xs
xsm
sm
md
lg

สื่อจีนรายงาน การเสด็จเยือนแดนมังกรครั้งประวัติศาสตร์ของพระมหากษัตริย์ไทยดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพประกอบ : GT
โกลบอลไทมส์ ซึ่งเป็นสื่อของทางการจีนรายงานว่า การเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวแห่งราชอาณาจักรไทย ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงผู้นำจีน ระหว่างวันพฤหัสบดี-วันจันทร์นี้ ( 13-17 พ.ย. ) นั้น ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่จากสื่อจีนและไทยเท่านั้น แต่สื่อต่างประเทศยังให้ความสนใจอย่างมากด้วยเช่นกัน เหตุใดการเสด็จเยือนครั้งนี้จึงดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก?

โกลบอลไทมส์ได้หยิบยกการแสดงความเห็นของไทยพีบีเอสเวิลด์ (Thai PBS World ) ซึ่งระบุว่าการเสด็จเยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้จะ "เขียนบทใหม่แห่งมิตรภาพจีน-ไทย" นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2518 พระราชวงศ์ไทยมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไทย สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรผู้ทรงได้รับเหรียญมิตรภาพจีน ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนมากกว่า 50 ครั้ง การเสด็จพระราชดำเนินเยือนของพระมหากษัตริย์ไทยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อ 50 ปีก่อน สิ่งนี้ทำให้ประวัติศาสตร์แห่งการแลกเปลี่ยนทวิภาคีมีความสมบูรณ์

เก๋อ หงเหลียง รองผู้อำนวยการวิทยาลัยการศึกษาอาเซียนในสังกัดมหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซีชี้ว่า นับตั้งแต่เสด็จขึ้นครองราชย์ในปี พ.ศ. 2559 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ ฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนภูฏานอย่างเป็นทางการและจีนเป็นประเทศใหญ่ประเทศแรกที่พระองค์เสด็จฯ เยือนอย่างเป็นทางการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันลึกซึ้ง ที่พระราชวงศ์ไทยมีต่อจีน นอกจากนั้น เนื่องในการฉลองวาระครบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและมิตรภาพระหว่างจีนและไทยในปี พ.ศ. 2568 การเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งประวัติศาสตร์นี้แสดงให้เห็นว่าแนวคิด "จีนและไทยใกล้ชิดดุจครอบครัวเดียวกัน" ได้ก้าวสู่ระดับใหม่
 
เก๋อยังเชื่อว่า การที่จีนและไทยยึดมั่นในหลักปฏิบัตินิยมที่สอดคล้องกันคือเหตุผลที่ความสัมพันธ์ระหว่างชาติทั้งสองได้รับการนิยามว่า เป็น “ครอบครัวเดียวกัน” โดยการสถาปนาความสัมพันธ์ในปี พ.ศ. 2518 ได้แสดงให้เห็นถึงการก้าวหลุดพ้นจากข้อจำกัดของสงครามเย็นและอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน และนับจากนั้นมา แม้สภาพการเมืองของไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงไปต่าง ๆ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยก็ยังคงแข็งแกร่ง

ประเทศไทยเป็นชาติสมาชิกผู้ก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) และยังเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองในภูมิภาคแห่งนี้ การเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนของพระมหากษัตริย์ไทยไม่เพียงแต่เป็นการสานต่อมิตรภาพอันดีงามเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณสำคัญต่อชาติสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ว่าจีนเป็นพันธมิตรที่ไว้วางใจได้ในท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ซับซ้อน

การเสด็จพระราชดำเนินเยือนยังคาดด้วยว่าจะยกระดับความร่วมมือระหว่างจีนและไทยไปสู่การพัฒนาที่มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้นอีกขั้นหนึ่ง โดยหมายกำหนดการเสด็จทอดพระเนตรปักกิ่งแอโรสเปซซิตี้ และศูนย์นวัตกรรมหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ในกรุงปักกิ่ง อาจส่งสัญญาณถึงความมุ่งหมายของชาติทั้งสองที่จะส่งเสริมความร่วมมือใหม่ๆ ในสาขาที่ก้าวหน้า เช่น เทคโนโลยีการบินและอวกาศและปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการด้านการพัฒนาของทั้งสองประเทศ โดยจีนมีความได้เปรียบทางเทคโนโลยีในด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยีการบินและอวกาศ เศรษฐกิจดิจิทัล และพลังงานสีเขียว ขณะที่ไทยกำลังส่งเสริมยุทธศาสตร์ "ไทยแลนด์ 4.0" อย่างแข็งขัน

โกลบอลไทมส์ระบุว่า การเสด็จพระราชดำเนินเยือนของพระมหากษัตริย์ไทยส่งสารที่ชัดเจนไปยังทั่วโลกว่า จีนคือ "เพื่อนบ้านที่ไม่เปลี่ยนแปลง" และเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาร่วมกัน แนวทางการเจริญความสัมพันธ์ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานความเคารพซึ่งกันและกันและความร่วมมือที่ได้รับประโยชน์ทุกฝ่าย ไม่เพียงแต่จะเขียนบทใหม่ให้กับโชคชะตาร่วมกันของจีนและไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสนอภูมิปัญญาตะวันออกในการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างชาติต่าง ๆ ซึ่งได้ผ่านการทดสอบของกาลเวลามาแล้วอีกด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น