MGR Online: ศูนย์อาเซียน-จีน และทางการมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ร่วมมือกับประเทศอาเซียน เพื่อนำปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อพัฒนาเกษตรกรรมอัจฉริยะ สร้างความมั่นคงทางอาหาร
ศูนย์อาเซียน-จีน (ASEAN-China Centre) เปิดเวทีเสวนาในหัวข้อ "ปัญญาประดิษฐ์เสริมพลังความร่วมมือด้านอาหารและการเกษตร นวัตกรรมขับเคลื่อนการพัฒนาภูมิภาค” ที่มณฑลเหอหนาน โดยมีผู้แทนกระทรวงเกษตรของชาติอาเซียน, ตัวแทนจากแวดวงวิชาการและธุรกิจการเกษตรทั้งจากจีนและต่างประเทศเข้าร่วม โดย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ได้เข้าร่วมในเวทีนี้ด้วย
การประชุมได้หารือในหัวข้อต่างๆ เช่น เกษตรกรรมอัจฉริยะ การประมง การเลี้ยงสัตว์ และการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศในสินค้าเกษตร โดยใช้นวัตกรรมเพื่อพัฒนาการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขยายการค้าและการลงทุนด้านการเกษตรในภูมิภาคอาเซียน และร่วมกันรับมือกับความท้าทายทางการค้าโลก โดยจะจัดตั้งศูนย์สาธิตเกษตรอัจฉริยะครบวงจรจีน (เหอหนาน)-อาเซียน, สมาคมนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มหาวิทยาลัยเกษตรจีน (เหอหนาน) และลงนามโครงการความร่วมมือ 21 โครงการในสาขาการผลิตอาหาร เทคโนโลยีการเกษตร และการค้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
นายสื่อ จงจุ้น เลขาธิการศูนย์อาเซียน-จีน กล่าวว่า มณฑลเหอหนานเป็น “คลังอาหาร” ของจีน และอาเซียนเป็นคลังอาหารใหญ่ของโลก ดังนั้นความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างจีนและอาเซียนจะเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน โดยทั้ง 2 คลังอาหารสามารถร่วมมือกันพัฒนาเกษตรอัจฉริยะ, สร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ และแบ่งปันประสบการณ์ความร่วมมือด้านการเกษตรใหม่ๆ
ประเทศจีนผลิตธัญญาหารและผลผลิตการเกษตรได้อย่างเพียงพอ แต่เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร จีนได้นำเข้าสินค้าเกษตร โดยใน 2567 มูลค่าการค้าสินค้าเกษตรระหว่างจีนและอาเซียนมีมูลค่าสูงกว่า 57,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 18% ของมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรนำเข้าและส่งออกทั้งหมดของจีน
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ การเกษตรได้เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และมาตรการกีดกันทางการค้า ซึ่งส่งผลต่อทั้งคุณภาพชีวิตของเกษตรกร, อาหารสำหรับผู้บริโภค ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะขาดแคลนอาหารบางอย่าง, อาหารแพง, อาหารไม่ปลอดภัย และส่งผลจนถึงเศรษฐกิจของประเทศด้วย
ประเทศอาเซียนสามารถเรียนรู้จากประเทศจีนในด้านนวัตกรรมการเกษตร,การพัฒนาชนบท และการลดความยากจน โดยพัฒนาการเกษตรให้ทันสมัย, ใช้เครื่องจักรกล และเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อาเซียนและจีนยังสามารถร่วมมือกันสร้างความมั่นคงด้านอาหาร, สร้างห่วงโซ่อุปทานของผลผลิตทางการเกษตร เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาของการค้าระหว่างประเทศ.