กลุ่มสื่อจีนรายงานท่าทีแข็งกร้าวล่าสุดของรัฐบาลจีนที่มีต่อญี่ปุ่น โดยเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2568 "หวัง อี้" รัฐมนตรีต่างประเทศจีนให้สัมภาษณ์พิเศษหลังเสร็จสิ้นการประชุมยุทธศาสตร์ร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศ 3 ชาติเอเชียกลาง โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการส่งสัญญาณเตือนระดับสูงสุดไปยังรัฐบาลญี่ปุ่น ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทากาอิจิ
หวัง อี้ ระบุว่า ปีนี้ (2568) เป็นปีที่มีความสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นวาระครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะในสงครามต่อต้านการรุกราน สิ่งที่ญี่ปุ่นควรทำมากที่สุดคือการสำนึกผิดอย่างลึกซึ้งต่อประวัติศาสตร์การรุกรานและยึดครองไต้หวันในอดีต รวมถึงอาชญากรรมสงครามที่ลัทธิทหารนิยมได้ก่อไว้ โดยเฉพาะประเด็นไต้หวัน ญี่ปุ่นมีพันธกรณีระหว่างประเทศในฐานะผู้แพ้สงครามที่จะต้องคืนไต้หวันให้แก่จีน
"แต่เรื่องที่น่าตกใจคือ ผู้นำญี่ปุ่นคนปัจจุบันกลับส่งสัญญาณที่ผิดพลาดด้วยการประกาศท่าทีพร้อมใช้กำลังทหารแทรกแซงปัญหาไต้หวัน ซึ่งถือเป็นการพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด และก้าวล่วงเส้นแดงที่ไม่ควรแตะต้อง" หวัง อี้ กล่าว
จีนย้ำว่า หากญี่ปุ่นยังคงเพิกเฉยต่อคำเตือน จีนจำเป็นต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาดเพื่อปกป้องอธิปไตยและผลลัพธ์จากสงครามโลกครั้งที่ 2 โดย หวัง อี้ ได้ทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำที่รุนแรงว่า "หากญี่ปุ่นยังดึงดันเดินหน้าผิดพลาดต่อไป นานาประเทศที่รักความยุติธรรมย่อมมีสิทธิที่จะ 'ชำระบัญชี' ความผิดทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอีกครั้ง และมีหน้าที่สกัดกั้นการฟื้นคืนชีพของลัทธิทหารนิยมอย่างถึงที่สุด"
ด้านสถานการณ์ภายในญี่ปุ่น ชิเงรุ อิชิบะ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเตือนทากาอิจิเช่นกันว่า การทูตไม่ใช่เรื่องของการใช้อารมณ์หรือเพื่อหวังผลคะแนนนิยม พร้อมระบุว่านับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2515 รัฐบาลญี่ปุ่นทุกชุดต่างใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งในการรักษาความสัมพันธ์กับจีน
ที่มา: Xiandai Kuaibao/ แฟ้มภาพเอเอฟี


