ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของบริษัท Kemin Resource Group ถูกคีร์กีซสถานจับกุมตัว หลังจากกิจการเหมืองทองคำของบริษัทถูกกล่าวหาว่าทำลายสิ่งแวดล้อม “เป็นวงกว้าง” ในประเทศเอเชียกลางแห่งนี้
ตามการแถลงของหน่วยงานความมั่นคงคีร์กีซสถานคีร์เมื่อวันอังคาร ( 25 พ.ย.) ซีอีโอชาวจีนผู้นี้ถูกจับกุมตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ( 20 พ.ย.) เขาเป็นผู้บริหารเหมืองทองคำ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่หลายพันตารางเมตร และให้ข้อมูลเท็จแก่เจ้าหน้าที่
การขุดเหมืองทองคำของบริษัทดังกล่าวและอิทธิพลของรัฐบาลจีนกำลังถูกสาธารณชนตรวจสอบอยู่ในขณะนี้ โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ทุ่มเงินลงทุนจำนวนหลายร้อยล้านดอลลาร์ในคีร์กีซสถานชาติเพื่อนบ้านสำหรับโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมหึมาและการขยายการทำเหมืองแร่เพื่อขุดแร่ธาตุสำคัญขึ้นมา
แม้รัฐบาลจีนและคีร์กีซสถานกล่าวว่า ความร่วมมือก่อประโยชน์ทั้งสองฝ่าย แต่ก็มีเสียงร้องเรียนจากชาวคีร์กีซสถานบางส่วนว่าคนงานและบริษัทของจีนที่หลั่งไหลเข้ามาทำให้ราคาสินค้าในประเทศสูงขึ้นและก่อมลพิษ
ตามรายงานของสื่อคีร์กีซสถานเมื่อต้นปี ชาวบ้านในท้องถิ่นระบุว่า งานขุดหาทองคำทำให้แหล่งน้ำปนเปื้อน คุกคามการท่องเที่ยว และเสี่ยงทำให้ธารน้ำแข็งละลายเร็วขึ้น
ซีอีโอชาวจีนถูกจับกุม หลังจากเกิดเหตุคนงานก่อสร้างชาวจีนและชาวคีร์กีซสถานทะเลาะวิวาทกันได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสต่อต้านชาวจีนในโลกโซเชียล
ทั้งนี้ คีร์กิซสถานเป็นหนึ่งในสาธารณรัฐทั้งห้าแห่งในภูมิภาคเอเชียกลางซึ่งเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ โดยหลังจากแยกตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียตในปีพ.ศ. 2534 ( ค.ศ. 1991) ชาติเหล่านี้ก็ตกเป็นเป้าสนใจจากชาติมหาอำนาจต่างๆ รวมถึงจีน สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา
ที่มา : เอเอฟพี


