เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 กรมอนามัยฮ่องกงออกแถลงการณ์ยืนยันว่า การใช้พาราเซตามอลระหว่างตั้งครรภ์ไม่ก่อให้เกิดออทิสติกหรือโรคสมาธิสั้น (ADHD) ในเด็ก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่าการใช้ยา Tylenol (ชื่อทางการค้าของพาราเซตามอล) อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคออทิสติก
กรมอนามัยฮ่องกงระบุว่า ผลการศึกษาขนาดใหญ่และเข้มงวดของวงการแพทย์ไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างการใช้พาราเซตามอลขณะตั้งครรภ์กับภาวะออทิสติกหรือ ADHD พร้อมชี้ว่าการศึกษาที่เคยเสนอว่ามีความเสี่ยงดังกล่าวนั้น “มีข้อจำกัดอย่างมาก” และไม่สามารถยืนยันความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลได้
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดเช่นกันว่า ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพียงพอ ที่จะสรุปได้ว่าการใช้พาราเซตามอลในหญิงตั้งครรภ์ทำให้เด็กเป็นออทิสติกหรือผิดปกติทางพัฒนาการอื่น ๆ โดย หลายหน่วยงานควบคุมยาทั่วโลก รวมถึงในยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย และแคนาดา ต่างยังคงยืนยันว่าพาราเซตามอลเป็นทางเลือกสำคัญสำหรับหญิงตั้งครรภ์ในการบรรเทาอาการปวดหรือไข้ และยังปลอดภัยในการใช้งานเมื่ออยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
กรมอนามัยยังเน้นย้ำว่า ไข้สูงในหญิงตั้งครรภ์ก็อาจก่อความเสี่ยงต่อสุขภาพทารกในครรภ์ได้เช่นกัน จึงควรใช้ยาตามดุลพินิจแพทย์ และไม่ควรหลีกเลี่ยงยาจำเป็นเพียงเพราะข่าวลือ
นอกจากนี้ ฮ่องกงยังออกโรงเตือนกรณีที่มีเสียงเรียกร้องให้ เลื่อนการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีให้ทารกแรกเกิด โดยกรมอนามัยระบุว่า หากเลื่อนวัคซีนออกไป จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในวัยเด็ก ซึ่งหากติดเชื้อในช่วงอายุน้อยก็มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นโรคเรื้อรัง นำไปสู่ มะเร็งตับ ตับแข็ง และตับวาย โดยชี้ชัดว่า “ข้อเสนอให้เลื่อนการฉีดวัคซีนในทารกแรกเกิดนั้นเป็นภัยต่อสาธารณสุขอย่างยิ่งและไม่อาจยอมรับได้”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวในการแถลงข่าวว่า สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เตรียมแจ้งเตือนแพทย์ว่า Tylenol อาจเชื่อมโยงกับความเสี่ยงของออทิสติกที่ “สูงมาก” และเรียกร้องให้หญิงตั้งครรภ์หลีกเลี่ยงการใช้ยา โดยถ้อยแถลดังกล่าวได้รับการปฏิเสธอย่างรวดเร็วจากหน่วยงานทั่วโลก รวมถึงฮ่องกงที่ยืนยันว่า “พาราเซตามอลยังคงปลอดภัยในการใช้ระหว่างตั้งครรภ์”
ที่มา กลุ่มสื่อจีน