ทีมสำรวจขั้วโลกใต้ชุดที่ 42 ออกเดินทางจากนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเริ่มภารกิจสำรวจขั้วโลกใต้ครั้งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลากว่า 7 เดือน โดยจะเดินทางกลับถึงจีนในเดือนพ.ค. 2026
เรือตัดน้ำแข็ง 2 ลำของจีน ได้แก่ “เสวี่ยหลง” และ “เสวี่ยหลง 2” จะลำเลียงอุปกรณ์และพานักวิจัยไปยังพื้นที่สำรวจในทวีปแอนตาร์กติกา ทีมนักสำรวจประกอบด้วยสมาชิกกว่า 500 คน จากกว่า 80 สถาบันในประเทศจีน และนักวิจัยนานาชาติจากกว่า 10 ประเทศ เช่น ไทย ชิลี และโปรตุเกส เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศด้านวิทยาศาสตร์
Wei Fuhai หัวหน้าคณะสำรวจขั้วโลกใต้ชุดที่ 42 กล่าวว่า ภารกิจแรก ทีมสำรวจจะเดินหน้าสร้างและปรับปรุงระบบสนับสนุนการปฏิบัติงานที่สถานีฉินหลิง เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านการดำเนินงานและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของสถานีให้ดียิ่งขึ้น
ภารกิจที่ 2 คือ การสำรวจและสังเกตการณ์ในพื้นที่สำคัญ เช่น คาบสมุทรแอนตาร์กติก และทะเลอามุนด์เซน เพื่อศึกษาผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อระบบนิเวศในมหาสมุทรใต้ นอกจากนี้ ทีมสำรวจจะทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันหนาวเหน็บของขั้วโลกใต้
ภารกิจที่ 3 คือ การนำอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่จีนพัฒนาขึ้นมาใช้ในขั้วโลก โดยจีนมีแผนจะทดลองเจาะและเก็บตัวอย่างจากทะเลสาบที่อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็งหนามากกว่า 3,000 เมตรเป็นครั้งแรก รวมถึงจะทดสอบสมรรถนะรถ 6 ล้อ รุ่น ‘สโนว์ลีโอพาร์ด’ และเครื่องลากแบบไฮดรอลิกกำลังสูง ซึ่งจีนพัฒนาและผลิตขึ้นเองทั้งหมด
สถานีฉินหลิงในทวีปแอนตาร์กติกา เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2024 โดยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการวิจัยของจีนในพื้นที่ขั้วโลก การเดินทางครั้งใหม่นี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของจีนในการเสริมสร้างศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ระดับโลกในขั้วโลกใต้
ที่มา : China Media Group


