โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล
ในโลกศตวรรษที่ 21 เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ (Humanoid Robots) กำลังกลายเป็นตัวชี้วัดสำคัญของพลังทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมของแต่ละประเทศ ไม่เพียงเป็นเรื่องของนวัตกรรม แต่ยังสะท้อนถึงยุทธศาสตร์ชาติ ความสามารถในการแข่งขัน และอิทธิพลระดับโลก ปัจจุบัน จีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์
ฮิวแมนนอยด์คือหุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบให้มีรูปร่าง ลักษณะ และการเคลื่อนไหวคล้ายมนุษย์ เป้าหมายไม่ใช่เพียงการสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่เลียนแบบมนุษย์ แต่เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนได้ ดังนั้นการพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จึงถือเป็นดัชนีความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม AI และหุ่นยนต์ ซึ่งสะท้อนถึงระดับการพัฒนาโดยรวมของด้านการวิจัย วิศวกรรม ระบบควบคุม และการประมวลผล
จีนได้กำหนดให้อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ เป็นหนึ่งในเสาหลักของยุทธศาสตร์ “Made in China 2025” โดยรัฐบาลกลางสนับสนุนการลงทุน การวิจัย และการเชื่อมโยงระหว่างมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยและภาคเอกชน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 จีนประกาศยุทธศาสตร์พัฒนา AI แห่งชาติ โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำโลกในปี 2030 จากปี 2017 จนถึงปัจจุบันระยะเวลาไม่ถึง 10 ปีหุ่นยนต์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมของจีนมียอดติดตั้งสูงสุดในโลกติดต่อกันหลายปี บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น Huawei, Baidu, Xiaomi, UBTECH, Fourier Intelligence เข้าสู่สนามหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ และเมืองใหญ่ของจีน เช่น เซินเจิ้น หางโจว และปักกิ่ง ได้กลายเป็นศูนย์กลางวิจัยและพัฒนาฯ นโยบายของรัฐที่ผนวกกันทั้งการวิจัยพื้นฐาน การผลิตเชิงอุตสาหกรรม และการประยุกต์ใช้จริง ทำให้จีนสามารถสร้าง “ระบบนิเวศนวัตกรรมสำหรับฮิวแมนนอยด์” ที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ผู้เขียนเชื่อว่าท่านผู้อ่านอาจจะเคยเห็นข่าวและคลิปกิจกรรมการแข่งขันด้านการกีฬาของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ในจีนกันมาบ้าง ทั้งวิ่งแข่ง เตะบอล หรือทำกิจกรรมเสมือนมนุษย์ต่างๆ สร้างความฮือฮาทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก กิจกรรมการแข่งขันความสามารถของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ก็ถูกจัดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ตรงนี้เองสะท้อนให้เห็นว่าไม่ใช่แค่ภาครัฐจีนที่คอยเป็นแรงผลักดันเท่านั้น ภาคเอกชนจีนเองก็มีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมากที่จะพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ของตัวเองให้ดีกว่าเดิม มีความสามารถมากกว่าเดิม ผู้เขียนมองว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่จะทำให้หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จีนพัฒนาจนได้เปรียบประเทศ อื่นๆ
ณ ปี 2025 อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ของจีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับโลก ทั้งในด้านขนาดอุตสาหกรรม นวัตกรรมทางเทคโนโลยี การขยายการประยุกต์ใช้ และการพัฒนาโซ่อุตสาหกรรม โดยมีความก้าวหน้าที่สำคัญ ได้แก่
หนึ่ง. หุ่นยนต์ใช้ในอุตสาหกรรม จีนเป็นตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของโลกต่อเนื่องหลายปี ปี 2023 ปริมาณการติดตั้งคิดเป็น 51% ของทั้งโลก และปี 2024 การผลิตอยู่ที่ 466,000 ชุด เติบโต 13.3% และหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ผลิตในประเทศมีส่วนแบ่งตลาดในประเทศ 48.4% แสดงว่าอัตราการผลิต ของหุ่นยนต์ในจีนเกือบครึ่งคือความต้องการใช้ในประเทศ
สอง. สองหุ่นยนต์ที่ใช้ในภาคบริการ ปี 2024 จีนผลิตได้ 8.712 ล้านชุด เติบโต 18% ครอบคลุมการใช้งานด้านการแพทย์ การดูแลผู้สูงอายุและโลจิสติกส์ มูลค่าตลาดคาดว่าจะทะลุหนึ่งแสนล้านหยวนในปีนี้
สาม. สามคือหุ่นยนต์ที่ใช้เฉพาะทาง ความสามารถปฏิบัติงานก็กำลังได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีการผลิตหุ่นยนต์ในจีนก็มีหลายด้านด้วยกัน ในส่วนของชิ้นส่วนหลักของหุ่นยนต์ บริษัทจีน อย่าง Green Harmonic, Inovance เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานระดับโลกได้แล้ว เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ ผสาน AI, IoT และโมเดลขนาดใหญ่ เข้ากับหุ่นยนต์ เช่น Walker S หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ของ UBTECH ใช้ AI ตรวจจับความแม่นยำได้ระดับมิลลิเมตร มีอัตราการแม่นยำสูงถึง 99% และตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา จีนมีการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาเกิน 5 หมื่นล้านหยวน จำนวนสิทธิบัตรที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีประมาณ 40% เทคโนโลยีด้านการจำภาพและการควบคุมการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์จีนปัจจุบันก็มีความคล้ายมนุษย์มากขึ้น
บริษัทหุ่นยนต์ของจีนได้เร่งขยายกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็มุ่งขับเคลื่อนนวัตกรรมและการยกระดับผลิตภัณฑ์ ในด้านชิ้นส่วนหลัก บริษัทจีนใช้ทั้งชิ้นส่วนที่วิจัยพัฒนาเองและการนำเข้า ในด้านการผลิตตัวหุ่นยนต์ บริษัทต่างๆ ปรับปรุงกระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพ เพื่อยกระดับสมรรถนะและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ ส่วนในด้านการบูรณาการระบบและการบริการ บริษัทมีการออกแบบและผลิตตามความต้องการของลูกค้า พร้อมระบบบริการหลังการขาย เพื่อเสริมความสามารถการแข่งขันในตลาด
ในด้านความต้องการในตลาดภายในประเทศยังอยู่ในระดับสูง และความต้องการในตลาดหุ่นยนต์จีนมีแนวโน้มที่หลากหลายมากขึ้น หากมองในกลุ่มอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การแปรรูปโลหะ ใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยมากที่สุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและควบคุมคุณภาพสินค้า ในส่วนของภาคบริการ หุ่นยนต์ค่อยๆ ถูกนำมาใช้ในด้านการแพทย์ การศึกษา และโลจิสติกส์ เพื่อความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ในอุตสาหกรรมภาคเฉพาะทาง หุ่นยนต์ถูกนำมาใช้ในงานตรวจสอบระบบไฟฟ้า การกู้ภัยฉุกเฉิน และการทหาร
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมฮิวแมนนอยด์ในอนาคต มนุษย์และหุ่นยนต์จะทำงานร่วมกันมากขึ้นจนกลายเป็นกระแสหลัก เทคโนโลยี AI ถูกพัฒนาตลอดเวลา ทำให้หุ่นยนต์มีความสามารถในการเรียนรู้และการปรับตัวด้วยตนเองที่แข็งแกร่งขึ้น เข้าใจเจตนาของมนุษย์ได้ดี และร่วมมือกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หุ่นยนต์จะกลายเป็นผู้ช่วยในการทำงานของมนุษย์
เมื่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมต้องปรับตัวตามความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค หุ่นยนต์ต้องยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ การออกแบบโมดูลาร์จึงจะเป็นหัวใจสำคัญ (โครงสร้างและระบบออกเป็นโมดูลที่สามารถประกอบ แยก หรือเปลี่ยนหุ่นยนต์ได้อย่างอิสระ คล้ายกับการต่อเลโก้ แต่ละโมดูลทำหน้าที่เฉพาะด้าน เช่น แขน ขา ระบบขับเคลื่อน กล้องตรวจจับ เซนเซอร์ หรือหน่วยประมวลผล) การออกแบบโมดูลาร์ที่ดีช่วยให้สามารถประกอบและปรับตั้งหุ่นยนต์ได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มทั้งประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นของการผลิต เมื่อความสามารถทางเทคโนโลยีของบริษัทหุ่นยนต์จีนเพิ่มขึ้น บริษัทหุ่นยนต์จีนจะบุกตลาดต่างประเทศ ทั้งการขายส่งออกและผ่านการลงทุนถ่ายทอดเทคโนโลยี การร่วมมือกับนานาชาติก็สำคัญมากสำหรับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จีน
หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ นั้นไม่ใช่แค่เพียงเทคโนโลยีเพื่อเอาออกมาเพื่อการแสดงเท่านั้น แต่มองลึกลงไปคือสนามแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ที่จะกำหนดทิศทางเศรษฐกิจ ความมั่นคง และสังคมโลกในอนาคต จากความพยายามของจีนในเวลาเพียงไม่ถึงสิบปี ได้พิสูจน์แล้วว่าจีนได้ก้าวมาถึงจุดที่สามารถแข่งขันระดับแนวหน้าของโลกได้ ด้วยระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่ครบวงจร ตลาดขนาดใหญ่และการสนับสนุนจากรัฐ แต่ความท้าทายของจีนก็ยังคงมีอยู่ ทั้งการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตกในบางอุปกรณ์ที่จีนไม่มี และประเด็นด้านการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับด้านความมั่นคง การรั่วไหลของข้อมูลของลูกค้า เป็นต้น ดังนั้นหากมองไปข้างหน้า ตำแหน่งของจีนในสนามฮิวแมนนอยด์โลก จีนมองว่าอนาคตอาจไม่ได้วัดเพียงใครผลิตหุ่นยนต์ที่ล้ำที่สุด หากแต่คือใครสามารถสร้างระบบที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี–อุตสาหกรรม–และสังคมได้อย่างยั่งยืนที่สุด ตรงนี้เองคือวิสัยทัศน์ของจีนกับความพยายามที่จะสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ที่เพียบพร้อมขึ้นมา
หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์สัญชาติจีนหลายบริษัทมีพัฒนาการอย่างโดดเด่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตัวอย่างเช่น Walker X ของบริษัท UBTECH Robotics สามารถเดินสองขาอย่างมั่นคง ทำงานบ้านง่ายๆ และแสดงบทบาทในงานนิทรรศการระดับโลก, Xiaomi CyberOne เปิดตัวในปี 2022 เป็นหุ่นยนต์ที่สามารถจดจำเสียง พูดคุยขั้นพื้นฐาน และมีความสูง–รูปร่างใกล้เคียงมนุษย์จริง, Fourier GR-1 หุ่นยนต์เพื่อการฟื้นฟูการแพทย์ เน้นช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้สูงอายุ, หุ่นยนต์ทหารต้นแบบ ที่ถูกนำเสนอในงานมหกรรมการทหารของจีน บ่งชี้ว่ามีการพัฒนาสำหรับภารกิจด้านความมั่นคง ความก้าวหน้าเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าจีนไม่ได้มุ่งเพียงโชว์ศักยภาพ แต่ยังสร้างหุ่นยนต์ที่มีความเป็นไปได้เชิงพาณิชย์และการใช้งานจริง.