รู้ๆ กันอยู่ว่าก่อนกลับมาประเทศไทย อดีตนายกทักษิณให้คนสนิทคอยเช็คข่าวให้ว่าตัวเขาจะมีความปลอดภัยแค่ไหนถ้าเข้ามาในประเทศไทย ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะลงที่สนามบินอื่นซึ่งไม่ใช่สุวรรณภูมิ แต่อาจเลือกลงที่ไหนสักแห่งน่าจะเป็นทางภาคใต้ซึ่งมีทางหนีทีไล่ดีกว่า
ส่วนทางไทยเห็นว่าเมื่อพรรคพลังประชาชนกุมเสียงข้างมากในสภาได้ แถมจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ อีกทั้งยังได้นายสมัครเป็นนอมินีขึ้นเป็นนายกฯ เพียงดูเหตุการณ์ไปสักพักก็จะเป็นโอกาสที่จะกลับมาได้
พอเห็นว่าสบช่องก็กลับมาทันที แต่ยังไม่ทันไรเกิดมีข่าวออกมาว่าปืนยิงวิถีไกลหายไป 2 กระบอก (จากกรมสรรพาวุธ) ดังนั้นก็เป็นไปได้ว่ามือปืนอาจจะเป็นพวกสแนปเปอร์นักแม่นปืน
ไม่ตำรวจก็ทหารในสังกัด คงจะไม่ใช่พวกพลเรือนรับจ้าง
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จับมือดมได้ยาก และคงหนีกลับกรมกองในต่างจังหวัดหลังได้เงินก้อนโต
อีกเรื่องหนึ่งคือกลัวระเบิดพลีชีพ อาจมาจากทางใต้ และก็อาจก่อการอย่างอุกอาจที่สนามบินก็ได้ แต่ตำรวจบอกว่าจะรับผิดชอบให้ได้
ดังนั้นระยะแรกจึงมี รปภ.อารักขาอดีตนายกเต็มไปหมด
และเก็บหมายกำหนดการเป็นความลับสุดยอด
แม้แต่จะพักที่ไหน ตอนแรกก็ปิด ต่อมาก็เปิดว่าไปพักที่โรงแรมหรูเช่าไว้หลายห้อง จำนวนหนึ่งเอาไว้ให้ รปภ.ซึ่งแม่นในการยิงปืนเข้าไปคุ้มกันด้วย
ทักษิณเห็นว่าวิธีหนึ่งที่จะดึงภาพลักษณ์จนคนไม่กล้าลอบยิงตนก็คือต้องได้มวลชน
นั่นเป็นที่มาของการก้มลงกราบแม่ธรณี ซึ่ง นสพ.ทุกฉบับได้ภาพนี้ตีพิมพ์ขึ้นหน้าหนึ่งกันทุกฉบับ หลังจากนั้นก็ให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่หวลกลับมาเล่นการเมืองอีก
เป็นการตัดไฟและตัดศัตรูทางการเมืองออกไป หากว่าจะมีผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองคิดปองร้าย
แต่ยังติดอยู่ที่ คมช.
ก็เลยบอกว่า ตัวเองนั้นไม่คิด “เอาคืน” กับ คมช.
ที่ไหนได้เมื่อเร็วๆ นี้ ให้สัมภาษณ์นสพ.รายวันไฟแนนเชียลไทม์เป็นข่าว วิจารณ์ว่า คมช.ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อต่างประเทศดูถูกดูแคลน เพราะเป็นเผด็จการทหาร ถูกคนเขารังเกียจตัดความช่วยเหลือ
ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่นะครับ
หลังปฏิวัติกลุ่มอียูหรือกลุ่มประเทศในยุโรปเกือบทุกประเทศไม่ยอมให้รัฐมนตรีในรัฐบาลทุกรัฐบาลเข้ามาเยือนรัฐบาล เพราะไม่พอใจที่เราไม่เป็นประชาธิปไตย และก็ไม่ต้อนรับการไปเยือนประเทศเขาด้วย
เราโดดเดี่ยวมาก โดยที่คนไทยในประเทศไม่ค่อยรู้กัน
ทักษิณยังคงเก็บตัวเงียบ และถือว่าที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อไทยนั้นน่าจะพอแล้ว ส่วนสื่อต่างประเทศเขาเห็นว่าไม่เป็นไร เพราะเป็นสื่อสากล เขายังต้องการมีบทบาทในเวทีโลกอยู่ เพราะเขายังมีวิสัยทัศน์ที่โลกจ้องมองดูอยู่ ไม่แปลกอะไร
กระนั้นก็ตาม คำพูดบางอย่างก็สะกิดใจคน ด้วยประโยคที่ว่าเขาเก็บตัวเพราะ “ไม่อยากออกมาดับรัศมีใคร”
ก็ไม่แน่ใจว่า “ใครคนนั้น” เขาหมายถึงใคร
น่าจะหมายถึงนายสมัคร ซึ่งฉุนมาก ถ้าใครพูดถึงการมีนายกฯ 2 คน
คนที่เขียนถึงนายกสองคน เป็นสื่อมวลชนต่างประเทศนะครับ
สื่อไทยน่ะมาว่าตามในภายหลัง
นอกจากนี้ต้องยอมรับว่าหลังกลับมา ข่าวหลักของหน้าหนึ่งในสื่อมวลชน ทั้ง นสพ. ทีวี และวิทยุพากันเสนอข่าวทักษิณกันหมด
และเอาข่าวนายก “หมัก” ไป “หมก” จนแทบเป็น “ข่าวย่อย” หรือข่าวประกอบก็ว่าได้
“นี่คือการดับรัศมี” นั่นแหละ
ส่วนที่คุณทักษิณเคยบอกว่าเขาจะหาคนนั้นคนนี้ จนบัดนี้ยังไม่ไปหาใครสักคน
เขากำลังเช็คข่าวอยู่ครับว่า คนที่เขาจะไปพบนั้น เต็มใจให้พบหรือไม่
อย่างป๋าเปรมนั้น ไม่ง่ายนักหรอก ทักษิณมีไม้เด็ด เพราะเขาจะใช้คนระดับสูงกว่าป๋าหลายเท่า จนป๋าต้องต้อนรับเขาแบบ “ไม่ยอมไม่ได้” พวก คมช.นั้น แม้จะลำบากใจแค่ไหน แต่ก็เป็นพวกเห็นตีนงู ตีนกันมาก่อน ไม่น่าเรื่องมาก บางคนก็แบะท่ายอมรับทักษิณอยู่แล้ว
ส่วนพวกที่จะฆ่าหรือปองร้ายก็มีจริง
ป๋าเปรมยังเคยโดนต่อยมาแล้วมาแล้ว คนพวกนี้อาจเข้าไปต่อยหน้าทักษิณ ไม่ก็ทำรุนแรงทางร่างกาย เช่น เอาไม้หน้าสามตีแสกหน้าบ้างก็ได้
เป็นไปได้ทั้งนั้น รปภ. ก็ถูกสั่งให้ยิงทิ้งได้เลย
ทักษิณก็ต้องเตรียมตัว ยื่นศาลของเดินทางไปคุมทีมแมนซิตี้โดยเสียเร็ว
ผมเชื่อว่าศาลจะสั่งให้ออกไปได้ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะรั้งตัวไว้
ทักษิณเองเชื่อว่า คดีต่างๆ ไม่มีใครเอาผิดได้เลย นักกฎหมายที่มีอยู่ก็ทำกันแบบครบถ้วน มือดีๆ ทั้งนั้นนี่
ส่วนทางไทยเห็นว่าเมื่อพรรคพลังประชาชนกุมเสียงข้างมากในสภาได้ แถมจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ อีกทั้งยังได้นายสมัครเป็นนอมินีขึ้นเป็นนายกฯ เพียงดูเหตุการณ์ไปสักพักก็จะเป็นโอกาสที่จะกลับมาได้
พอเห็นว่าสบช่องก็กลับมาทันที แต่ยังไม่ทันไรเกิดมีข่าวออกมาว่าปืนยิงวิถีไกลหายไป 2 กระบอก (จากกรมสรรพาวุธ) ดังนั้นก็เป็นไปได้ว่ามือปืนอาจจะเป็นพวกสแนปเปอร์นักแม่นปืน
ไม่ตำรวจก็ทหารในสังกัด คงจะไม่ใช่พวกพลเรือนรับจ้าง
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จับมือดมได้ยาก และคงหนีกลับกรมกองในต่างจังหวัดหลังได้เงินก้อนโต
อีกเรื่องหนึ่งคือกลัวระเบิดพลีชีพ อาจมาจากทางใต้ และก็อาจก่อการอย่างอุกอาจที่สนามบินก็ได้ แต่ตำรวจบอกว่าจะรับผิดชอบให้ได้
ดังนั้นระยะแรกจึงมี รปภ.อารักขาอดีตนายกเต็มไปหมด
และเก็บหมายกำหนดการเป็นความลับสุดยอด
แม้แต่จะพักที่ไหน ตอนแรกก็ปิด ต่อมาก็เปิดว่าไปพักที่โรงแรมหรูเช่าไว้หลายห้อง จำนวนหนึ่งเอาไว้ให้ รปภ.ซึ่งแม่นในการยิงปืนเข้าไปคุ้มกันด้วย
ทักษิณเห็นว่าวิธีหนึ่งที่จะดึงภาพลักษณ์จนคนไม่กล้าลอบยิงตนก็คือต้องได้มวลชน
นั่นเป็นที่มาของการก้มลงกราบแม่ธรณี ซึ่ง นสพ.ทุกฉบับได้ภาพนี้ตีพิมพ์ขึ้นหน้าหนึ่งกันทุกฉบับ หลังจากนั้นก็ให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่หวลกลับมาเล่นการเมืองอีก
เป็นการตัดไฟและตัดศัตรูทางการเมืองออกไป หากว่าจะมีผู้เสียผลประโยชน์ทางการเมืองคิดปองร้าย
แต่ยังติดอยู่ที่ คมช.
ก็เลยบอกว่า ตัวเองนั้นไม่คิด “เอาคืน” กับ คมช.
ที่ไหนได้เมื่อเร็วๆ นี้ ให้สัมภาษณ์นสพ.รายวันไฟแนนเชียลไทม์เป็นข่าว วิจารณ์ว่า คมช.ทำให้ประเทศไทยเสียชื่อต่างประเทศดูถูกดูแคลน เพราะเป็นเผด็จการทหาร ถูกคนเขารังเกียจตัดความช่วยเหลือ
ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่นะครับ
หลังปฏิวัติกลุ่มอียูหรือกลุ่มประเทศในยุโรปเกือบทุกประเทศไม่ยอมให้รัฐมนตรีในรัฐบาลทุกรัฐบาลเข้ามาเยือนรัฐบาล เพราะไม่พอใจที่เราไม่เป็นประชาธิปไตย และก็ไม่ต้อนรับการไปเยือนประเทศเขาด้วย
เราโดดเดี่ยวมาก โดยที่คนไทยในประเทศไม่ค่อยรู้กัน
ทักษิณยังคงเก็บตัวเงียบ และถือว่าที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อไทยนั้นน่าจะพอแล้ว ส่วนสื่อต่างประเทศเขาเห็นว่าไม่เป็นไร เพราะเป็นสื่อสากล เขายังต้องการมีบทบาทในเวทีโลกอยู่ เพราะเขายังมีวิสัยทัศน์ที่โลกจ้องมองดูอยู่ ไม่แปลกอะไร
กระนั้นก็ตาม คำพูดบางอย่างก็สะกิดใจคน ด้วยประโยคที่ว่าเขาเก็บตัวเพราะ “ไม่อยากออกมาดับรัศมีใคร”
ก็ไม่แน่ใจว่า “ใครคนนั้น” เขาหมายถึงใคร
น่าจะหมายถึงนายสมัคร ซึ่งฉุนมาก ถ้าใครพูดถึงการมีนายกฯ 2 คน
คนที่เขียนถึงนายกสองคน เป็นสื่อมวลชนต่างประเทศนะครับ
สื่อไทยน่ะมาว่าตามในภายหลัง
นอกจากนี้ต้องยอมรับว่าหลังกลับมา ข่าวหลักของหน้าหนึ่งในสื่อมวลชน ทั้ง นสพ. ทีวี และวิทยุพากันเสนอข่าวทักษิณกันหมด
และเอาข่าวนายก “หมัก” ไป “หมก” จนแทบเป็น “ข่าวย่อย” หรือข่าวประกอบก็ว่าได้
“นี่คือการดับรัศมี” นั่นแหละ
ส่วนที่คุณทักษิณเคยบอกว่าเขาจะหาคนนั้นคนนี้ จนบัดนี้ยังไม่ไปหาใครสักคน
เขากำลังเช็คข่าวอยู่ครับว่า คนที่เขาจะไปพบนั้น เต็มใจให้พบหรือไม่
อย่างป๋าเปรมนั้น ไม่ง่ายนักหรอก ทักษิณมีไม้เด็ด เพราะเขาจะใช้คนระดับสูงกว่าป๋าหลายเท่า จนป๋าต้องต้อนรับเขาแบบ “ไม่ยอมไม่ได้” พวก คมช.นั้น แม้จะลำบากใจแค่ไหน แต่ก็เป็นพวกเห็นตีนงู ตีนกันมาก่อน ไม่น่าเรื่องมาก บางคนก็แบะท่ายอมรับทักษิณอยู่แล้ว
ส่วนพวกที่จะฆ่าหรือปองร้ายก็มีจริง
ป๋าเปรมยังเคยโดนต่อยมาแล้วมาแล้ว คนพวกนี้อาจเข้าไปต่อยหน้าทักษิณ ไม่ก็ทำรุนแรงทางร่างกาย เช่น เอาไม้หน้าสามตีแสกหน้าบ้างก็ได้
เป็นไปได้ทั้งนั้น รปภ. ก็ถูกสั่งให้ยิงทิ้งได้เลย
ทักษิณก็ต้องเตรียมตัว ยื่นศาลของเดินทางไปคุมทีมแมนซิตี้โดยเสียเร็ว
ผมเชื่อว่าศาลจะสั่งให้ออกไปได้ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะรั้งตัวไว้
ทักษิณเองเชื่อว่า คดีต่างๆ ไม่มีใครเอาผิดได้เลย นักกฎหมายที่มีอยู่ก็ทำกันแบบครบถ้วน มือดีๆ ทั้งนั้นนี่