"ฟู่ชง" ผู้แทนถาวรของจีนประจำสหประชาชาติ ออกถ้อยแถลงแข็งกร้าวในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ สมัยที่ 80 ระหว่างการพิจารณาประเด็นการปฏิรูประบบคณะมนตรีความมั่นคง เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ระบุว่า “ญี่ปุ่นไม่มีคุณสมบัติ” ที่จะเรียกร้องเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)
เขาชี้ว่า ปี 2568 เป็นปีครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะของสงครามต่อต้านญี่ปุ่นของประชาชนจีนและสงครามโลกครั้งที่สอง รวมทั้งเป็นวาระครบรอบ 80 ปี “ไต้หวันกลับคืนสู่มาตุภูมิ” แต่ในช่วงสงคราม ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายรุกราน ทำสงครามและครองอาณานิคมไต้หวัน ก่ออาชญากรรมที่ “เขียนไม่หวาดไม่ไหว” สร้างความหายนะอย่างใหญ่หลวงให้กับจีนและประเทศผู้ถูกยึดครองในเอเชีย
ฟู่ชงกล่าวหาต่อว่า จนถึงทุกวันนี้ ภายในญี่ปุ่นยังมีกลุ่มการเมืองที่เผยแพร่ “ทัศนะประวัติศาสตร์ที่ผิด” อย่างต่อเนื่อง ทั้งการไปสักการะศาลเจ้ายาสุกุนิที่บูชาอาชญากรสงครามชั้นหัวหน้า การแก้ไขแบบเรียนประวัติศาสตร์ การปฏิเสธเหตุสังหารหมู่ที่หนานจิง และการปฏิเสธประวัติศาสตร์การบังคับใช้แรงงานหญิงเป็น “สตรีบำเรอทหาร” ตลอดจนพยายามใช้คำว่า “สิ้นสุดสงคราม” แทน “ความพ่ายแพ้” ซึ่งจีนมองว่าเป็นความพยายามบิดเบือน ลบล้าง และทำให้ประวัติศาสตร์การรุกรานและล่าอาณานิคมดูสวยงามขึ้น
เขายังเชื่อมโยงไปถึงสถานการณ์ปัจจุบัน โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ เพิ่งกล่าวในรัฐสภาเมื่อเร็ว ๆ นี้ในประเด็นไต้หวันด้วยถ้อยคำที่จีนมองว่า “ยั่วยุอย่างรุนแรง” โดยพูดถึงความเป็นไปได้ที่ “กรณีไต้หวันอาจกลายเป็นสถานการณ์วิกฤตต่อการอยู่รอดของญี่ปุ่น” และอาจเปิดทางให้อ้าง “สิทธิการป้องกันตนเองโดยรวม” เพื่อใช้กำลังแทรกแซงช่องแคบไต้หวัน
ฟู่ชงย้ำจุดยืนว่า “ทั่วโลกรู้ดีว่ามีจีนเดียวเท่านั้น” รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นรัฐบาลเดียวที่เป็นผู้แทนจีนทั้งมวลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และ “ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกออกจากอาณาเขตจีน” การที่ทาคาอิจิพูดถึงไต้หวันในลักษณะดังกล่าว จึงถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างหยาบคาย และขัดต่อหลักการจีนเดียว รวมถึงเจตนารมณ์ของเอกสารการเมืองร่วมจีน–ญี่ปุ่นทั้งสี่ฉบับ
เขาระบุว่า ท่าทีของรัฐบาลโตเกียวเป็น “การท้าทายความยุติธรรมระหว่างประเทศ ทำลายระเบียบโลกหลังสงคราม และเหยียบย่ำบรรทัดฐานขั้นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ” อีกทั้ง “หันหลังให้คำมั่นที่ญี่ปุ่นเคยให้ไว้หลังสงครามว่าจะเดินบนเส้นทางสันติภาพ” ดังนั้น “ประเทศเช่นนี้ย่อมไม่มีคุณสมบัติจะเรียกร้องตำแหน่งสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคง”
ปัจจุบัน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีสมาชิกถาวรห้าประเทศ ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย ขณะที่ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องการปฏิรูประบบ UNSC เพื่อเพิ่มที่นั่งสมาชิกถาวร และมักถูกพูดถึงในฐานะผู้ที่ตั้งเป้าหวังเก้าอี้ดังกล่าว แต่คำเตือนล่าสุดจากผู้แทนจีน สะท้อนว่าปักกิ่งยังคงคัดค้านอย่างแข็งขัน และผูกประเด็นนี้เข้ากับทั้ง “บาดแผลสงครามโลกครั้งที่สอง” และวิกฤตไต้หวันที่กำลังทำให้ความสัมพันธ์จีน–ญี่ปุ่นตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
ที่มา กลุ่มสื่อจีน


