ในงานแถลงข่าวครั้งแรกของศูนย์ข่าวกลางที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 68 ณ กรุงปักกิ่ง จีนได้เปิดเผยความคืบหน้าในการเตรียมงานพิธีสวนสนามและกิจกรรมรำลึกครบรอบ 80 ปี ชัยชนะของจีนในสงครามต่อต้านญี่ปุ่นและสงครามโลกครั้งที่สอง พร้อมตอบคำถามจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับจุดยืนของจีนต่อสถานการณ์ระหว่างประเทศ
หง เหล่ย ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวตอบคำถามนักข่าวเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการจัดพิธีสวนสนามในวันที่ 3 กันยายนนี้ว่า
"ความรักสันติคือสิ่งที่ฝังรากอยู่ในสายเลือดของประชาชาติจีน ประสบการณ์ที่จีนเคยเผชิญกับการรุกรานจากมหาอำนาจในอดีต ทำให้เราตระหนักดีถึงคุณค่าของสันติภาพ การจัดพิธีสวนสนามครั้งนี้จึงเป็นการแสดงเจตนารมณ์อย่างแน่วแน่ของจีน ที่จะยึดมั่นในเส้นทางการพัฒนาอย่างสันติ ปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนรักษาสันติภาพของโลก"
หง เหล่ยเน้นว่า จีนเป็น “ประเทศมหาอำนาจที่มีสถิติด้านสันติภาพดีที่สุดในโลก” โดยหลังการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน จีนไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มทำสงคราม ไม่เคยยึดครองดินแดนของประเทศอื่น ไม่เคยทำสงครามตัวแทน และเป็นประเทศมหาอำนาจเพียงแห่งเดียวที่บัญญัติแนวทางการพัฒนาอย่างสันติไว้ในรัฐธรรมนูญ
เขายังระบุด้วยว่า จีนเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ส่งกำลังพลไปปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพมากที่สุด และมีบทบาทเสนอแนวคิดความมั่นคงโลกในแบบ "ร่วมกัน ครอบคลุม ร่วมมือ และยั่งยืน" เพื่อสร้างแนวทางแก้ปัญหาการขาดแคลนความมั่นคงในระดับสากล
“ไม่ว่าจีนจะพัฒนาไปไกลแค่ไหน จีนจะไม่แสวงหาความเป็นเจ้า ไม่รุกราน ไม่แข่งขันสะสมอาวุธ และจะยังคงเป็นพลังแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความก้าวหน้าของโลกอย่างมั่นคง”
เมื่อถูกถามถึงปฏิกิริยาของญี่ปุ่นต่อกิจกรรมรำลึกของจีน และข้อกล่าวหาว่าจีนอาจใช้ประวัติศาสตร์กดดันญี่ปุ่น หง เหล่ยตอบว่า
“การปกป้องความจริงทางประวัติศาสตร์และการยืนหยัดในมุมมองประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง เป็นเรื่องของมโนธรรมของมนุษย์ ความยุติธรรมระหว่างประเทศ และสันติภาพของโลก”
เขาระบุว่า ภายในญี่ปุ่นยังคงมีกลุ่มคนที่พยายามปฏิเสธการรุกรานในอดีต บิดเบือนข้อเท็จจริง และแม้แต่พยายามฟื้นฟูภาพลักษณ์ของอาชญากรสงคราม ซึ่งถือเป็นความท้าทายต่อระเบียบโลกหลังสงคราม และเป็นการดูหมิ่นประชาคมโลกที่รักสันติภาพ
“เราขอเรียกร้องให้ญี่ปุ่นเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์อย่างจริงจัง สำนึกถึงความผิดพลาดจากการรุกราน และแยกตัวออกจากแนวคิดชาตินิยมทหารอย่างเด็ดขาด”
สุดท้าย เมื่อถูกถามถึงการที่ คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ จะเดินทางเยือนจีนเพื่อร่วมพิธีในวันที่ 3 กันยายนนี้ หง เหล่ยตอบว่า
“จีนและเกาหลีเหนือเป็นเพื่อนบ้านที่มีมิตรภาพยาวนาน ทั้งสองประเทศเคยร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ในสงครามอันยากลำบาก”
เขากล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นวาระครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะของจีนในสงครามต่อต้านญี่ปุ่น และการปลดปล่อยเกาหลีเหนือจากการยึดครองของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
“การรักษา เสริมสร้าง และพัฒนาความสัมพันธ์จีน-เกาหลีเหนือ เป็นจุดยืนที่แน่วแน่ของพรรคและรัฐบาลจีน เราหวังจะเดินหน้าเสริมสร้างความร่วมมือกับฝ่ายเกาหลีในทุกมิติ และร่วมกันส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความยุติธรรมในภูมิภาค”
ภาพ ซินหัว