xs
xsm
sm
md
lg

ปิดหู ปิดตา ปิดปาก

เผยแพร่:   โดย: วริษฐ์ ลิ้มทองกุล

หัวค่ำ วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2548

ผมนั่งอยู่ในอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ กลางนครหางโจว มณฑลเจ้อเจียง เมืองท่องเที่ยว และศูนย์กลางการหัตถกรรมที่กำลังได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาซอฟท์แวร์แห่งหนึ่งของประเทศจีน

บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ XP รุ่นล่าสุด กับหน้าจอขนาด 19 นิ้วใหญ่มหึมา ผมเปิดอ่านข่าวสารบนเว็บไซต์หลายต่อหลายเว็บจากผู้จัดการออนไลน์ ต่อเนื่อง เรื่อยไปจนถึงเว็บไซต์ภาษาอังกฤษจากโลกตะวันตก

ลูกศรบนจอคอมพิวเตอร์ของผมไปหยุดอยู่ ณ จุดเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ข่าวของ บีบีซี นิวส์ (news.bbc.co.uk) ......

ตั้งแต่ก่อนเรียนจบมหาวิทยาลัย เรื่อยจนมาประกอบอาชีพผู้สื่อข่าว ผมถือเป็นแฟนตัวยงผู้หนึ่งของเว็บไซต์ บีบีซี นิวส์ ไม่ว่าจะในด้าน ความเป็นกลาง เนื้อหาสาระ วิธีการเขียนข่าวกระชับแต่ได้ใจความ การออกแบบหน้าเว็บไซต์ การใช้รูป การเชื่อมโยงไปยังคลังข้อมูลและข่าวเก่า เสริมด้วยภาพเคลื่อนไหวจากวีดีโอ สำนักข่าวอันดับหนึ่งของอังกฤษแห่งนี้ล้วนแล้วแต่ทำได้อยู่ในระดับหัวแถวของโลกทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม นับจากเมื่อ 3-4 ปีก่อนที่ผมเดินทางมาถึงประเทศจีนเป็นต้นมา โลกแห่งความรู้ของผมก็แทบจะไม่เคยได้สัมผัสกับข่าวสาร-ความรู้จากเว็บไซต์ บีบีซี นิวส์ อีกเลย

มีข่าวร่ำลือกันว่า ปัจจุบัน "รัฐบาลจีน" มีหน่วยงานที่ควบคุม ดูแลและคอยกันเว็บไซต์ต่างๆ บนโลกไซเบอร์สเปซโดยเฉพาะ โดยหน่วยงานแห่งนี้มีกองทัพเจ้าหน้าที่ในสังกัดกว่า 30,000 คน ที่คอยดูแลการไหลเวียนของข่าวสารที่เข้ามาในสารบบโลกอินเทอร์เน็ตของประเทศจีน

ทั้งนี้นอกจาก บีบีซี นิวส์แล้ว ครั้งหนึ่ง กูเกิ้ล (Google) Seach Engine อันดับหนึ่งบนผืนพิภพก็เคยตกเป็นเหยื่อของกองทัพแนวป้องกันบนโลกไซเบอร์สเปซของรัฐบาลจีนด้วยเช่นกัน ในบัญชีดำของหน่วยงานที่ไม่เปิดเผยแห่งนี้ยังเคยบรรจุไว้ด้วยรายชื่อของ เว็บล็อก (Weblog) ยอดนิยมอย่าง Blogspot ยังไม่นับรวม เว็บไซต์ที่เผยแพร่ข่าวสารจากทางฝั่งไต้หวันอีกจำนวนหนึ่ง และเว็บไซต์อิสระอีกจำนวนมาก

แต่สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจยิ่งกว่าก็คือ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สารานุกรมออนไลน์ที่เปิดให้บริการฟรี โดยเปิดเสรีให้อาสาสมัครช่วยกันใส่เนื้อหาเข้าไป และมีความรู้ด้านต่างๆ บรรจุไว้กว่า 1 ล้าน 5 แสนเรื่อง นาม Wikipedia (www.wikipedia.org) กลับถูกกันออกจากสารบบโลกอินเทอร์เน็ตของประเทศจีนกับเขาด้วย

ในประเทศจีน ที่ถูกปกครองด้วยรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์แต่เพียงพรรคเดียว นอกจากในช่วงหัวค่ำโทรทัศน์ทุกช่องที่มีนับเป็นร้อยๆ ช่อง ไม่ว่าจะเป็นส่วนกลางหรือท้องถิ่นจะต้องถ่ายทอดสัญญาณข่าวภาคค่ำที่เผยแพร่มาจากโทรทัศน์กลางของจีนช่องที่ 1 (CCTV-1) หรือ หนังสือพิมพ์-สำนักพิมพ์ ที่เกือบจะร้อยทั้งร้อยอยู่ในความควบคุมของรัฐบาลแล้ว สื่อเสรีอย่างอินเทอร์เน็ตก็ไม่วายถูกควบคุมไปด้วยเช่นกัน

เหมือนทุกๆ ครั้ง ค่ำวันอังคารที่ผ่านมา ผมพยายาม ย้ำเมาส์ หลายต่อหลายครั้ง โดยหวังว่าจะได้เห็นข่าวที่ขึ้นมาจาก news.bbc.co.uk เหมือนที่เคยครั้งเมื่อตอนอยู่เมืองไทย ...... แต่ความหวังนั้นก็ไม่เคยเป็นจริง
..................................
หัวค่ำ วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2550

ผมนั่งเล่นอินเทอร์เน็ตอยู่ที่บ้าน ย่านลาดพร้าว

ภายหลังจากที่ รัฐบาลภายใต้การนำของพรรค "ไทยลักไทย" บริหารประเทศมาในสมัยที่สอง มาเกือบครบ 3 ปีแล้ว

ภายใต้สโลแกนในการบริหารประเทศที่ว่าจะสร้างให้สังคมไทยเป็น "สังคมแห่งองค์ความรู้ (Knowledge-Based Society)" ที่ท่านผู้นำพร่ำมาตั้งแต่เป็นรัฐบาลสมัยแรก เว็บไซต์เพื่อความบันเทิง ดาวน์โลดรูปภาพ-วีดีโอ ดาวน์โลดเพลง ผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก ตามการเติบโตของเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือในระบบ 3G ยอดผู้ชมรายการบันเทิง-เกมโชว์-การออกหวยรายวัน ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือกำลังอยู่ในยุคเบ่งบาน

ในทางกลับกันเว็บไซต์ข่าวของหนังสือพิมพ์ต่างๆ ก็ทยอยถูกปิดไปทีละแห่งทีละแห่งสองแห่ง คงเหลือแต่เพียงเว็บไซต์ข่าวของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ที่ทำตัวเป็นต้นไผ่ลู่ไปตามกระแสลมได้อยู่ตลอด

ไม่เพียงแต่โทรทัศน์และวิทยุ ทุกช่อง หรือ เว็บไซต์ข่าวของประเทศไทย ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของรัฐบาล เว็บไซต์ข่าวจากต่างประเทศที่เขียนข่าวโจมตี และตำหนิการบริหารงานของรัฐบาล โดยเฉพาะเว็บไซต์ข่าวของประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ทางตอนใต้ ก็โดนปิดกั้นไปก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่ต้นปี ในข้อหาบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศไทย (ลักไทย)

ลูกศรบนจอคอมพิวเตอร์ของผมไปหยุดอยู่ ณ จุดเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ข่าวของ บีบีซี นิวส์ ที่มักจะรายงานข่าวสารของประเทศไทยอย่างตรงไปตรงมา และความไม่ชอบมาพากลในการบริหารประเทศภายใต้เงื้อมมือของท่านผู้นำ และรัฐบาลพรรคไทยลักไทย ......

นับตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2548 เป็นต้นมา หลังจากที่ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวบีบีซี ริตั้งคำถามท้าทายท่านผู้นำระหว่างพิธีการบินทดสอบสนามบินสุวรรณภูมิ สำนักข่าวสัญชาติอังกฤษแห่งนี้ก็ถูกจับตาจากรัฐบาลไทยมาโดยตลอด จนในที่สุดก็มีชะตากรรมเหมือนกับเว็บไซต์ข่าวต่างประเทศอื่นๆ ที่กล่าววิพากษ์วิจารณ์การบริหารประเทศอย่างไม่โปร่งใสของรัฐบาลพรรคไทยลักไทย

เหมือนทุกๆ ครั้ง ผมพยายาม ย้ำเมาส์ หลายต่อหลายครั้ง โดยหวังว่าจะได้เห็นข่าวที่ขึ้นมาจาก news.bbc.co.uk เหมือนที่เคย ...... แต่ความหวังนั้นก็ไม่เคยเป็นจริง

ป.ล.เหตุการณ์ เนื้อหา และชื่อต่างๆ ในวันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2550 ล้วนเป็นเรื่องราวที่สมมติขึ้นทั้งสิ้น หากเหตุการณ์ เนื้อหา และชื่อต่างๆ ในเนื้อเรื่อง ไปพ้องกับบุคคลหรือนิติบุคคลผู้ใดเข้า ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น