หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติจีนเปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า สหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการโจมตีทางไซเบอร์ระดับรัฐ (State-level cyberattack) ต่อศูนย์มาตรฐานเวลาแห่งชาติของจีน (National Time Service Center - NTSC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการสร้างและกระจาย “เวลามาตรฐานปักกิ่ง” (Beijing Time) ที่ใช้ในระบบสื่อสาร การเงิน พลังงาน การคมนาคม การสำรวจแผนที่ และการป้องกันประเทศของจีน
สำนักข่าว CCTV ระบุว่า การสืบสวนของฝ่ายจีนพบว่า การแทรกซึมของสหรัฐฯ มีลักษณะต่อเนื่องและซ่อนตัวอย่างแนบเนียน โดยใช้เครื่องมือจารกรรมไซเบอร์ระดับสูงหลายสิบชนิด และพยายามเข้าถึงข้อมูลโครงสร้างสำคัญของระบบเวลามาตรฐาน ซึ่งถือเป็น “หัวใจ” ของการทำงานของสังคมสมัยใหม่
เริ่มจากการเจาะมือถือพนักงานสู่การแทรกซึมระบบภายใน
ตั้งแต่ปี 2565 สหรัฐฯ ใช้ช่องโหว่ของบริการ SMS ของบริษัทต่างชาติ เพื่อเจาะโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่หลายรายในศูนย์มาตรฐานเวลา และขโมยข้อมูลภายในเครื่อง ก่อนจะขยายการโจมตีในเดือนเมษายน 2566 ด้วยการใช้รหัสผ่านที่ถูกขโมยมาล็อกอินเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของศูนย์
ดร. หลี่ เจี้ยนหัว ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเจียวทง เซี่ยงไฮ้ อธิบายว่า สหรัฐฯ ใช้ “แพลตฟอร์มอาวุธไซเบอร์” ที่มีทั้งมัลแวร์และสปายแวร์หลายชนิด เพื่อเจาะเข้าสู่ระบบเครือข่ายปิดของศูนย์ และขโมยข้อมูลสำคัญทางเทคนิคจำนวนมาก
ระหว่างเดือนสิงหาคม 2566 ถึงมิถุนายน 2567 สหรัฐฯ ได้ใช้งานอาวุธไซเบอร์ถึง 42 ชนิด เพื่อเจาะระบบภายในหลายส่วนของศูนย์ และพยายามขยายผลสู่ ระบบฐานเวลาความแม่นยำสูง (High-Precision Time Base System) ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ใช้ควบคุมความถูกต้องของเวลาปักกิ่ง
เหตุใด “เวลาปักกิ่ง” จึงเป็นเป้าหมายสำคัญ
ศูนย์มาตรฐานเวลาแห่งนี้ เดิมชื่อว่า “หอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์ส่านซี” ก่อตั้งในปี 2509 มีหน้าที่สร้าง รักษา และเผยแพร่เวลามาตรฐานของชาติ ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจและวิทยาศาสตร์ของประเทศ
นายเว่ย ตง รองผู้อำนวยการศูนย์ฯ อธิบายว่า
หากเวลา คลาดเพียง 1 มิลลิวินาที (1/1,000 วินาที) โรงไฟฟ้าจะเสียจังหวะการจ่ายกระแสไฟ อาจทำให้เกิดไฟดับเป็นวงกว้าง
หากคลาด 1 ไมโครวินาที (1/1,000,000 วินาที) ตลาดหุ้นระหว่างประเทศอาจสูญเสียมูลค่าหลายแสนล้านบาท
หากคลาด 1 นาโนวินาที (1/1,000,000,000 วินาที) ระบบนำทางดาวเทียม “เป๋ยโต่ว” จะคลาดเคลื่อนถึง 30 เซนติเมตร
และถ้าเวลาเพี้ยนเพียง 1 พิโควินาที (1/1,000,000,000,000 วินาที) ยานสำรวจบนดวงจันทร์และยาน “ฉางเอ๋อ” อาจหลงทิศและไม่สามารถกลับสู่โลกได้
ในปัจจุบัน เวลามาตรฐานของจีนได้รับการยอมรับว่ามีความแม่นยำสูงสุดในโลก โดยตั้งแต่ต้นปี 2567 ความคลาดเคลื่อนเฉลี่ยน้อยเป็นในอันดับ 1 ของโลก และมีส่วนร่วมในการคำนวณ “เวลามาตรฐานสากล (UTC)” มากถึง 19.51% รองจากสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว
สหรัฐฯ ใช้เซิร์ฟเวอร์ยุโรป–เอเชียเป็น “สะพานโจมตี”
หน่วยความมั่นคงของจีนระบุว่า สหรัฐฯ มักดำเนินการโจมตีในช่วงกลางดึกถึงรุ่งเช้าตามเวลาปักกิ่ง โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ในยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเป็น “จุดข้าม (jump host)” เพื่อซ่อนต้นทาง และใช้เทคนิค “zero-day exploit” กับ “ข้ามเครือข่าย (cross-network penetration)” เพื่อหลบการตรวจจับ
จีนได้ติดตามและบันทึกหลักฐานของการโจมตีไว้ครบถ้วน พร้อมยืนยันว่าได้ “ตัดวงจรการโจมตี” หลายครั้ง และเพิ่มมาตรการป้องกันทางไซเบอร์ใหม่ให้กับศูนย์ฯ
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงไซเบอร์ของจีนระบุว่า การโจมตีนี้เป็น การรุกรานไซเบอร์ระดับชาติ (APT - Advanced Persistent Threat) ที่มีเป้าหมายในการจารกรรมข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศอื่น และอาจสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงระดับโลก
คณะผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการนวัตกรรมทหาร–พลเรือนของจีนระบุว่า การกระทำของสหรัฐฯ เป็น “พฤติกรรมเชิงยุทธศาสตร์ที่มีเป้าหมายสกัดกั้นการพัฒนาอย่างสันติของจีน” และเรียกร้องให้ประชาคมโลก “ร่วมกันต่อต้านการใช้อำนาจทางดิจิทัลในเชิงครอบงำ (Digital Hegemony)” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในโลกไซเบอร์
ที่มา: 央视新闻 / 中国国家安全部 / 上海交通大学信息内容分析技术国家工程中心