ผมเป็นคนชอบเดินทาง แต่ไม่ชอบท่องเที่ยว
ในความหมายของผม การเดินทาง คือ การออกจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ส่วนการท่องเที่ยว คือ การเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความบันเทิง
หลายคนชอบท่องเที่ยว แต่ไม่ชอบเดินทาง โดยเฉพาะที่ต้องใช้เวลานานๆ อยากเห็นสถานที่ท่องเที่ยวโดยเร็ว ความรู้สึกเช่นนี้ยิ่งทำให้การเดินทางยาวนานขึ้นเป็นทวีคูณ ผมไม่ค่อยเจอใครที่ชอบเดินทาง มากกว่าท่องเที่ยว แม้กระทั่งตัวผมเอง ก็เคยรู้สึกเกลียดการเดินทางขึ้นมาจับใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องนั่งเครื่องบินเป็นเวลานานเกือบหนึ่งวันเต็มจากกรุงเทพฯ มาเรียนต่อที่นิวยอร์ก
การมาอยู่ประเทศอเมริกาอันกว้างใหญ่ครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ได้เดินทาง และท่องเที่ยวหลายครั้งหลายครา ผมจึงได้เดินทางออกจากบ้านพักใกล้โรงเรียนในมหานครนิวยอร์กทางฝั่งตะวันออกเป็นประจำ
มาถึงใหม่ๆ ก็ได้นั่งรถไฟข้ามคืนไปเยี่ยมพี่สาวที่ชิคาโก หลังสอบกลางภาคเรียนแรก ก็ได้นั่งเครื่องบินข้ามฝั่งพอร์ตแลนด์ ในรัฐออรีกอนฝั่งตะวันตก พอปลายปีก็ได้กลับเมืองไทยเพื่อไปเยี่ยมคุณยายสุดที่รักที่ตั้งหน้าตั้งรออยู่ที่บ้าน เที่ยวบินกลับบ้านล่าช้าไปกว่ากำหนดกว่า 10 ชั่วโมงเพราะเครื่องขัดข้อง ประตูปิดได้ไม่สนิท ต้องจอดแก้อยู่ที่สนามบินในเมืองอลาสก้ามืดๆ อยู่หลายชั่วโมง
พอเปิดภาคเรียนที่สองก็นั่งเครื่องบินกลับอเมริกาโดยแวะอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ก่อนนั่งเครื่องบินตรงกลับมานิวยอร์ก เปิดเทอมได้สักพัก ก็ได้เดินทางไปสัมมนาของมูลนิธิฟุลไบรท์ที่รัฐอาริโซน่าฝั่งตะวันตกทางตอนใต้อีก ขากลับจากอาริโซนาก็ติดพายุหิมะ ต้องนอนค้างสนามบินที่เมืองดีทรอยต์อีกหนึ่งคืนเต็ม ตอนวันหยุดสปริงเบรกก็บินข้ามฝั่งมาเมืองซานฟรานซิสโกอีก เพื่อมาพบกับเพื่อนโรงเรียนเก่าแล้วขับรถอีกหนึ่งคืนเต็มลงไปเที่ยวทะเลทรายที่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย พอกลับจากทะเลทราย ก็บินไปเยี่ยมรุ่นน้องที่ลาสเวกัส ก่อนกลับมาเรียนที่นิวยอร์กเมื่อโรงเรียนเปิด
การเดินทางยาวๆ หลายเที่ยว อีกประสบกับอุปสรรคความล่าช้าแบบนี้ ทำให้เอือมระอากับการเดินทางไปพักใหญ่ เมื่อจะต้องเดินทางคราใดก็เฝ้าใฝ่ฝันว่าจะถึงที่หมายโดยเร็ว คิดเล่นๆ ว่าอยากหลับตาปิ๊งแล้วถึงที่เลยบ่อยๆ
ที่กล่าวมานี้ยังไม่นับรวมการเดินทางโดยรถทัวร์ไปเยี่ยมเพื่อนโรงเรียนเก่าอีกสามสี่คนที่วอชิงตันดีซี และเพนซิลวาเนีย อีกยังการเดินทางใกล้ๆ หลายครั้งหลายครา
เพื่อนที่มหาวิทยาลัยหาว่าผมไม่ถูกโฉลกกับมหานครนิวยอร์ก
มาเมื่อสองสัปดาห์ที่เพิ่งผ่านมานี้ที่ผมเริ่มรักการเดินทางขึ้นมาจับใจ
สองสัปดาห์ก่อน ผมเดินทางจากซานฟรานซิสโกกลับมานิวยอร์ก เมื่อมาถึงได้หนึ่งคืน ก็นั่งรถทัวร์ไปเยี่ยมเพื่อนที่วอชิงตันดีซี และเข้าร่วมการสัมมนาประจำปีของสมาคมนักเลี้ยงปลาหัวตะกั่วของอเมริกา อยู่ได้สี่คืนเต็มก็กลับมานิวยอร์กเพื่อย้ายบ้านเป็นครั้งที่สามตั้งแต่มาอยู่ ย้ายบ้านเสร็จภายในเวลาหนึ่งวัน แล้วก็ตัดสินใจนั่งรถทัวร์มาเมืองแอมเฮิสต์เพื่อมาเยี่ยมอาจารย์หนุ่มไฟแรงน่านับถือจากสำนักท่าพระจันทร์ ที่เพิ่งรู้จักกันผ่านไซเบอร์สเปซ
ขณะนี้ ผมไม่ได้อยู่นิวยอร์ก แต่อยู่ในหอพักของอาจารย์หนุ่มคนที่ว่า เช้าตรู่วันพรุ่งนี้ ผมจะนั่งรถทัวร์กลับไปนิวยอร์กเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับไปซานฟรานซิสโกอีกครั้ง
ผมตั้งหน้าตั้งตารอการเดินทางในวันพรุ่งนี้ เพราะรู้สึกว่าการเดินทางนั้นสวยงาม
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกถึงได้ถึงความสวยงามของการเดินทาง
ผมใช้เวลาส่วนใหญ่หลังจากถึงจุดหมาย ในการพักผ่อนอยู่กับที่ ไม่ได้ไปท่องเที่ยวที่ไหนไกล ออกจากบ้านพักเพื่อนฝูง ก็เพื่อหาอะไรกิน หรือออกไปตามธุระของเพื่อนบ้างเป็นครั้งคราว
ผมรู้สึกว่าการเดินทางทำให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม อีกยังหยุดเวลาให้ผมได้พูดคุยกับตัวเอง
ขอย้ำว่าผมหมายถึงการเดินทาง นั่นก็คือการขึ้นรถ ลงเรือ นั่งเครื่องบิน ไปรถไฟ มิได้หมายถึงการท่องเที่ยวไปชมสถานที่ต่างๆ ในอีกเทศะหนึ่ง
ผมไม่เคยรู้สึกชอบการเดินทางโดยรถไฟใต้ดินอันแสนสกปรกของเมืองนิวยอร์กเลย แต่มาเวลานี้ล่ะ ที่ผมชอบขึ้นรถไฟใต้ดิน ยิ่งหากต้องลงไปในเมืองไกลๆ ผมก็มักเลือกที่จะขึ้นรถไฟรางปกติ หาใช่รถไฟเที่ยวด่วนที่ข้ามบางสถานีไปเพื่อให้ถึงจุดหมายในเมืองโดยเร็วที่สุด
ผมเพิ่งรู้สึกชอบขึ้นรถทัวร์ ที่แม้จะรู้สึกรุงรัง และวุ่นวาย ต้องนั่งชิดในที่แคบๆ กับคนไม่รู้จัก อีกยังขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้
ผมก็เริ่มชอบนั่งเครื่องบิน แม้ว่าเครื่องบินจะอึดอัดและอุดอู้ไม่ต่างจากรถทัวร์
หากโกวเล้งเปรยว่าเขามิได้ชอบรสชาติของสุรา แต่ชอบบรรยากาศของการร่ำสุรา ก็คงไม่ผิดนักที่ผมจะขอพูดว่าผมไม่ชอบการท่องเที่ยว แต่ชอบบรรยากาศของการเดินทาง (เพื่อไปท่องเที่ยว)
วันก่อนได้นั่งรถไฟใต้ดิน ขณะผมนั่งอยู่ก็ได้เห็นสาวสวยน่าตาจิ้มลิ้มที่เคยแอบมองเมื่อครั้งนั่งรถไฟเมื่อนานมาแล้วบนรถไฟขบวนเดียวกันอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อจะเจอกับคนที่ไม่ได้รู้จักอะไรกันเป็นครั้งที่สองในเมืองใหญ่ๆ เช่นนี้อีก แม้ผมจะไม่ได้ทักทาย แต่ผมก็นั่งยิ้มให้กับความบังเอิญอยู่คนเดียว นอกจากนี้รอยยิ้มเปื้อนใบหน้าก็ดูเหมือนจะไม่หุบลงไปได้ง่าย บนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับผม ทหารเรือหนุ่มก็กำลังพลอดรักอย่างเหนียมอายกับสาวนิวยอร์กเกอร์ ท่วงท่าของเขาและเธอนั้นช่างดูเป็นธรรมชาติ อ่อนไหว และบริสุทธิ์ ความรักของทั้งสองคงเพิ่งเริ่มแย้มผลิเพื่อเบ่งบานให้ชวนชม
อีกวันหนึ่ง ระหว่างรอรถทัวร์เพื่อไปหาเพื่อนที่วอชิงตันดีซี ก็เห็นหนุ่มเม็กซิกัน กำลังกล่าวลากับสาวผมทอง ในมือของเขา เธอมอบรูปถ่ายให้ด้วยความประณีตบรรจง คล้ายหวังว่าจะเป็นตัวแทนของเธอในยามไกลจาก ผมแอบมองอยู่ไกล ทั้งสองดูเหมือนกำลังอยู่ในโลกที่มีแต่เขาและเธอสองคน
ความรักในวัยหนุ่มสาวเป็นเรื่องที่บริสุทธิ์จริงๆ ลุงปราโมทย์ นาครทรรพเคยเอื้อนเอ่ยให้ผมฟัง
อีกครั้งหนึ่งเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนนี้เอง ผมรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงอีกครั้งเมื่อได้เห็นสาวน้อยฝรั่งหน้าใสนั่งรถเที่ยวเดียวกับผมมายังเมืองแอมเฮิสต์ ในรัฐแมสซาชูเซตต์ครั้งนี้ ระหว่างรอรถที่สถานีกลางทางในเวลาใกล้เที่ยงคืน ผมเข้าไปถามเธอด้วยความไม่แน่ใจว่ามาถูกทางแล้ว และก็ได้รู้ว่าผมกับเธอมีจุดหมายปลายทางใกล้กัน
ผมคุยกับเธอไม่มากคำ แต่ก็รู้สึกได้ดีถึงมิตรภาพอันแสนงาม นานๆ จะได้เห็นรอยยิ้มอันหาได้ยากในเมืองที่ผมเพิ่งลาจากมา รอยยิ้มของเธอช่างอ่อนหวานและจริงใจ การคุยกันครั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกว่ามาอยู่เมืองนอกเมืองนาได้เกือบหนึ่งปี ภาษาอังกฤษก็ได้พัฒนาไปบ้างเหมือนกัน (แม้จะชอบกินข้าวไทย) ผมคุยได้รู้เรื่องกับสาวน้อยที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ในสาขาการออกแบบโรงละคร
ก่อนเธอจะลงจากรถหนึ่งป้ายก่อนผม เธอหันมากล่าวลา และอวยพรให้โชคดี
การเดินทางยังทำให้ได้หยุดคิดทบทวนสิ่งที่แล้วมา และวางแผนถึงอนาคตข้างหน้า หากไม่ได้เดินทาง คนไม่ชอบอยู่นิ่งอย่างผมก็คงไม่ได้ทำในสิ่งที่ต้องอยู่นิ่งๆ แบบนี้ได้
ผมชอบอ่านหนังสือ แต่ก็มักรู้สึกว่าไม่มีเวลา ที่ไม่มีเวลาไม่ใช่อะไรอื่นเสีย นอกจากมัวแต่เอาเวลาไปให้กับความสนใจอื่นๆ แต่การเดินทางช่วยขจัดความวอกแวก ผมจึงชอบอ่านหนังสือในระหว่างเดินทาง
ผมมักนึกถามตัวเองว่าทำไมผมถึงเคยรู้สึกว่าการเดินทางเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ ก็คงผมไม่เคยใส่ใจและสนใจในรายละเอียดที่เกิดขึ้นนั่นเอง ระหว่างเดินทาง เรามักตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อที่ให้ถึงหมายโดยเร็ว
หารู้ไม่ว่า ใจนึกมุ่งสู่จุดหมายเช่นนี้ ทำลายบรรยากาศของการเดินทางให้แตกละเอียด
รายละเอียดต่างหากที่น่าสนใจและชื่นชม เปลือกนอกที่เป็นรูปธรรมนั้นเห็นรู้สัมผัสได้ง่ายแต่ก็ไม่ใช่ของจริง ผมได้ยินเสียงนี้แว่วมาใกล้ๆ
พรุ่งนี้ผมจะต้องเดินทางทั้งวัน ผมขอเวลาไปตั้งหน้าตั้งตารอก่อนแล้วกัน
ในความหมายของผม การเดินทาง คือ การออกจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ส่วนการท่องเที่ยว คือ การเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความบันเทิง
หลายคนชอบท่องเที่ยว แต่ไม่ชอบเดินทาง โดยเฉพาะที่ต้องใช้เวลานานๆ อยากเห็นสถานที่ท่องเที่ยวโดยเร็ว ความรู้สึกเช่นนี้ยิ่งทำให้การเดินทางยาวนานขึ้นเป็นทวีคูณ ผมไม่ค่อยเจอใครที่ชอบเดินทาง มากกว่าท่องเที่ยว แม้กระทั่งตัวผมเอง ก็เคยรู้สึกเกลียดการเดินทางขึ้นมาจับใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องนั่งเครื่องบินเป็นเวลานานเกือบหนึ่งวันเต็มจากกรุงเทพฯ มาเรียนต่อที่นิวยอร์ก
การมาอยู่ประเทศอเมริกาอันกว้างใหญ่ครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ได้เดินทาง และท่องเที่ยวหลายครั้งหลายครา ผมจึงได้เดินทางออกจากบ้านพักใกล้โรงเรียนในมหานครนิวยอร์กทางฝั่งตะวันออกเป็นประจำ
มาถึงใหม่ๆ ก็ได้นั่งรถไฟข้ามคืนไปเยี่ยมพี่สาวที่ชิคาโก หลังสอบกลางภาคเรียนแรก ก็ได้นั่งเครื่องบินข้ามฝั่งพอร์ตแลนด์ ในรัฐออรีกอนฝั่งตะวันตก พอปลายปีก็ได้กลับเมืองไทยเพื่อไปเยี่ยมคุณยายสุดที่รักที่ตั้งหน้าตั้งรออยู่ที่บ้าน เที่ยวบินกลับบ้านล่าช้าไปกว่ากำหนดกว่า 10 ชั่วโมงเพราะเครื่องขัดข้อง ประตูปิดได้ไม่สนิท ต้องจอดแก้อยู่ที่สนามบินในเมืองอลาสก้ามืดๆ อยู่หลายชั่วโมง
พอเปิดภาคเรียนที่สองก็นั่งเครื่องบินกลับอเมริกาโดยแวะอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ก่อนนั่งเครื่องบินตรงกลับมานิวยอร์ก เปิดเทอมได้สักพัก ก็ได้เดินทางไปสัมมนาของมูลนิธิฟุลไบรท์ที่รัฐอาริโซน่าฝั่งตะวันตกทางตอนใต้อีก ขากลับจากอาริโซนาก็ติดพายุหิมะ ต้องนอนค้างสนามบินที่เมืองดีทรอยต์อีกหนึ่งคืนเต็ม ตอนวันหยุดสปริงเบรกก็บินข้ามฝั่งมาเมืองซานฟรานซิสโกอีก เพื่อมาพบกับเพื่อนโรงเรียนเก่าแล้วขับรถอีกหนึ่งคืนเต็มลงไปเที่ยวทะเลทรายที่ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย พอกลับจากทะเลทราย ก็บินไปเยี่ยมรุ่นน้องที่ลาสเวกัส ก่อนกลับมาเรียนที่นิวยอร์กเมื่อโรงเรียนเปิด
การเดินทางยาวๆ หลายเที่ยว อีกประสบกับอุปสรรคความล่าช้าแบบนี้ ทำให้เอือมระอากับการเดินทางไปพักใหญ่ เมื่อจะต้องเดินทางคราใดก็เฝ้าใฝ่ฝันว่าจะถึงที่หมายโดยเร็ว คิดเล่นๆ ว่าอยากหลับตาปิ๊งแล้วถึงที่เลยบ่อยๆ
ที่กล่าวมานี้ยังไม่นับรวมการเดินทางโดยรถทัวร์ไปเยี่ยมเพื่อนโรงเรียนเก่าอีกสามสี่คนที่วอชิงตันดีซี และเพนซิลวาเนีย อีกยังการเดินทางใกล้ๆ หลายครั้งหลายครา
เพื่อนที่มหาวิทยาลัยหาว่าผมไม่ถูกโฉลกกับมหานครนิวยอร์ก
มาเมื่อสองสัปดาห์ที่เพิ่งผ่านมานี้ที่ผมเริ่มรักการเดินทางขึ้นมาจับใจ
สองสัปดาห์ก่อน ผมเดินทางจากซานฟรานซิสโกกลับมานิวยอร์ก เมื่อมาถึงได้หนึ่งคืน ก็นั่งรถทัวร์ไปเยี่ยมเพื่อนที่วอชิงตันดีซี และเข้าร่วมการสัมมนาประจำปีของสมาคมนักเลี้ยงปลาหัวตะกั่วของอเมริกา อยู่ได้สี่คืนเต็มก็กลับมานิวยอร์กเพื่อย้ายบ้านเป็นครั้งที่สามตั้งแต่มาอยู่ ย้ายบ้านเสร็จภายในเวลาหนึ่งวัน แล้วก็ตัดสินใจนั่งรถทัวร์มาเมืองแอมเฮิสต์เพื่อมาเยี่ยมอาจารย์หนุ่มไฟแรงน่านับถือจากสำนักท่าพระจันทร์ ที่เพิ่งรู้จักกันผ่านไซเบอร์สเปซ
ขณะนี้ ผมไม่ได้อยู่นิวยอร์ก แต่อยู่ในหอพักของอาจารย์หนุ่มคนที่ว่า เช้าตรู่วันพรุ่งนี้ ผมจะนั่งรถทัวร์กลับไปนิวยอร์กเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับไปซานฟรานซิสโกอีกครั้ง
ผมตั้งหน้าตั้งตารอการเดินทางในวันพรุ่งนี้ เพราะรู้สึกว่าการเดินทางนั้นสวยงาม
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกถึงได้ถึงความสวยงามของการเดินทาง
ผมใช้เวลาส่วนใหญ่หลังจากถึงจุดหมาย ในการพักผ่อนอยู่กับที่ ไม่ได้ไปท่องเที่ยวที่ไหนไกล ออกจากบ้านพักเพื่อนฝูง ก็เพื่อหาอะไรกิน หรือออกไปตามธุระของเพื่อนบ้างเป็นครั้งคราว
ผมรู้สึกว่าการเดินทางทำให้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม อีกยังหยุดเวลาให้ผมได้พูดคุยกับตัวเอง
ขอย้ำว่าผมหมายถึงการเดินทาง นั่นก็คือการขึ้นรถ ลงเรือ นั่งเครื่องบิน ไปรถไฟ มิได้หมายถึงการท่องเที่ยวไปชมสถานที่ต่างๆ ในอีกเทศะหนึ่ง
ผมไม่เคยรู้สึกชอบการเดินทางโดยรถไฟใต้ดินอันแสนสกปรกของเมืองนิวยอร์กเลย แต่มาเวลานี้ล่ะ ที่ผมชอบขึ้นรถไฟใต้ดิน ยิ่งหากต้องลงไปในเมืองไกลๆ ผมก็มักเลือกที่จะขึ้นรถไฟรางปกติ หาใช่รถไฟเที่ยวด่วนที่ข้ามบางสถานีไปเพื่อให้ถึงจุดหมายในเมืองโดยเร็วที่สุด
ผมเพิ่งรู้สึกชอบขึ้นรถทัวร์ ที่แม้จะรู้สึกรุงรัง และวุ่นวาย ต้องนั่งชิดในที่แคบๆ กับคนไม่รู้จัก อีกยังขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้
ผมก็เริ่มชอบนั่งเครื่องบิน แม้ว่าเครื่องบินจะอึดอัดและอุดอู้ไม่ต่างจากรถทัวร์
หากโกวเล้งเปรยว่าเขามิได้ชอบรสชาติของสุรา แต่ชอบบรรยากาศของการร่ำสุรา ก็คงไม่ผิดนักที่ผมจะขอพูดว่าผมไม่ชอบการท่องเที่ยว แต่ชอบบรรยากาศของการเดินทาง (เพื่อไปท่องเที่ยว)
วันก่อนได้นั่งรถไฟใต้ดิน ขณะผมนั่งอยู่ก็ได้เห็นสาวสวยน่าตาจิ้มลิ้มที่เคยแอบมองเมื่อครั้งนั่งรถไฟเมื่อนานมาแล้วบนรถไฟขบวนเดียวกันอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อจะเจอกับคนที่ไม่ได้รู้จักอะไรกันเป็นครั้งที่สองในเมืองใหญ่ๆ เช่นนี้อีก แม้ผมจะไม่ได้ทักทาย แต่ผมก็นั่งยิ้มให้กับความบังเอิญอยู่คนเดียว นอกจากนี้รอยยิ้มเปื้อนใบหน้าก็ดูเหมือนจะไม่หุบลงไปได้ง่าย บนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับผม ทหารเรือหนุ่มก็กำลังพลอดรักอย่างเหนียมอายกับสาวนิวยอร์กเกอร์ ท่วงท่าของเขาและเธอนั้นช่างดูเป็นธรรมชาติ อ่อนไหว และบริสุทธิ์ ความรักของทั้งสองคงเพิ่งเริ่มแย้มผลิเพื่อเบ่งบานให้ชวนชม
อีกวันหนึ่ง ระหว่างรอรถทัวร์เพื่อไปหาเพื่อนที่วอชิงตันดีซี ก็เห็นหนุ่มเม็กซิกัน กำลังกล่าวลากับสาวผมทอง ในมือของเขา เธอมอบรูปถ่ายให้ด้วยความประณีตบรรจง คล้ายหวังว่าจะเป็นตัวแทนของเธอในยามไกลจาก ผมแอบมองอยู่ไกล ทั้งสองดูเหมือนกำลังอยู่ในโลกที่มีแต่เขาและเธอสองคน
ความรักในวัยหนุ่มสาวเป็นเรื่องที่บริสุทธิ์จริงๆ ลุงปราโมทย์ นาครทรรพเคยเอื้อนเอ่ยให้ผมฟัง
อีกครั้งหนึ่งเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนนี้เอง ผมรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงอีกครั้งเมื่อได้เห็นสาวน้อยฝรั่งหน้าใสนั่งรถเที่ยวเดียวกับผมมายังเมืองแอมเฮิสต์ ในรัฐแมสซาชูเซตต์ครั้งนี้ ระหว่างรอรถที่สถานีกลางทางในเวลาใกล้เที่ยงคืน ผมเข้าไปถามเธอด้วยความไม่แน่ใจว่ามาถูกทางแล้ว และก็ได้รู้ว่าผมกับเธอมีจุดหมายปลายทางใกล้กัน
ผมคุยกับเธอไม่มากคำ แต่ก็รู้สึกได้ดีถึงมิตรภาพอันแสนงาม นานๆ จะได้เห็นรอยยิ้มอันหาได้ยากในเมืองที่ผมเพิ่งลาจากมา รอยยิ้มของเธอช่างอ่อนหวานและจริงใจ การคุยกันครั้งนี้ทำให้ผมรู้สึกว่ามาอยู่เมืองนอกเมืองนาได้เกือบหนึ่งปี ภาษาอังกฤษก็ได้พัฒนาไปบ้างเหมือนกัน (แม้จะชอบกินข้าวไทย) ผมคุยได้รู้เรื่องกับสาวน้อยที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ในสาขาการออกแบบโรงละคร
ก่อนเธอจะลงจากรถหนึ่งป้ายก่อนผม เธอหันมากล่าวลา และอวยพรให้โชคดี
การเดินทางยังทำให้ได้หยุดคิดทบทวนสิ่งที่แล้วมา และวางแผนถึงอนาคตข้างหน้า หากไม่ได้เดินทาง คนไม่ชอบอยู่นิ่งอย่างผมก็คงไม่ได้ทำในสิ่งที่ต้องอยู่นิ่งๆ แบบนี้ได้
ผมชอบอ่านหนังสือ แต่ก็มักรู้สึกว่าไม่มีเวลา ที่ไม่มีเวลาไม่ใช่อะไรอื่นเสีย นอกจากมัวแต่เอาเวลาไปให้กับความสนใจอื่นๆ แต่การเดินทางช่วยขจัดความวอกแวก ผมจึงชอบอ่านหนังสือในระหว่างเดินทาง
ผมมักนึกถามตัวเองว่าทำไมผมถึงเคยรู้สึกว่าการเดินทางเป็นสิ่งที่น่าเบื่อ ก็คงผมไม่เคยใส่ใจและสนใจในรายละเอียดที่เกิดขึ้นนั่นเอง ระหว่างเดินทาง เรามักตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อที่ให้ถึงหมายโดยเร็ว
หารู้ไม่ว่า ใจนึกมุ่งสู่จุดหมายเช่นนี้ ทำลายบรรยากาศของการเดินทางให้แตกละเอียด
รายละเอียดต่างหากที่น่าสนใจและชื่นชม เปลือกนอกที่เป็นรูปธรรมนั้นเห็นรู้สัมผัสได้ง่ายแต่ก็ไม่ใช่ของจริง ผมได้ยินเสียงนี้แว่วมาใกล้ๆ
พรุ่งนี้ผมจะต้องเดินทางทั้งวัน ผมขอเวลาไปตั้งหน้าตั้งตารอก่อนแล้วกัน