xs
xsm
sm
md
lg

เปิดสภา-สงครามนางฟ้า

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

มีพระบรมราชโองการให้เปิดสภา โดยสมเด็จพระบรมทรงสนองพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมีความตอนหนึ่ง ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า ทรงเชื่อใจว่าบรรดาสมาชิกแห่งสภามีความสำนึกในชาติและเล็งเห็นว่าสถานการณ์ต่างๆ ยังเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

ภารกิจของท่านจึงสำคัญอย่างยิ่งยวด ต้องรีบเร่งดำเนินการเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพทุกๆ ด้านให้ประเทศชาติมีปึกแผ่นมั่นคงเป็นปกติสุข

พระบาทเห็นว่าบรรดาสมาชิกสภาจะได้น้อมเกล้าจำใส่ใจว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยสถานการณ์ด้านความมั่นคงอย่างยิ่ง ดังนั้นการที่รัฐบาลจะแต่งตั้งใครก็ตามให้มาคุมตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม, มหาดไทย หรือตำแหน่งใดที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง ก็ควรจะพิจารณาตัวบุคคลอย่างรอบคอบ และจัดสรรงบประมาณและกำลังพลรวมทั้งอาวุธให้พร้อมในการดำเนินการ

อีกตอนหนึ่งในพระราชกระแส ทรงกล่าวถึงความปรองดอง และการอภิปรายในสภาควรใช้เหตุผลที่ถูกต้อง คำนึงถึงประโยชน์อันพึงประสงค์คือความมั่นคง ปลอดภัย

เห็นได้ว่า พระองค์ทรงเน้นถึงความมั่นคง ปลอดภัยถึง 2 ครั้งสองครา ดังนั้น ในสมัยรัฐบาลนี้ ควรตระหนักในภารกิจนี้เป็นหลัก

และฝ่ายค้านก็ไม่ควรแสดงโวหารเอาชนะด้วยเหตุมิบังควร แต่ควรมีเหตุผลเพื่อช่วยกันจรรโลงผลประโยชน์ของชาติมากกว่าที่คิดจะโค่นล้มกัน

นายสมัครซึ่งเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีนั้นก็มั่นใจว่า จะได้รับการโหวตขึ้นแท่นเป็นนายกฯ คนที่ 25 แน่ ใครจะตีความคุณสมบัติของตนนั้นดูท่านจะไม่แคร์เลย และบอกว่าที่เป็นข่าวว่าจะควบตำแหน่ง รมว.กลาโหมนั้นขอบอกว่า ไม่เป็นเช่นนั้น

สำหรับตำแหน่งประธานสภานั้น นายยงยุทธ ติยะไพรัช เจ้าของฉายา “ยุทธ ตู้เย็น" กระเหี้ยนมากที่จะยึดตำแหน่งทั้งที่ กกต.อาจปลดเมื่อไรก็ได้ เขาลาออกจากกรรมการบริหารพรรค แจ้ง กกต.แล้ว แถมบอกว่าคดีความที่ติดค้าง ก็ไม่น่ามีปัญหาด้วย

ตำแหน่งที่พูดกันอย่างเอิกเกริกเห็นจะเป็นตำแหน่ง รมว.กระทรวงคลังซึ่งเอาหมอเลี๊ยบมานั่ง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค บอกว่านี่เป็นตำแหน่งสำคัญ ตนพร้อมที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็แล้วกัน

แม้ว่าหลายฝ่ายจะยี้กับ รมว.คลัง และเห็นว่า “ไม่คลอลิฟาย” หรือยังขาดคุณสมบัติ และไม่น่าผ่านเกณฑ์ทั้งความรู้, ประสบการณ์ และความสามารถ แต่ดูเหมือนที่หมอเลี๊ยบมีอยู่ในมือคือความมั่นใจ

ก็เชื่อได้ว่า คงจะมีทีมที่ปรึกษาการคลังและทีมเศรษฐกิจรองรับอยู่จำนวนหนึ่งในไม่ช้า

สงครามนางฟ้า

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่เรียกว่า “แอร์การบินไทย” ก่อหวอดประท้วงละครแอ๊กเซส เรื่อง “สงครามนางฟ้า” ที่ออกอากาศมาหลายตอนแล้ว ว่าสร้างความอัปยศทางวิชาชีพให้กับผู้ประกอบวิชาชีพโดยสุดที่จะทนได้

พระบาทเคยทำงานอยู่กับการบินไทยมาเกือบ 20 ปี และเป็นหนึ่งในกรรมการรับสมัคร และสัมภาษณ์แอร์-สจ๊วตมาร่วม 5-6 ปี ขณะทำงานโดยผ่านพวกแอร์-สจ๊วตเหล่านี้มาประมาณ 15,000 คน ก็รู้สึกเห็นใจ เพราะเข้าใจจิตใจของพนักงานเหล่านี้ดี

ตอนที่พระบาทอยู่การบินไทย การบินไทยเป็นหนึ่งใน 3 ติดอันดับของสายการบินที่ดีที่สุดของโลก และการต้อนรับบนเครื่องบินเราอยู่ในลำดับหนึ่ง ไม่ต่ำกว่าที่สองหรือสาม ต่อเนื่องมาหลายปี

แอร์การบินไทยนั้นสวยและงาม สมเป็นกุลสตรีไทย มีการฝึกอย่างทรหด ฝึกให้ช่วยผู้โดยสารยามวิกฤติ แม้กระทั่งชุดไทยก็มีที่ฉีกให้ขาดบริเวณเหนือเข่า เพื่อให้คล่องตัวในการช่วยเหลือยามคับขัน แอร์การบินไทยต้องว่ายน้ำในระยะทางไกลได้พอสมควร ฟิตตัวสม่ำเสมอ และต้องมีสุขภาพดี

ดังนั้นคนเหล่านี้จึงภูมิใจ มีศักดิ์ศรี และมองโลกในแง่ดี

เท่าที่ผมอยู่การบินไทยมาเกือบ 20 ปี ไม่เคยมีเรื่องแอร์ตบตีหรือยกครก ปาสากกะเบือหรือเอาไอพอทไปตบหน้าเพื่อนแอร์ด้วยกัน เรื่องส่วนตัวไปแย่งแฟนใครผมไม่ทราบ แต่มีน้อยมากที่น้ำเน่าแบบละครสงครามนางฟ้า

ละครไทยทางทีวีนั้น จะต้องดัดจริต ต้องหยาบและจิตวิปริต ทั้งนังมารร้าย และนางเอกต้องมาโชคิส คือชอบโดนทำร้ายทั้งทางจิตใจและร่างกาย ไม่งั้นเป็นนางเอกไม่ได้

แอร์จริงๆ นั้นบินกันว่อน กลับมาก็เข้านอน ตื่นมาก็เตรียมตัวบินไฟลท์ต่อไป เป็นวัฏจักรเช่นนี้ แทบไม่มีเวลาไปหาซื้อครกหรือสากกะเบือเอาไปทุ่มใส่กะบาลใครหรอกครับ

ดังนั้น คุณเธอจึงประท้วง และผมก็เห็นใจเธอมาก มันเหยียดหยามกับอาชีพของเธอ มันบิดเบือน

ผมไม่แน่ใจว่าผู้เขียนบทเป็นแอร์เก่าหรือไม่ ถ้าเป็นแอร์เก่าผมเชื่อว่ามีการดัดแปลงบทโดยคนเขียนบทละครเพื่อให้ได้สีสันและบรรยากาศของละครไทย

แอร์การบินไทยอยากให้บริษัทการบินไทยถอนโฆษณาหากมีกับบริษัทแอ๊กแซสออกให้หมด เป็นการตอบโต้ ผมไม่มีความเห็น

สงครามนางฟ้า กลายเป็นสงครามจริงๆ ไม่รู้ช่องอื่นสนใจเอาไปทำละครอีกเรื่องนึงหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น