แม็กซ์โทร เอส800 รถซีดานหรู ราคาตั้งแต่ 708,000 หยวน (ราว 3 ล้าน 1 แสนบาท) ถึง 1 ล้านหยวน ( ราว 4 ล้าน 4 แสนบาท ) มียอดส่งมอบบนจีนแผ่นดินใหญ่ 2,145 คันในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มากกว่ายอดขายปอร์เช่ พานาเมรา และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 7 รวมกัน ตามรายงานของอีซีซี อินเทลลิเจนซ์ บริษัทผู้ให้บริการข้อมูล
แม็กซ์โทร เอส800 เปิดตัวเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม โดยนำเสนอทั้งรุ่นไฟฟ้าล้วนหรือBEV และรุ่นEREV แก่ลูกค้าในจีนแผ่นดินใหญ่ ร่วมกันพัฒนาโดยบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีส์กับกลุ่มบริษัทเจเอซี ( JAC Group) ซึ่งเป็นกิจการของรัฐ ปัจจุบันเป็นรถยนต์ขายดีที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่ในกลุ่มราคา 700,000 หยวน ( ราว 3 ล้าน ) ขึ้นไป โดยครองอันดับหนึ่งติดต่อกันสามเดือนนับตั้งแต่เดือนกันยายน ซึ่งมียอดส่งมอบรายเดือนสูงถึง 1,900 คัน และยอดส่งมอบยังคงทรงตัวในเดือนตุลาคม
ยอดขายที่แซงหน้าทำให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ( EV ) สัญชาติจีนผงาดสู่จุดสูงสุดของกลุ่มรถยนต์หรูในตลาดแดนมังกร จากเดิมที่เคยผูกขาดโดยแบรนด์ต่างชาติ ซึ่งผลิตรถยนต์ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันเป็นหลัก
ขณะที่ในเดือนพฤศจิกายน ปอร์เช่ พานาเมรามียอดขาย 1,200 คัน และบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 มียอดส่งมอบ 928 คัน
เทียน เหมาเว่ย ผู้จัดการฝ่ายขายของ Yiyou Auto Service ในเซี่ยงไฮ้ชี้ว่า ยอดขายที่น่าพอใจของแม็กซ์โทร เอส800 อาจช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ผลิตรถยนต์จีนในการสร้างEVที่มีราคาแพงขึ้น แข่งกับแบรนด์ระดับโลกอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์และบีเอ็มดับเบิลยู อย่างไรก็ตาม รถหรูระดับ super luxury ที่ผลิตในจีนยังคงต้องพิสูจน์คุณภาพและความยั่งยืนในอีกหลายปีข้างหน้า
ก่อนการมาถึงของแม็กซ์โทร เอส800 ผู้ผลิตEV จีนตั้งแต่บีวายดี ไปจนถึงลีปมอเตอร์ ตีแบรนด์ต่างชาติกระจุยในกลุ่มตลาดผู้บริโภคหลัก ซึ่งมองหารถยนต์อัจฉริยะที่มีราคาต่ำกว่า 150,000 หยวน ( ราว 6 แสน 6 หมื่นบาท)
แบรนด์ดังระดับโลกอย่างโฟล์คสวาเกนหรือเจเนอรัลมอเตอร์สต้องสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้แก่คู่แข่งจีนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการพัฒนาEVล่าช้า โดยในปัจจุบันราวร้อยละ 60 ของรถยนต์ใหม่ที่จำหน่ายในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นEVแบบใช้แบตเตอรีหรือแบบปลั๊กอินไฮบริด ตามข้อมูลของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน
พอล กง หัวหน้าฝ่ายวิจัยยานยนต์จีนของธนาคารสวิสคาดการณ์เมื่อปลายปี 2567ว่า ความต้องการรถยนต์แบรนด์ต่างชาติที่ลดลงจะนำไปสู่กำลังการผลิตส่วนเกินถึง 10 ล้านคัน อย่างไรก็ตาม แบรนด์ต่างชาติจะยังคงสามารถแข่งขันได้ในตลาดระดับพรีเมียม เนื่องจากความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยีและชื่อเสียงของแบรนด์
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์


