xs
xsm
sm
md
lg

ยอดคนดูร่วงหนัก! คนหนุ่มสาวจีนไม่อยากดูหนังในโรงอีกต่อไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม้ช่วงหน้าร้อนปี 2025 จะมีหนังคุณภาพหลายเรื่องเข้าฉายในโรงหนังจีน แต่ก็ไม่อาจดึงผู้ชมให้กลับมาได้อย่างคึกคักเหมือนเคย ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ยอดเข้าชมโรงภาพยนตร์ในจีนตกลงต่ำเป็นประวัติการณ์ ขณะที่จำนวนโรงฉายกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดความไม่สมดุลระหว่าง “โรงหนังที่มากขึ้น” กับ “ผู้ชมที่หายไป”

แม้ในปี 2024 จีนมีโรงภาพยนตร์มากถึง 13,000 แห่ง และจอฉายกว่า 81,000 จอ แต่รายได้รวมของบ็อกซ์ออฟฟิศกลับอยู่ที่เพียง 42,500 ล้านหยวน (ประมาณ 195,500 ล้านบาท) ลดลงกว่าหนึ่งในสามจากช่วงพีคในปี 2019 และต่ำกว่ารายได้เมื่อปี 2015 ทั้งที่ขณะนั้นจีนมีโรงภาพยนตร์เพียงครึ่งเดียว

โดยอัตราการเข้าชม (occupancy rate) ตลอดปี 2024 อยู่ที่เพียง 5.7% หรือเท่ากับว่า ในโรงที่จุได้ 100 คน มีผู้ชมจริงเพียง 5-6 คนเท่านั้น แม้แต่ช่วงเทศกาลที่เคยคึกคักก็ไม่สามารถดึงดูดผู้ชมได้เต็มที่ ยกเว้นตรุษจีนที่ยังครองแชมป์

แม้ภาพยนตร์คุณภาพสูง เช่น "Nanjing Photo Studio" หรือ "Monster from Langlang Mountain" จะได้รับคำชมและทำรายได้สูง แต่ก็ไม่อาจพลิกสถานการณ์ของอุตสาหกรรมภาพรวมได้ เพราะอัตราการเข้าชมในช่วงซัมเมอร์ปี 2025 ยังอยู่เพียง 6.9% เท่านั้น

รายได้ส่วนใหญ่ของโรงหนังจีนทุกวันนี้พึ่งพาเทศกาลหลัก เช่น ตรุษจีน ช่วงฤดูร้อน และวันชาติ โดยช่วงตรุษจีนกลายเป็น "ขุมทอง" ที่ผู้สร้างหนังทุ่มทุนกันสุดตัวเพื่อแย่งความสนใจจากผู้ชม


เช่น ในปี 2025 ภาพยนตร์ "นาจา 2" กวาดรายได้สูงจนกลายเป็นแชมป์ประจำปี คิดเป็นสัดส่วนถึง 40% ของรายได้ภาพยนตร์ทั้งปี ทว่า ข้อมูลพบว่า ผู้ชมกว่า 60% ที่ดูเรื่องนี้ไม่ได้กลับไปดูหนังเรื่องอื่นอีกเลยในปีนั้น

อิทธิพลของหนังฟอร์มยักษ์ส่งผลให้รายได้รวมเริ่มกระจุกตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ในปี 2025 หนังเพียง 5 เรื่องแรกสามารถกวาดรายได้เกิน 30% ของทั้งอุตสาหกรรม

ข้อมูลจากสถาบันวิจัยของแพลตฟอร์มจำหน่ายตั๋วหนัง “Maoyan” ระบุว่า อายุเฉลี่ยของผู้ชมในช่วงฤดูร้อนปี 2021 อยู่ที่ 27.7 ปี แต่ในปี 2025 เพิ่มขึ้นเป็น 32.5 ปี สะท้อนว่าคนรุ่นใหม่ไม่ได้เข้ามาทดแทน

สำหรับคนรุ่นใหม่ การดูหนังในโรงไม่ใช่เรื่อง "ต้องทำ" อีกต่อไป ไม่ได้เป็นการเข้าสังคม ไม่ได้ใช้เป็นกิจกรรมออกเดท และไม่ใช่ทางเลือกอันดับแรกในการพักผ่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น