ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีนกล่าวเปิดการประชุมสภาประมุขแห่งรัฐขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ ( SCO ) ครั้งที่ 25 และการประชุมเอสซีโอพลัส ( SCO Plus ) ณ นครเทียนจิน ทางภาคเหนือเมื่อวันจันทร์ ( 1 ก.ย. ) เรียกร้องให้ชาติสมาชิกปรับกลยุทธ์การพัฒนาภายในกลุ่มให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของการมีตลาดขนาดใหญ่ร่วมกันและส่งเสริมการดำเนินการตามโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางอย่างมีคุณภาพสูง เป็นแสวงหาผลประโยชน์และผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
ในการเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงต้อนรับบรรดาผู้นำเมื่อวันอาทิตย์ ( 31 ส.ค. ) สี จิ้นผิงกล่าวปราศรัยว่า การรวมกลุ่ม SCO ได้กลายมาเป็น "พลังสำคัญในการส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในรูปแบบใหม่" พร้อมกับเรียกร้องให้ SCO มีบทบาทมากขึ้นในการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ท่ามกลาง “ปัจจัยที่ไม่อาจคาดเดาได้” ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
นักวิเคราะห์ระบุว่า การประชุมสุดยอด SCO นับเป็นโอกาสที่รัฐบาลจีนจะได้สร้างความสมัครสมานสามัคคีกับกลุ่มประเทศโลกใต้ ( Global South ) หรือชาติกำลังพัฒนาทั่วโลก โดยบนเวทีการประชุมครั้งนี้ สี จิ้นผิงกำลังนำเสนอบทบาทของจีนในฐานะชาติมหาอำนาจที่มีความมั่นคง ซึ่งจะสนับสนุนปกป้องโลกกำลังพัฒนา เท่ากับเป็นการพยายามรวบรวมเสียงสนับสนุนจากนานาชาติเพื่อปฏิรูประเบียบโลกใหม่ ในขณะที่สหรัฐอเมริกาภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แสดงสัญญาณการถอยห่างจากบทบาทผู้นำโลก และกำลังทำสงครามการค้าไปทั่ว
ในส่วนของการหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ซึ่งถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเมื่อวันอาทิตย์ ( 31 ส.ค. ) นั้น สี จิ้นผิงกล่าวว่า จีนและอินเดียควรมาเป็น"เพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน" และชาติทั้งสองสามารถมีบทบาทสำคัญในกลุ่มประเทศโลกใต้ได้
การมาร่วมประชุม SCO ครั้งนี้นับเป็นการเยือนจีนครั้งแรกในรอบ 7 ปีของนายกรัฐมนตรีโมดี เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนถึงการปรับปรุงความสัมพันธ์ที่เคยเสื่อมถอยระหว่างกัน
สำหรับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย เป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวในการต้อนรับของสี จิ้นผิงและนาง เผิง ลี่หยวน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ก่อนการถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน
สี จินผิงทักทายด้วยการกุมมือทั้งสองของปูตินเอาไว้ แตกต่างจากที่เขาจับมือทักทายกับผู้นำคนอื่น จากนั้น ได้เรียกล่ามและพูดคุยกับปูตินนานเกือบ 2 นาที ซึ่งมากกว่าผู้นำคนอื่น
ปูตินมาเยือนจีนพร้อมเจ้าหน้าที่คณะใหญ่ ซึ่งเครมลินระบุว่าเป็นการเยือนเป็นเวลา 4 วัน “อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” โดยอาจมีการประกาศข้อตกลงความร่วมมือในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นอกจากนี้ ปูตินจะเข้าร่วมในพิธีสวนสนามเนื่องในวันแห่งชัยชนะสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองที่กรุงปักกิ่งในวันพุธนี้
มีผู้นำโลกและหัวหน้าองค์กรระหว่างประเทศราว 30 คนเข้าร่วมการประชุมสุดยอด ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-1 ก.ย. โดยกระทรวงต่างประเทศของจีนยกย่องว่าเป็น "งานยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ SCO" และ "เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญที่สุดในปีนี้สำหรับการทูตระหว่างประมุขแห่งรัฐและการทูตของจีน"
SCO ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2544 ( ค.ศ. 2001 ) ในฐานะกลุ่มความมั่นคงยูเรเซีย แต่ต่อมาได้ขยายขอบเขตครอบคลุมด้านอื่นๆ เช่น เศรษฐกิจและการค้า ประกอบด้วย 10 ชาติสมาชิก ได้แก่ จีน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน รัสเซีย ทาจิกิสถาน อุซเบกิสถาน อินเดีย ปากีสถาน อิหร่าน และเบลารุส โดยมีสภาประมุขแห่งรัฐ เป็นฝ่ายบริหารและมีอำนาจตัดสินใจสูงสุด กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า SCO ประกอบด้วย 26 ประเทศทั่วเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ซึ่งรวมถึงประเทศคู่เจรจา
ที่มา : ซินหัว / เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์