"เฉิน จื้อ" นักธุรกิจเชื้อสายจีนวัย 40 ต้น ๆ จากมณฑลฝูเจี้ยน ผู้ก่อตั้ง ไท่จื่อจี๋ถวน หรือ ปริ๊นซ์ กรุ๊ป (Prince Group Holding หรือ 太子集团) หนึ่งในกลุ่มทุนใหญ่และมีอิทธิพลทางการเมืองมากที่สุดในกัมพูชา กำลังตกอยู่ในกระแสข่าวใหญ่ระดับโลก หลังถูกทางการสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 150,000 ล้านหยวน (ประมาณ 740,000 ล้านบาท)
สื่อจีนระบุว่า เฉิน จื้อ เริ่มต้นธุรกิจในกัมพูชาเมื่อปี 2552 และก่อตั้ง Prince Group อย่างเป็นทางการในปี 2558 ภายในเวลาไม่ถึง 10 ปี เขาสามารถสร้างอาณาจักรธุรกิจครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์ การเงิน พลังงาน การสื่อสาร และธนาคาร โดยเฉพาะ “Prince Bank” ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารเอกชนรายใหญ่ของกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางการสหรัฐฯ ได้ยึดบิตคอยน์มูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 550,000 ล้านบาท) ของเฉิน ฐานต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับกิจกรรมฉ้อโกงทางออนไลน์และฟอกเงินข้ามชาติ ขณะที่รัฐบาลอังกฤษก็ประกาศ อายัดทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนจำนวน 19 แห่ง มูลค่า 130 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,900 ล้านบาท)
รายงานข่าวในสื่อจีนและเทศ ยังระบุว่า เฉิน จื้อ มีความเชื่อมโยงกับกิจการในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ได้แก่ บริษัท Geotech Holdings Ltd. (致浩达控股/01707.HK) และ Khoon Group Limited(坤集团/00924.HK) รวมถึงถือหุ้น 25% ของบริษัทซิการ์ชื่อดัง Habanos S.A.ของคิวบา มูลค่าราว 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 25,700 ล้านบาท)
ในด้านความสัมพันธ์ทางการเมือง เฉิน จื้อ ได้รับสัญชาติกัมพูชาในปี 2557 และมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับผู้นำระดับสูงของรัฐบาล โดยร่วมก่อตั้งบริษัท จินเป้ย กรุ๊ป (Jinbei Group) กับ เส้า เคิน (Sar Sokha) บุตรชายอดีตรัฐมนตรีมหาดไทยกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมหาดไทยกัมพูชา
ปี 2561 เฉินได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ซึ่งมีสถานะเทียบเท่าข้าราชการระดับรัฐมนตรี และยังคงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาต่อเนื่องในรัฐบาลของ ฮุน มาเน็ต บุตรชายของฮุน เซน หลังเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2566
ปี 2563 เขาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากกษัตริย์กัมพูชา
อย่างไรก็ตาม Prince Group ถูกหน่วยงานจีนจับตามองมานานแล้ว โดยเมื่อปี 2563 กองบัญชาการตำรวจนครบาลปักกิ่ง ได้ตั้งคณะทำงานสอบสวนคดี “การพนันออนไลน์ข้ามชาติ” ของเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับ "กลุ่มไท่จื่อ" พร้อมตรวจพบผู้เกี่ยวข้องกว่า 458 คน
นอกจากนี้ สื่อจีนและต่างประเทศยังเผยรายงานต่อเนื่องในปี 2567 เกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่ากลุ่มทุนนี้เกี่ยวพันกับเครือข่าย “พนันออนไลน์–ฟอกเงิน–คอลเซ็นเตอร์” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เฉิน จื้อ เคยกล่าวต่อสาธารณะว่า เขา “รักกัมพูชาเหมือนบ้านเกิด” และมุ่งหวังจะพัฒนาประเทศผ่านโครงการเศรษฐกิจและการลงทุน แต่แหล่งข่าวจากภาครัฐจีนระบุว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านการเงินของจีนกำลังตรวจสอบเส้นทางเงินที่โยงระหว่างกลุ่มทุน Prince Group กับกิจกรรมผิดกฎหมายในภูมิภาค
กรณีเฉิน จื้อ ถูกมองว่าเป็น อีกหนึ่งสัญญาณของการปราบปรามเครือข่ายทุนจีนสีเทาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รัฐบาลจีนและประเทศพันธมิตรกำลังเร่งขยายผลในปี 2568
ที่มา: 李丹Fintalk / South China Morning Post / สื่อจีนหลายสำนัก