วันศุกร์นี้ละครับ ถือเป็นวันสำคัญ
เรียกกันว่าเป็น “ดีเดย์” และเป็นวัน “ทุบหม้อข้าวหม้อแกง” เพราะพันธมิตรและญาติมิตรทั้งหลายเตรียมบุกไปยังทำเนียบรัฐบาลกันโดยพร้อมหน้า
ประมาณกันว่าฝูงผู้คนที่จะมาร่วมนั้น คร่าวๆ คงไม่น้อยกว่าแสนคนครับ ไม่รวมที่ชุมนุมในที่ตั้งจุดสำคัญๆ ตามหลายจังหวัดใหญ่ๆ
แกนนำคนสำคัญ คุณสนธิประกาศว่า วันศุกร์เป็นวันที่ประชาชนจะ “เขียนประวัติศาสตร์” กันแล้วครับ
และจะเป็นการปักหลักสู้แบบไม่ชนะก็จะไม่เลิกการชุมนุมเลยทีเดียว
มีปัจจัยหลายอย่างบ่งชี้ว่าคนจะมารวมตัวกันมาก เพราะว่าเห็นกันชัดว่ารัฐบาลนั้น พยายามหนีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน
รัฐบาลปฏิเสธที่จะไม่ให้โอกาสวุฒิสมาชิกอภิปรายไปแล้ว
โดยอ้างแบบหน้าตาเฉยว่า เปิดไม่ทัน คือเลี่ยงที่จะให้เหตุผลอื่นๆ
และเตะถ่วงไม่ให้ญัตติจากฝ่ายค้านของพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาทันกาลเวลา
ถามว่ารัฐบาลเกิดกลัวอะไร
มิหนำซ้ำยังให้ร้ายกับกลุ่มพันธมิตร และประชาชนด้วยว่าฝ่ายค้านมีการประสานการต่อสู้ระหว่างในสภากับนอกสภาเป็นเนื้อเดียวกัน
วิธีการสกปรกที่เห็นๆ ก็คือ ในรายการวิทยุทุกรายการที่เปิดสายให้แสดงความคิดเห็น ใครที่ไม่เห็นด้วยโผล่แสดงความคิดเห็นขัดแย้งกับรัฐบาล
ก็จะมีไอ้โม่งออกมาตอบโต้โดยเหมารวมว่า คนที่ไม่เห็นด้วยนั้นๆ เป็นพวกพันธมิตร ทั้งๆ ที่เป็นความเห็นอิสระ
คนเหล่านี้เป็นแฟนประจำของรายการที่เขาฟังอยู่ มิใช่เป็นแฟนพันธุ์ของพันธมิตร
ไอ้โม่งของรัฐบาลมีมาก และคอยสดับตรับฟังทุกรายการคอยค้านฝ่ายพันธมิตรทุกประเด็น ใช้ถ้อยคำหยาบๆ จนถึงขั้นต้องตัดสาย เพราะสถุลถ่อยอยู่บ่อยๆ
แม้แต่การประท้วงซึ่งทำให้ถนนปิด เช่น หน้าบ้านนายสมัครของพวกคนพิการเรียกร้องสิทธิเกี่ยวกับการขายหวย ไอ้โม่งทั้งที่รู้ก็ยังบิดเบือนว่าเป็นพวกพันธมิตร เห็นชัดๆ ว่า นี่เป็นมือปืนรับจ้างโดยแท้จริง
ดังนั้น วันศุกร์ก็น่าเชื่อได้ว่า พวกอันธพาลฝ่ายที่จะมาประท้วงพันธมิตร ก็คงเตรียมปะทะเช่นกัน
ยิ่งทำให้มีแนวโน้มก่อวิกฤต
ตำรวจจะเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ไม่ได้ และควรดูแลให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ในเกมส์ของตัวเอง
การเดินทัพไปทำเนียบถือว่าเป็นการเปิดฉากและปิดฉากไปในตัว
ที่เรียกว่า “เปิดฉาก” เพราะผู้คนรอคอยวันนี้มานานแล้ว มันเป็นไคลแมกซ์ที่ต้องเกิดขึ้น
พันธมิตรไม่ต้องการที่จะเข้าไปในทำเนียบ แต่ก็จะอยู่รายรอบทำเนียบ
ถ้ามีคนร่วมแสนก็จะต้องรายล้อมทุกด้านอยู่แล้ว
ตำรวจก็จะมีหลายพันคน
รถราก็ไม่น่าจะติด เพราะตามปกติ ถนนหน้าทำเนียบไม่มีรถราผ่านไปมาอยู่แล้ว แต่ถนนรอบๆ อาจมีรถวิ่งมากแต่ก็มีถนนเลี่ยงเบี่ยงออกอีกมากมาย
คงอ้างเหตุรถติดได้ยาก
การออกมาประกาศว่าจะดีเดย์วันศุกร์นั้นจำเป็น ก็เพราะมีประชาชนอีกหลายหมื่นคนเตรียมตัวจะเข้ากรุงเทพฯ กันอยู่แล้วครับ
ยิ่งรัฐบาลโดยรัฐมนตรีหลายคน โดยเฉพาะ รมต. มหาดไทยลุอำนาจ ให้ยศลูกชายแบบรังเกียจ และรัฐมนตรีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายคนอย่างนี้
คนก็ต้องมาหนาแน่น เยอะแยะเป็นธรรมดาครับ
ครับ... พบกันหน้าทำเนียบ
จะได้ร่วมสังฆกรรม “ปิดฉาก” รัฐบาลหุ่นนอมินีให้พ้นไปจากสังคมไทยเสียที
อยู่ไปให้รกและหนักแผ่นดินไปทำไม!!
เรียกกันว่าเป็น “ดีเดย์” และเป็นวัน “ทุบหม้อข้าวหม้อแกง” เพราะพันธมิตรและญาติมิตรทั้งหลายเตรียมบุกไปยังทำเนียบรัฐบาลกันโดยพร้อมหน้า
ประมาณกันว่าฝูงผู้คนที่จะมาร่วมนั้น คร่าวๆ คงไม่น้อยกว่าแสนคนครับ ไม่รวมที่ชุมนุมในที่ตั้งจุดสำคัญๆ ตามหลายจังหวัดใหญ่ๆ
แกนนำคนสำคัญ คุณสนธิประกาศว่า วันศุกร์เป็นวันที่ประชาชนจะ “เขียนประวัติศาสตร์” กันแล้วครับ
และจะเป็นการปักหลักสู้แบบไม่ชนะก็จะไม่เลิกการชุมนุมเลยทีเดียว
มีปัจจัยหลายอย่างบ่งชี้ว่าคนจะมารวมตัวกันมาก เพราะว่าเห็นกันชัดว่ารัฐบาลนั้น พยายามหนีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน
รัฐบาลปฏิเสธที่จะไม่ให้โอกาสวุฒิสมาชิกอภิปรายไปแล้ว
โดยอ้างแบบหน้าตาเฉยว่า เปิดไม่ทัน คือเลี่ยงที่จะให้เหตุผลอื่นๆ
และเตะถ่วงไม่ให้ญัตติจากฝ่ายค้านของพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาทันกาลเวลา
ถามว่ารัฐบาลเกิดกลัวอะไร
มิหนำซ้ำยังให้ร้ายกับกลุ่มพันธมิตร และประชาชนด้วยว่าฝ่ายค้านมีการประสานการต่อสู้ระหว่างในสภากับนอกสภาเป็นเนื้อเดียวกัน
วิธีการสกปรกที่เห็นๆ ก็คือ ในรายการวิทยุทุกรายการที่เปิดสายให้แสดงความคิดเห็น ใครที่ไม่เห็นด้วยโผล่แสดงความคิดเห็นขัดแย้งกับรัฐบาล
ก็จะมีไอ้โม่งออกมาตอบโต้โดยเหมารวมว่า คนที่ไม่เห็นด้วยนั้นๆ เป็นพวกพันธมิตร ทั้งๆ ที่เป็นความเห็นอิสระ
คนเหล่านี้เป็นแฟนประจำของรายการที่เขาฟังอยู่ มิใช่เป็นแฟนพันธุ์ของพันธมิตร
ไอ้โม่งของรัฐบาลมีมาก และคอยสดับตรับฟังทุกรายการคอยค้านฝ่ายพันธมิตรทุกประเด็น ใช้ถ้อยคำหยาบๆ จนถึงขั้นต้องตัดสาย เพราะสถุลถ่อยอยู่บ่อยๆ
แม้แต่การประท้วงซึ่งทำให้ถนนปิด เช่น หน้าบ้านนายสมัครของพวกคนพิการเรียกร้องสิทธิเกี่ยวกับการขายหวย ไอ้โม่งทั้งที่รู้ก็ยังบิดเบือนว่าเป็นพวกพันธมิตร เห็นชัดๆ ว่า นี่เป็นมือปืนรับจ้างโดยแท้จริง
ดังนั้น วันศุกร์ก็น่าเชื่อได้ว่า พวกอันธพาลฝ่ายที่จะมาประท้วงพันธมิตร ก็คงเตรียมปะทะเช่นกัน
ยิ่งทำให้มีแนวโน้มก่อวิกฤต
ตำรวจจะเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ไม่ได้ และควรดูแลให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ในเกมส์ของตัวเอง
การเดินทัพไปทำเนียบถือว่าเป็นการเปิดฉากและปิดฉากไปในตัว
ที่เรียกว่า “เปิดฉาก” เพราะผู้คนรอคอยวันนี้มานานแล้ว มันเป็นไคลแมกซ์ที่ต้องเกิดขึ้น
พันธมิตรไม่ต้องการที่จะเข้าไปในทำเนียบ แต่ก็จะอยู่รายรอบทำเนียบ
ถ้ามีคนร่วมแสนก็จะต้องรายล้อมทุกด้านอยู่แล้ว
ตำรวจก็จะมีหลายพันคน
รถราก็ไม่น่าจะติด เพราะตามปกติ ถนนหน้าทำเนียบไม่มีรถราผ่านไปมาอยู่แล้ว แต่ถนนรอบๆ อาจมีรถวิ่งมากแต่ก็มีถนนเลี่ยงเบี่ยงออกอีกมากมาย
คงอ้างเหตุรถติดได้ยาก
การออกมาประกาศว่าจะดีเดย์วันศุกร์นั้นจำเป็น ก็เพราะมีประชาชนอีกหลายหมื่นคนเตรียมตัวจะเข้ากรุงเทพฯ กันอยู่แล้วครับ
ยิ่งรัฐบาลโดยรัฐมนตรีหลายคน โดยเฉพาะ รมต. มหาดไทยลุอำนาจ ให้ยศลูกชายแบบรังเกียจ และรัฐมนตรีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายคนอย่างนี้
คนก็ต้องมาหนาแน่น เยอะแยะเป็นธรรมดาครับ
ครับ... พบกันหน้าทำเนียบ
จะได้ร่วมสังฆกรรม “ปิดฉาก” รัฐบาลหุ่นนอมินีให้พ้นไปจากสังคมไทยเสียที
อยู่ไปให้รกและหนักแผ่นดินไปทำไม!!