ทางการจีนเปิดเผยการจับกุม ซ่าง โหมวเจิง หัวหน้ากลุ่มลัทธิผิดกฎหมายชื่อ “เทียนเต้าหงหยวน” ในมณฑลเหอหนาน หลังพบว่าเขาใช้คำสอนเท็จอ้างตนเป็น “เง็กเซียนฮ่องเต้” (玉皇大帝) หลอกลวงประชาชน ล่วงละเมิดทางหญิงอย่างน้อย 10 ราย และหลอกเงินรวมกว่า 5 ล้านหยวน (ประมาณ 25.3 ล้านบาท)
ซ่าง โหมวเจิง เริ่มก่อตั้งองค์กรลัทธิในปี 2564 โดยอ้างตนเป็น “คุนหลุนถงจื่อ” (昆仑童子) หรือเทพเด็กจากเขาคุนหลุน พร้อมเผยแพร่แนวคิด “ยุคสามหายนะ” อ้างว่าหายนะโลกใกล้ถึง ผู้ใดที่ไม่ร่วมฝึกฝนกับเขาจะเผชิญภัยร้ายแรง
กลุ่มของเขาใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางหลักในการขยายเครือข่าย โดยมีบัญชีออนไลน์มากกว่า 600 บัญชี ยอดเข้าชมรวมกว่า 5 ล้านครั้ง และมีสมาชิกกว่า 3,000 คนทั่วประเทศจีน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่กำลังประสบปัญหาสุขภาพหรือครอบครัว และรู้สึกสิ้นหวัง
รายงานระบุว่า ซ่างใช้วิธี “พูดดี มีเมตตา” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นผู้ช่วยเหลือ มีจิตใจดี พูดจาไพเราะ และใช้วาทกรรมทางจิตวิญญาณ เช่น “พลังจักรวาล” “ฟื้นคืนวิญญาณเด็ก” และ “ขจัดพลังงานลบ” มาหลอกให้สมาชิกเชื่อว่าต้องทำพิธีกรรมต่าง ๆ โดยการซื้อเครื่องบูชาราคาแพง
ตัวอย่างเช่น หญิงรายหนึ่งชื่อสมมุติว่าถูกหลอกว่า ลูกชายของเธอเป็น “เด็กหยินหยาง” หากไม่ทำพิธี “คืนวิญญาณเด็ก” จะมีภัยถึงชีวิต เธอยอมจ่ายเงินทั้งหมดที่มีและกู้เพิ่มเพื่อทำพิธี สุดท้ายลูกชายถูกวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติก
สมาชิกหญิงกว่า 90% ของกลุ่ม ถูกชักจูงให้เชื่อว่าต้อง “ล้างพลังงานลบ” ผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับซ่าง เขาอ้างว่านี่คือวิธีถ่ายเทพลังบวก เมื่อมี “พลังเขาอยู่ในตัว” พลังชั่วร้ายจะไม่กล้ากล้ำกราย
เหยื่อรายหนึ่งให้การว่า เธอทั้งหวาดกลัว ทั้งรู้สึกผูกพันอย่างประหลาดกับเขา จนไม่สามารถปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงได้ ซ่างยังสร้างเรื่องว่า เขาและสมาชิกหญิงมี “บุพเพสันนิวาสจากชาติก่อน” และอ้างว่าแต่ละคนคือ “ฮองเฮา” หรือ “สนม” ของเขาในอดีตชาติ
กลุ่ม “เทียนเต้าหงหยวน” มีการแบ่งงานอย่างชัดเจน ซ่างเป็น “อาจารย์ใหญ่” มี “พี่ใหญ่” คอยบริหารทีม มี “ผู้ควบคุมกฎ” ที่ดูแลกิจกรรมในแต่ละ “เขต” ผ่านการไลฟ์สด
สมาชิกต้องโพสต์วิดีโอสั้น และถูกตรวจสอบการเข้าไลฟ์ทุกวัน หากมีผู้ละเมิดกฎหรือเริ่มตั้งคำถาม ก็จะถูกข่มขู่ แบนจากกลุ่ม หรือประกาศตัดความสัมพันธ์ทันที
อัยการในเมืองซือหยาง มณฑลเหอหนาน ระบุว่า การกระทำของซ่าง โหมวเจิง และเครือข่าย เข้าข่ายความผิดหลายข้อ ได้แก่
ใช้องค์กรลัทธิผิดกฎหมายเพื่อบ่อนทำลายกฎหมาย ข่มขืนกระทำชำเรา ฉ้อโกงทรัพย์
ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิจัยสังคมศาสตร์กรุงปักกิ่งเตือนว่า กลุ่มลัทธิผิดกฎหมายเหล่านี้มักใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เช่นไลฟ์สด หรือแอปสื่อสาร เพื่อเพิ่มอิทธิพล โดยอาศัยความอ่อนแอของเหยื่อในช่วงเวลาที่ยากลำบาก