xs
xsm
sm
md
lg

สาวเอย...จะบอกให้

เผยแพร่:   โดย: นินจา ราตรี

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ขณะที่คุณระเบียบรัตน์แห่งสยามประเทศกำลังโวยวายว่าประเพณีเก่าแก่ของชาวล้านนาล้าหลัง ไม่เป็นอารยะ และละเมิด “สิทธิสตรี” อยู่นั้น

ในดินแดนดาวน์อันเดอร์ ออสเตรเลีย กำลังมีโครงการรณรงค์ด้านสิทธิสตรีระดับชาติชื่อ

Violence Against Women – Australia Says No

อันเป็นโครงการต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง

โปรเจกต์นี้รัฐบาลของนาย John Howard ทุ่มงบประมาณมหาศาลโหมโฆษณาทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ นิตยสาร อีกทั้งยังพิมพ์หนังสือคู่มือแจกจ่ายทุกบ้านพักอาศัย

นัยว่า งานนี้รัฐบาลเฮาเวิร์ดหวังเรียกคะแนนเสียงจากกลุ่มผู้หญิงในการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึง !

หลังจากทุ่มงบประมาณแบบ “ประชานิยม” แจกเงินโบนัสให้กับคุณแม่ที่คลอดลูกตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมปีนี้ คนละ 3,000 เหรียญ หรือประมาณ 87,000 บาท

พร้อมทั้งปรับระบบรักษาพยาบาล หรือที่เรียกกันว่า “Medicare” เอาใจคนออสซี่มากขึ้น

ไม่ว่าโครงการรณรงค์นี้จะเป็นโปรเจกต์หาเสียงหรือไม่ก็ตาม แต่นินจา ราตรีคิดว่า เนื้อหา รายละเอียด และเป้าหมายของโครงการนี้น่าหยิบยกมาขบคิด พูดคุย และบอกต่อ

ทั้งนี้เพราะการคุกคามทางเพศ หรือการใช้ความรุนแรงต่ออิสตรี นับวันจะทวีความรุนแรงและแพร่ขยายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสังคมออสเตรเลียหรือแม้แต่ในเมืองไทยของเราก็ตาม

เชื่อไหมครับว่า ความรุนแรง และการถูกกดขี่ คุกคามทางเพศนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากคนไกลตัวเลย

ส่วนใหญ่ความรุนแรงต่อเพศหญิงมักเกิดขึ้นในสถาบันครอบครัว

เกิดขึ้นจากบุคคลใกล้ชิด

จากสามี...หรือจากคู่รัก...


พูดถึงตรงนี้ หลายคนอาจนึกเถียงว่า “ผัวเมียทะเลาะ ตบตีกัน ไม่เห็นเป็นไรเลย เดี๋ยวเดียวเขาก็คืนดีกันแล้ว”

บางคนทะเล้นหน่อยอาจเปรียบเปรยว่า “ผัวเมียเขาทะเลาะกันในแนวตั้ง แต่ตกดึกจะคืนดีในแนวนอน”

ครับ ด้วยทัศนคติเช่นนี้ ทำให้เรา ๆ ท่าน ๆ มักวางเฉยเมื่อเห็น หรือรับทราบการใช้ความรุนแรงในครอบครัว

ดังนั้น การตบเมีย ซ้อมเมีย สำหรับคนไทยจำนวนไม่น้อยจึงกลายเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องภายในครอบครัว ชนิดที่ว่าขึ้นโรงขึ้นศาลก็ถือเป็นเรื่องยอมความกันได้

แต่สำหรับดินแดนจิงโจ้ การกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นอาชญากรรม !

เนื่องเพราะเขาตระหนักว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงย่อมส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อลูก ต่อสมาชิกในครอบครัว และต่อสังคมในอนาคต

หญิงผู้เป็นแม่ เป็นแกนหลักของสถาบันครอบครัวย่อมไม่สามารถบ่มเพาะ เลี้ยงดูบุตรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากเธอยังอยู่ในสภาวะของความหวาดวิตก เจ็บปวด ทรมานทั้งทางกายและจิตใจ

แล้วจะรู้ได้อย่างไรละครับว่า คู่รักของคุณมีแนวโน้มจะเป็นพวกมือเท้าหนัก เป็นพวกเจ้าอารมณ์ ชอบใช้กำลังกับผู้หญิง

ในเอกสารรณรงค์ของโครงการ Violence Against Women – Australia Says No ระบุว่า สัญญาณอันตรายที่คุณผู้หญิงควรสังเกตคือ

1. การแสดงความเป็นเจ้าของ

คนประเภทนี้มักจะตรวจเช็คอยู่ตลอดเวลาว่า ฝ่ายหญิงทำอะไร กับใครที่ไหน พยายามบังคับคู่รักว่า ควรไปไหน ใครที่เธอควรคบ ควรพูดจา

อันนี้ เป็นคนละประเภทกับการห่วงหาอาทรนะครับ ประเภทนี้เกินขอบเขตของความห่วงใยไปแล้ว คนพวกนี้ มักจะหึง หวง แสดงความเป็นเจ้าของอย่างบ้าคลั่ง

2. อิจฉาริษยา

คนพวกนี้มักจะอิจฉาริษยาความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักของเขากับบุคคลอื่น โดยมักจะกล่าวหาฝ่ายหญิงว่า ชอบให้ท่าชายอื่น หรือกล่าวหาว่าเป็นชู้โดยไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมรองรับ และมักจะแยกคู่รักออกจากครอบครัวและกลุ่มเพื่อนๆของเธอโดยแสดงกริยาท่าทางหยาบคายกับพวกเขา

3. ดูถูกเหยียดหยาม

ชายกลุ่มนี้มักจะทำให้คู่รักของเขาอับอายทั้งต่อหน้าและลับหลัง หยามเหยียดในที่สาธารณะโดยไม่แคร์ความรู้สึกของฝ่ายหญิง ส่วนใหญ่มักจะด่าทอเย้ยหยัน เรื่องสติปัญญา ความสามารถ เรื่องหน้าตา รูปร่าง และมักจะกล่าวหาว่าฝ่ายหญิงคือตัวเจ้าปัญหา

4.การขู่เข็ญ คุกคาม

คนประเภทนี้มักจะชอบตะคอก ตวาด ขู่เข็ญ ด่าทอคู่รักของเขาอย่างรุนแรง บางครั้งก็ใช้กำลังคุกคามคู่รัก รวมไปถึงครอบครัว เพื่อนฝูง แม้กระทั่งกับสัตว์เลี้ยงของเธอ

ครับ ถ้าแฟนหรือคู่รักของคุณมีการแสดงออกเช่นที่กล่าวมา แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม คุณเตรียมตัวชิ่งจากเขาได้แล้วละครับ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะกลายเป็นกระสอบทรายให้เขาซ้อมเช้าซ้อมเย็น

และถ้าคู่ของคุณเคยใช้ความรุนแรงกับคุณมาแล้ว อย่าปล่อยทิ้งเฉยไว้นะครับ แม้ว่าเขาจะกล่าวคำขอโทษคุณแล้ว หรือให้เหตุผลว่าเขากำลังเครียด หรืออ้างว่าคุณยั่วให้เขาโกรธก่อนก็ตาม

ทั้งนี้เพราะความรุนแรงเช่นนั้นสามารถเกิดซ้ำขึ้นอีก !

ทางออกคือ ปรึกษากับพ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อนฝูงที่สนิทสนม ขอความช่วยเหลือโดยด่วน อย่าปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้ผ่านเลยไป

ในเอกสารรณรงค์เล่มเล็กๆนี้ ยังมีประเด็นที่น่าสนใจคือ การระบุว่า บุคคลที่สามารถลดทอนปัญหาการใช้ความรุนแรงต่อเพศหญิงคือ

พ่อ...แม่...

นั่นคือ การเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกได้เรียนรู้ และตระหนักถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์ของบุคคลอื่น รวมถึงการไม่ใช้ความรุนแรงแก้ไขปัญหา

ขณะเดียวกันพ่อแม่ควรจะพูดคุย สื่อสารกับลูกสาวให้ตระหนักถึงโทษภัยแห่งความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งเปิดกว้าง รับฟังและร่วมหาทางออก เมื่อลูกสาวต้องเผชิญกับความโหดร้ายเช่นนี้

ขณะเดียวกันก็ต้องพูดคุย สื่อสารกับลูกชายให้เคารพ ตระหนักในศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ของผู้หญิง

อย่าให้เขาคิดว่าแรงขับทางเพศ หรือความรุนแรงที่กระทำต่อเพศหญิงเป็นเรื่องธรรมดา สามัญ

หรือเห็นว่าเป็นแค่เรื่อง “สนุก”

มาร่วมหยุดความรุนแรงกันเถอะครับ !


ห้องให้นม – ติดค้างมาตั้งแต่คราวก่อน ว่าด้วยภาพห้องให้นมแม่แก่ลูก .... ภาพแรก เป็นบรรยากาศห้องให้นมที่ สะอาด ถูกสุขอนามัย มีห้องซอยย่อยให้คุณแม่ลูกอ่อนให้นมได้อย่างไม่เคอะเขิน ....ส่วนภาพที่สอง จะเห็นว่าในห้องให้นม มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพียบพร้อม ทั้งเตาไมโครเวฟ อ่างน้ำร้อน น้ำเย็น และห้องน้ำ
กำลังโหลดความคิดเห็น