xs
xsm
sm
md
lg

ได้โปรด...อย่าทำร้ายหนู

เผยแพร่:   โดย: นินจา ราตรี

เมื่อวาน ขณะเดินซื้อของในย่านไทยทาวน์ ซิดนีย์ ผมเจอกับสมชาย เพื่อนเก่าสมัยเพิ่งเดินทางมาถึงดินแดนจิงโจ้ใหม่ๆ หน้าตาเขาดูเคร่งเครียดผิดกับคนเดิมที่ผมเคยรู้จัก

หลังจากพูดคุยทักทายกัน จึงรู้มูลเหตุอันทำให้เขาต้องขมวดคิ้วอยู่ในขณะนี้

เขาเล่าว่า ลูกสาววัยเจ็ดขวบเศษโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจว่าถูกพ่อแม่ทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน ไม่มีคนคอยดูแล

เพียงแค่นี้ละครับ ตำรวจออสซี่วิ่งแจ้นบุกมาบ้านของสมชายพร้อมนักสังคมสงเคราะห์ พูดคุยซักถามลูกสาวเขาเป็นการใหญ่ ว่าโดนพ่อแม่ทิ้งให้อยู่คนเดียวในบ้านบ่อยแค่ไหน เคยถูกตีไหม ฯลฯ

ลูกสาวแสนดี ตอบตามประสาเด็กว่า

เธอถูกตีบ่อย เพราะซน !

พ่อแม่ชอบทิ้งให้เธออยู่คนเดียว...เธอเหงา...เธอกลัว

คุณครูที่โรงเรียนสอนว่า ถ้าพ่อแม่ปล่อยให้อยู่คนเดียว ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ดูแล ให้โทรศัพท์หาตำรวจทันที เธอเลยทำตาม


โทรศัพท์ของลูกสาวครั้งนี้ ส่งผลให้สมชายถูกตั้งข้อสงสัยว่า

กระทำทารุณกรรมต่อเด็ก (Child Abuse)

กรณีเช่นนี้ เกิดขึ้นไม่จำเพาะกับคนไทย ซึ่งมีวัฒนธรรมการเลี้ยงดูเด็กแตกต่างจากคนออสเตรเลียนะครับ คนออสซี่เองก็ถูกตั้งข้อหานี้อยู่เป็นประจำทุกวัน

อย่างเมื่อเดือนก่อน มีรายงานข่าวในรายการโทรทัศน์ว่า คุณแม่ชาวออสซี่คนหนึ่งถูกพนักงานและลูกค้าของห้างซุปเปอร์มาร์เกตโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจให้มาจับโทษฐาน...

เฆี่ยนตีลูกด้วยอารมณ์โกรธอย่างรุนแรง กลางที่สาธารณะชน

เหตุที่ออสเตรเลียให้ความสำคัญกับปัญหา Child Abuse หรือ การกระทำทารุณกรรมต่อเด็กมาก เนื่องเพราะเขาคำนึงว่า เด็กที่ถูกทำร้ายทารุณกรรม เมื่อเติบใหญ่จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่บกพร่อง

บางคนมีปัญหาทางอารมณ์ รู้สึกขาดรัก ขาดความอบอุ่น ขาดการไว้เนื้อเชื่อใจในเพื่อนมนุษย์

บางคนมีปัญหาทางด้านสุขภาพ ร่างกาย อันเนื่องมาจากการถูกทำร้ายในวัยเด็ก

บางคนมีปัญหาทางพฤติกรรม กลายเป็นคนต่อต้านทางสังคม ชอบใช้ความรุนแรง

อันจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมาในอนาคต

หน่วยงานรัฐบาล อย่าง Australian Institute of Health and Welfare ระบุว่า การกระทำทารุณกรรมต่อเด็กในประเทศออสเตรเลีย นับวันจะกลายเป็นปัญหาสังคมระดับชาติที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อปี 2002-2003 หน่วยงานนี้ได้รับรายงานเกี่ยวกับการกระทำทารุณกรรมต่อเด็กถึง 200,000 ราย ในจำนวนนี้พิสูจน์แน่ชัดแล้วว่ามีเด็กถูกทำร้ายจริงถึง 40,000 ราย

นี่เฉพาะที่ได้รับรายงานนะครับ เด็กที่ถูกทำร้ายทารุณกรรมแล้วไม่ได้มีในรายงาน แจ้งความ ดำเนินคดียังมีอีกมาก

กล่าวได้ว่าในจำนวนเด็กหญิงชาวออสซี่ทุก 4 คนจะมีเด็ก ถูกทำร้ายทารุณกรรม 1 คน

และในเด็กชายทุก 8 คนจะมีผู้ถูกทำร้ายทารุณกรรมอยู่ 1 คน

และที่น่าตกใจคือ ผู้ทำร้ายเด็กถึงร้อยละ 63 คือ

พ่อแม่บังเกิดเกล้าของเด็กนั่นเอง !


ในดินแดนดาวน์อันเดอร์ คำว่า Child Abuse หรือ การกระทำทารุณกรรมต่อเด็ก มีความหมายค่อนข้างกว้างครับ

คำนี้ ครอบคลุมทั้งการกระทำ หรือการละเว้นการกระทำใดๆของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง สถาบันองค์กรใดองค์หนึ่ง หรือแม้แต่กระบวนการการกระทำใดๆที่ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมในการทำร้ายเด็ก

ทั้งนี้เขาได้แบ่งประเภทของการกระทำทารุณกรรมต่อเด็กออกเป็นหมวดหมู่ย่อยๆได้แก่

1. การทารุณกรรมทางด้านร่างกาย

อันนี้ชัดเจนครับ หมายถึงการตบ ตี ทำร้ายร่างกายเด็ก แม้ว่าหลายครั้งพ่อแม่ผู้ปกครองจะอ้างว่าใช้เพื่อสั่งสอนให้เด็กมีวินัยก็ตามเถอะ

เรื่องนี้นักวิจัยต่างชาติเขาทำวิจัยจนรู้แจ้งแทงตลอดแล้วว่า การตีลูกหลานเพื่อสั่งสอนนั้น ไม่ช่วยให้เด็กปรับเปลี่ยนนิสัยหรอกนะครับ

เพราะเด็กส่วนใหญ่ที่ถูกทำร้ายร่างกายเพื่อการลงโทษนั้น เขาคิดว่าได้จ่ายค่าชดเชยการกระทำความผิดของเขาไปแล้วด้วยการถูกทำโทษด้วยความรุนแรง เลยไม่รู้สึกว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอุปนิสัยใดๆ

อีกทั้งเด็กยังจะมีทัศนคติว่า การใช้ความรุนแรงนั้นเป็นสิ่งปกติธรรมดา !

แต่นั่นละครับ สำหรับคนไทยเราแล้ว สุภาษิตว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” ยังคงเป็นหลักประจำใจ หลายคนจึงเลือกใช้วิธีการเฆี่ยนตี อบรมลูกหลาน

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณๆ ผู้ปกครองจะลงไม้ลงมือกับลูกหลาน เซียนจอมดื้อนั้น ขอให้ฉุกคิดสักนิดว่า

คุณชอบไหมที่คนอื่นจะทำโทษ ด้วยวิธีรุนแรงกับคุณเช่นนี้

คุณมั่นใจหรือว่าวิธีลงโทษของคุณเช่นนี้จะทำให้เด็กเปลี่ยนนิสัยพฤติกรรม

2. การทารุณกรรมทางอารมณ์ความรู้สึก

ผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อย นิยมการใช้วาจาด่าทอ ดุตะคอก ตวาด เย้ยเยาะ เหยียดหยามลูกหลานของตนเอง

เชื่อไหมครับว่า การกระทำดังกล่าวไม่ช่วยให้เด็กปรับเปลี่ยนนิสัยหรอกครับ

ตรงกันข้าม มันจะเป็นตราบาปในหัวใจบริสุทธิ์ของพวกเขาต่างหาก

3. การเพิกเฉย ละเลย เด็ก

ประเด็นนี้ ครอบคลุมถึงการขาดความสนใจ ใยดี ปล่อยปละละเลยเด็กจนเกิดอันตราย รวมถึงเรื่องขาดการเตรียมการพื้นฐานสำหรับเด็ก อาทิ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม อาหารการกิน หยูกยา รวมถึงเรื่องการศึกษา

4. การทำร้ายทารุณกรรมทางเพศ

เด็กจำนวนไม่น้อยต้องกลายเป็นเหยื่อสังเวยตัณหา ความใคร่ของผู้ปกครอง และคนใกล้ชิด

เหล่านี้เป็นประเด็นปัญหาใหญ่ของคนออสซี่ในปัจจุบัน พวกเขาตระหนักว่ามันไม่ได้เป็นเพียงปัญหาเฉพาะบุคคล หรือเฉพาะครอบครัวเท่านั้น

หากแต่มันเป็นปัญหาระดับชาติที่ต้องเร่งแก้ไข

แล้วเมืองไทยเราละครับ

ข่าวฆ่าข่มขืนเด็ก การทุบตีทำร้ายเด็ก การทอด่าเด็ก ฯลฯ เป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้เป็นประจำในชีวิตประจำวัน

ไม่คิดว่ามันเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขหรือ
กำลังโหลดความคิดเห็น