงจาบสถาบันสูงสุดได้ถึงเพียงนี้
ความเฮงซวยของรัฐบาลนี้ ไม่แต่ทำให้เราสูญเสียชาติและอธิปไตย แต่กำลังทำให้เราสูญเสียสถาบันที่เราเคารพสักการะเพราะพวกสถุลเนรคุณต่อแผ่นดินอีกด้วย
เนรเทศรัฐบาลนี้ให้ไปที่ชอบที่ชอบเถิดครับ
