เมื่อวันที่ 1 กันยายน ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนเข้าร่วมการประชุมสภาประมุขแห่งรัฐขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organisation – SCO) ครั้งที่ 25 ณ เมืองท่าเทียนจินทางตอนเหนือของจีน โดยได้กล่าวถ้อยแถลงสำคัญต่อผู้นำประเทศสมาชิก SCO พร้อมประกาศมาตรการสนับสนุนด้านการเงินจำนวนมาก เพื่อส่งเสริมความร่วมมือภายในกลุ่ม
สีจิ้นผิงประกาศว่าจีนจะจัดสรรงบประมาณสนับสนุนประเทศสมาชิก SCO เป็นมูลค่า 2,000 ล้านหยวน ภายในปี 2025 คิดเป็นเงินไทยราว 9.2 พันล้านบาท ขณะเดียวกัน เขายังให้คำมั่นว่าจะปล่อยวงเงินสินเชื่อพิเศษเพิ่มเติมอีก 10,000 ล้านหยวน (ราว 46,000 ล้านบาท) แก่ธนาคารของประเทศสมาชิกในเครือข่ายระหว่างธนาคารแห่ง SCO (SCO Interbank Consortium) ภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงทางการเงินในภูมิภาคที่มีมูลค่ารวมสูงถึง 55,200 ล้านบาท
นอกจากมาตรการทางการเงิน สีจิ้นผิงยังเน้นย้ำความสำเร็จทางยุทธศาสตร์ของ SCO โดยระบุว่า องค์การฯ เป็น “กลุ่มแรก” ในหลายมิติ เช่น เป็นกลุ่มแรกที่จัดตั้งกลไกสร้างความเชื่อมั่นทางทหารในพื้นที่ชายแดน ซึ่งช่วยเปลี่ยนแนวพรมแดนที่เคยตึงเครียดให้กลายเป็นพื้นที่แห่งมิตรภาพและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เป็นกลุ่มแรกที่ร่วมมือกันในระดับพหุภาคีเพื่อต่อต้านภัยคุกคามด้านความมั่นคง เช่น การก่อการร้าย การแบ่งแยกดินแดน และลัทธิสุดโต่ง อีกทั้งยังเป็นกลุ่มแรกที่ผนวกความร่วมมือเชิงเศรษฐกิจผ่านโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” (BRI)
สีจิ้นผิงยังกล่าวถึงขอบเขตของความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยการลงทุนโดยตรงของจีนในประเทศสมาชิก SCO อื่น ๆ มีมูลค่าสะสมเกิน 84,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.06 ล้านล้านบาท และการค้าทวิภาคีระหว่างจีนกับประเทศสมาชิกมีมูลค่าเกิน 500,000 ล้านดอลลาร์ ต่อปี หรือคิดเป็น 18.25 ล้านล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ SCO ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค
ประธานาธิบดีจีนกล่าวทิ้งท้ายว่า องค์การฯ ยังเป็นกลุ่มแรกที่ลงนามในสนธิสัญญาเพื่อเป็นเพื่อนบ้านที่ดี มีมิตรภาพระยะยาว และหลีกเลี่ยงความเป็นศัตรู รวมถึงเป็นกลุ่มแรกที่ผลักดันแนวคิดธรรมาภิบาลโลกในรูปแบบที่มุ่งเน้นการปรึกษาหารืออย่างครอบคลุมและการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม โดยยึดมั่นในหลักการของพหุภาคีนิยมอย่างแท้จริง
การแสดงบทบาทของจีนผ่าน SCO ในครั้งนี้จึงไม่เพียงสะท้อนถึงพลังทางเศรษฐกิจและการทูตที่เพิ่มขึ้นของจีนเท่านั้น หากยังเป็นการตอกย้ำความพยายามในการสร้างระเบียบโลกที่ยึดโยงกับผลประโยชน์ร่วมกันในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอีกด้วย
ที่มา/ ภาพ สำนักข่าวซินหัว