จีนยอมผ่อนปรนการส่งออกแร่ธาตุหายาก ส่งผลให้การส่งออกแม่เหล็กถาวรไปยังสหภาพยุโรป ( อียู ) ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
ตามรายงานของสำนักงานศุลกากรแห่งจีน ปริมาณการส่งออกไปอียูในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 59.5 % เป็น 2,568.8 ตัน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 และเพิ่มขึ้น 24.7 % เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม
ขณะที่มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 60.3 % เป็น 106 ล้าน 8 แสน 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567
การเพิ่มการส่งออกเกิดขึ้น หลังจากรัฐบาลจีนได้เริ่มออกใบอนุญาตทั่วไปชุดแรกเพื่อให้สามารถส่งออกแร่ธาตุหายากสำคัญและผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุหายากได้หลายครั้งภายในช่วงเวลาที่กำหนด โดยแม่เหล็กถาวรนั้นมีส่วนผสมของแร่ธาตุหายาก ซึ่งมีมูลค่าสูงและเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ไฮเทคจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาไม่ได้เพิ่มขึ้นในลักษณะเดียวกัน แต่ลดลง 8.84%
ในขณะที่การส่งออกทั่วโลกโดยรวมเพิ่มขึ้น 28.29%
แร่ธาตุหายากเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการผลิตสิ่งของเครื่องใช้ ซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน และยานอวกาศ
จีนมีสถานะผูกขาดเกือบสมบูรณ์ในการจัดหาและแปรรูปธาตุหายากในโลก โดยในส่วนของแม่เหล็กถาวรนั้นจีนควบคุมการผลิตมากถึง 90% ตามรายงานการวิจัยของธนาคารเพื่อการลงทุนมอร์แกน สแตนลีย์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ซึ่งยังเรียกห่วงโซ่อุปทานในส่วนของแม่เหล็กถาวรนี้ว่า "ยากที่สุด" ที่จะลอกเลียนแบบ เนื่องจากต้องใช้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคสูง
บริษัทวิจัยเกฟคาล ดราโกโนมิกส์ระบุในบันทึกเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กังวลว่าการจำกัดการส่งออกแร่ธาตุหายากของจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่เปราะบางของสหรัฐฯ โดยมีหลักฐานชี้ชัดมากขึ้นทุกทีว่า ทรัมป์ต้องการเปลี่ยนจากการเผชิญหน้ากับจีนไปสู่การปรองดองและการทำสงครามการค้าที่กำลังจะพ่ายแพ้จะส่งผลเสียกับทรัมป์ในการเลือกตั้งกลางเทอมปี 2569
เกฟคาล ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า แม้มาตรการของสหรัฐฯในการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงให้แก่จีน "จะทำให้จีนสร้างอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศได้ยากขึ้น" แต่ก็ไม่ได้ช่วยสหรัฐฯ มากนักในการแข่งขันกับปักกิ่งเพื่อความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์


